ในเรื่องการลงทุน “เวลา” ถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะนักลงทุนเต็มเวลา หรือ Full-Time Investor เวลาแห่งการทบต้นถือเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ผมเองเมื่อผันตัวมาเป็นนักลงทุน ต้นทุนเวลา เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเสมอ เวลาไหลไปแล้วไม่ย้อนกลับ หากเราทบต้นผลตอบแทนจากการลงทุน และทำให้ผันแปรผันตรงกับเวลาได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเวลาผ่านไป พอร์ตของเราจะโตขึ้นอย่างรวดเร็วมาก แบบคาดไม่ถึง
วิธีที่ผมใช้ในการผันพอร์ตจากเล็กกลายเป็นเติบใหญ่ เน้นซื้อเมื่อราคาเหมาะสม และขายทำกำไร นำเงินก้อนใหม่ไปลงทุนหุ้นตัวอื่น และทำซ้ำ ๆ กัน ทำให้พอร์ตเติบโตเร็วมาก สนใจติดตามกันได้เลยครับ
เทคนิคแรก … “มองหาหุ้นที่กำไรโตระเบิด”
หลักใหญ่ประการแรกที่ผมใช้ก็คือ การมองหาหุ้นที่กำไรโตระเบิด … ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าเป็นอะไรที่หาได้ยากในยุคสมัยหนึ่ง แต่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง ในภาวะวิกฤติช่วงปี 2020 กลับมีหุ้นแบบนี้เต็มไปหมด !?
การที่เราเลือกหุ้นที่กำไรโตระเบิดแบบ 100% 1000% นั่นแสดงว่า เรากำลังลงทุนในหุ้นขาขึ้น หมายความว่า การที่กำไรเติบโตในระดับนั้นไม่ธรรมดา และนั่นคือสิ่งที่เราต้องเอามาทำการบ้านต่อครับ
เทคนิคที่สอง … “ราคาหุ้นต้องยังไม่ตอบรับ”
เมื่อผมเจอหุ้นกำไรโตระเบิดแล้ว ผมต้องเช็กต่อว่า ราคาหุ้นตอบรับไปหรือยัง ? เพราะหลายครั้งเราเจอหุ้นเติบโตดี แต่ราคาหุ้นโตเร็วกว่า คือ ไปไกลถึงดาวอังคารแล้ว แบบนี้เราก็ลบออกจากเช็คลิสต์ได้เลยครับ
วิธีหาที่เราจะรู้ว่า ราคาหุ้นตอบรับไปแล้วหรือยัง เราต้องประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นออกมาให้ได้ ซึ่งต้องอ่านธุรกิจ อ่านงบการเงินย้อนหลังหลาย ๆ ไตรมาส แล้วจึงประเมินมูลค่าออกมา
เทคนิคที่สาม … “ต้องซื้อให้ได้เยอะ”
หากเราเจอหุ้นหลายเด้ง แต่มีแค่ 100 หุ้น มันคงไม่เปลี่ยนแปลงพอร์ตหุ้นของเราอย่างแน่นอน … เมื่อเราเจอหุ้นโตระเบิด เราต้องกล้าเคาะซื้อให้ได้มากที่สุด มีมากก็ซื้อมาก มีน้อยก็ซื้อเท่าที่มี ไม่ควรใช้มาร์จิ้น หรือโลภเกินความรู้
ผมเองเวลาเจอหุ้นที่ใช่ ก็จะเคาะซื้ออย่างหนัก คือ ซื้อให้ได้เยอะ ๆ แต่ไม่เคยใช้มาร์จิ้นซื้อหุ้น เพราะผมรู้ตัวว่า ผมไม่เก่งขนาดนั้น และนั่นทำให้ผมรอดตายจากวิกฤติหุ้นมาได้ทุกครั้ง
เทคนิคที่สี่ … “ต้องได้เป็นเด้ง”
การที่เราจะซื้อหุ้นซักตัว เราต้องคิดในหัวของเราก่อนเลยว่า หุ้นตัวนี้ให้ผลตอบแทนเราเป็นเด้ง ๆ ได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ ควรมองหาตัวอื่นทดแทน แต่ในบางกรณีที่ตลาดไม่เป็นใจ 20-30% ก็น่าลงทุนแล้ว สำหรับช่วงเวลาแบบนี้ ผมคิดว่า เราควรมองหาผลตอบแทนที่มากกว่านั้น
เทคนิคที่ห้า … “ต้องเร็ว”
สิ่งที่ผมจดจ่ออีกประการก็คือ ผมต้องสามารถทำผลตอบแทนได้เร็ว เพราะสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญอย่าง “ต้นทุนเวลา” ทำให้ผมต้องหาหุ้นที่ทำผลตอบแทนเร็ว ในห้วงปี 2020 มีหุ้น 2 ตัวที่ผมทำผลตอบแทนได้เกิน 100% ภายใน 3 เดือน และก่อนหน้านั้นมีหุ้นบางตัวทำผลตอบแทนได้ 150% แต่ต้องใช้เวลาถึง 4 ปี ลองคิดดูนะครับว่า ถ้าทำผลตอบแทนช้าจะเสียเวลาขนาดไหน
แต่ข้อเตือนใจก็คือ …
การทำผลตอบแทนเร็ว ต้องแลกมากับการทำการบ้านอย่างหนัก ถ้าคุณไม่คิดว่า จะทุ่มเททำการบ้านหุ้นแบบหามรุ่งหามค่ำ ไม่ควรหวังผลตอบแทนเลิศหรูเกินความรู้ เพราะนั่นจะทำให้เราต้องเจ็บตัวอย่างหนักอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
#นายแว่นลงทุน
**สนใจลงทุนในพอร์ต RUNNING for Growth พอร์ตกองทุนรวมหุ้นซึ่งจัดโดยนายแว่นลงทุน คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเลย https://www.finnomena.com/port/naiwaen