หากนักลงทุนท่านใดสนใจคว้าโอกาสเติบโตในระยะยาวผ่านหุ้นขนาดกลาง-เล็กในสหรัฐฯ ที่บริหารโดยทีมงานคุณภาพคุ้นเคยอย่าง Baillie Gifford ด้วยกลยุทธ์ US Discovery ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนที่คุณไม่ควรพลาด
สรุปข้อมูลที่น่าสนใจของกลยุทธ์ US Discovery จาก Baillie Gifford
- เน้นลงทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็กตามสไตล์ Baillie Gifford
- หุ้นกลุ่มดังกล่าวในระยะยาวสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ถึงแม้จะมีความผันผวน
- ลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตที่รอคอยการค้นพบ
- ลงทุนในสหรัฐฯ ภูมิภาคที่มีหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีเทคโนโลยี ศักยภาพหรือโมเดลธุรกิจที่สามารถเข้าไป Disrupt บริษัทรูปแบบเดิม ๆ ได้ ทำให้สร้างการเติบโตได้สูง
- มีขอบเขตการลงทุนในหุ้นที่กว้างและหลากหลายกว่าดัชนี S&P 500
- มีขอบเขตการลงทุนในหุ้นที่กว้างและหลากหลายกว่ากว่าดัชนี S&P 500
- หุ้นขนาดเล็กมีข้อได้เปรียบ อย่างการที่มีจำนวนนักวิเคราะห์ติดตามต่อหุ้นน้อยกว่า ส่งผลให้ผู้เล่นอื่น ๆ ในตลาดส่วนใหญ่อาจยังไม่รับรู้ ดังนั้นหากใครเจอก่อนก็อาจได้รับโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มากกว่า
- บริษัทขนาดเล็กในสหรัฐฯ มักถูกตกเป็นเป้าหมายในการทำ M&A (ควบรวบหรือซื้อกิจการ) อีกทั้งสหรัฐฯ ยังเป็นประเทศที่มีขนาดการทำธุรกรรม M&A สูงที่สุดมากกว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถึง 3 เท่า ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปลดล็อกมูลค่าหุ้นขนาดเล็ก
- Baillie Gifford ไม่มีผู้ถือหุ้น (Board ต่าง ๆ ) จากภายนอก ทำให้ไม่มีแรงกดดันจากผู้ที่มีสิทธิเสียงและมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง เพื่อที่จะเร่งให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์ในการลงทุนของกองทุน Baillie Gifford US Discovery
- คัดเลือกบริษัทที่เข้ามาแก้ปัญหาหรือพัฒนาเพื่อให้แข่งขันกับผู้อื่นได้
- มีเทคโนโลยีหรือโมเดลธุรกิจที่สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในตลาดได้
- ผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์และหาโอกาสในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัท
- บริษัทต้องมีความคล่องตัวและสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
- ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Growth และกลุ่ม New Economy ที่สร้างการเติบโตได้สูง
- เน้นลงทุนในหุ้นเติบโต ลงทุนใน 40-75 บริษัท เพื่อกระจายความเสี่ยงมากขึ้น (หากเทียบกับกองทุนของ Baillie Gifford อื่น ๆ) และลงทุนในหุ้นที่มี Market cap ต่ำกว่า 10,000 ล้านเหรียญตอนเริ่มลงทุน โดย 80% ของ NAV ทั้งหมด ต้องมีมูลค่าไม่เกิน 30,000 ล้านเหรียญ ในขณะที่สัดส่วนที่เหลืออีก 20% เว้นเผื่อไว้ในกรณีที่บริษัทต่าง ๆ เกิดการเติบโตจนมูลค่าเกิน 30,000 ล้านเหรียญขึ้นไป
บริหารโดยทีมงานที่มากประสบการณ์
- Baillie Gifford จะมองหาและเริ่มลงทุนในหุ้นเติบโตที่มีความโดดเด่น ตัวอย่างบริษัท เช่น Tesla ซึ่งเป็นหุ้นที่สามารถผลตอบแทนให้กับ Baillie Gifford ได้กว่า 100 เท่า
- ทีมงานการลงทุนของกองทุน US Discovery เป็นทีมงานเดียวกับ Global Discovery ซึ่งมีการค้นพบว่าหุ้น 20 บริษัทที่ทำผลงานได้ดีที่สุดผ่านการลงทุนในกลยุทธ์ Global Discovery มากกว่า 60% มาจากสหรัฐฯ ดังนั้นการแตกแขนงออกมาเหมือนการรีดศักยภาพทีมงานให้ดียิ่งขึ้น
สำรวจความน่าสนใจของหุ้นที่ Baillie Gifford US Discovery ลงทุน
- ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน: Novocure
- บริษัทผู้คิดค้นนวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งและเนื้องอกในสมองโดยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นรายแรก มีความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างการมีสิทธิบัตร และเป็นผู้นำในการคิดค้นนวัตกรรม มีแนวโน้มเติบโตได้สูงเพราะการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถใช้รักษามะเร็งในส่วนอื่น ๆ ได้เพิ่มเติม
- ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน: Blackline
- บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านการบัญชีเป็นรายแรก ๆ ในรูปแบบ SaaS หรือให้บริการผ่านคลาวด์ โดยไม่ต้องลงทุนด้านเซิร์ฟเวอร์ ให้บริการแบบเช่าซื้อ (Subscription) หรือแบ่งตามปริมาณการใช้งานในราคาย่อมเยาเอื้อมได้ถึง บริษัทกล้าเปลี่ยนแปลง มีโอกาสเติบโตได้สูงจากการขยายขอบเขตในอนาคตจากการนำเสนอขายในรูปแบบ ERP หรือการปรับเปลี่ยนข้อมูลในองค์กร
- ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน: Upwork
- แพลตฟอร์มการหางานเชื่อมต่อผู้ประกอบการและฟรีแลนซ์ที่มีทักษะสูงซึ่งผ่านการทดสอบ สามารถรีวิวผลงานในอดีตได้ ช่วยให้ฟรีแลนซ์สร้างพอร์ต และช่วยให้นายจ้างจัดการงานยิบย่อย (Ad hoc) ได้ สร้าง value ให้ทั้งสองฝั่ง มีสตอรี่จากโควิดที่คนหันมาเป็นฟรีแลนซ์จากการตกงาน มีผู้ใช้งาน (Users) ที่มีศักยภาพในสร้างมูลค่าสูงในอนาคต
ผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุน Baillie Gifford US Discovery
- ผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปีและ 10 ปี โดดเด่น ชี้ให้เห็นโอกาสเติบโตในระยะยาวในระดับที่ดีกว่าดัชนี
Baillie Gifford US Discovery ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวผ่านหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีโอกาสเติบโตสูงในสหรัฐฯ บริหารโดย บลจ. น้ำดีมีคุณภาพอย่าง Baillie Gifford ที่มีสไตล์การวิเคราะห์หุ้นเฉพาะตัวและทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างการเติบโตของเงินทุนในระยะยาว
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน Baillie Gifford US Discovery
Baillie Gifford US Discovery เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนผู้มองหาโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ขนาดกลาง-เล็กที่มีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งปัจจุบันทาง บลจ.ยูโอบี กำลังมอบหมายให้ทาง Baillie Gifford ช่วยจัดการ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ บลจ.ยูโอบี โทร 02 786 2222 หรือ ติดต่อเข้ามาที่ FINNOMENA โทร 02 026 5100
*หมายเหตุ : ปัจจุบันกองทุนรวมได้รับการอนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจากสำนักงาน กลต. เรียบร้อยแล้ว
คำเตือน
- ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
- กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับทาง UOB โทร 02 786 2222 กด 0 หรือ www.uob.co.th