หากใครกำลังมองเห็นโอกาสของการเติบโตของภูมิภาคเอเชียในระยะยาว TMBAGLF และ SCBAOA ถือเป็น 2 ตัวเลือกที่ทุกคนไม่ควรมองพลาด ส่วนเนื้อในจะเหมือนหรือแตกต่างกันยังไงนั้น ผมขอพาทุกคนไปสำรวจผ่านบทความนี้กันครับ
เริ่มแรกขอพาทุกคนไปลุยนโยบายกองทุนแม่กันก่อน เนื่องจากเป็นพระเอกหลักของทั้ง 2 กองทุนที่ลงทุนในกองต่างประเทศทั้งคู่
สร้างแผนและเปิดบัญชีกองทุนรวมกับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนกว่า 1,000 กอง จาก 22 บลจ. ครอบคลุมทุกบลจ. ในประเทศไทย สร้างแผนและเปิดบัญชี คลิก: https://finno.me/open-plan
ประชันนโยบายกองทุนหลักเหมือนหรือต่าง?
TMBAGLF
- ลงทุนในกองทุนต่างประเทศ Schroder International Selection Fund – Emerging Asia Share Class A2 Acc USD
- เน้นเอาชนะดัชนีหุ้นเอเชียสามัญอย่าง MSCI Emerging Market Asia (Net TR)
- เน้นสร้างเงินทุนให้เติบโตในช่วง 3-5 ปี หลังหักค่าธรรมเนียม
- ลงทุนในหุ้นหรือบริษัทในตลาดเกิดใหม่เอเชีย
SCBAOA
- ลงทุนในกองทุนต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Fund – Asia Opportunity Fund Share Class Z Accumulation USD
- เน้นลงทุนระยะยาวในบริษัท ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น
- ลงทุนในจังหวะเวลาที่บริษัท นั้น ๆ มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงตามความเห็นของทีมงานด้านการลงทุน
- ลงทุนในบริษัท ที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขันและสามารถนำข้อได้เปรียบที่ว่ามาสร้างการเติบโตทำเงินได้
- นอกจากนั้นยังคัดเลือกบริษัท ผ่านความยั่งยืนโดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงแบบ Disruptive และ ความแข็งแกร่งทางการเงิน
สรุปนโยบายกองทุนหลักเหมือนหรือต่าง อย่างไร?
- TMBAGLF มีจุดเด่นอย่างการเลือกใช้ผลตอบแทนหลังค่าธรรมเนียมมาวัดกับ benchmark ซึ่งถือได้ว่าตรง ๆ ไม่มีเล่นแง่ และตั้งเป้าหมายสร้างผลตอบแทนในระยะกลางซึ่งถือได้ว่ามีความท้าทาย แต่ที่ผ่านมากองทุนก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด
- SCBAOA มีจุดเด่นอย่างกลยุทธ์การลงทุนที่ครอบคลุมทั้งในแง่ของการวิเคราะห์และความยั่งยืนของบริษัท เหมาะสำหรับการลงทุนแบบยาว ๆ
- สรุปโดยรวม หากใครสนใจวัดกันระยะกลาง-ยาว TMBAGLF น่าจะตอบโจทย์ ในขณะที่ SCBAOA หากดูจากนโยบายจะเน้นการลงทุนแบบระยะยาวกันไปเลย
ประชันสัดส่วนประเทศกองทุนหลักเหมือนหรือต่าง?
ภาพแสดงสัดส่วนประเทศหลักที่ลงทุน ที่มา: Schroders Fund Fact Sheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
ภาพแสดงสัดส่วนประเทศหลักที่ลงทุน ที่มา: Morgan Stanley Fund Fact Sheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
TMBAGLF
- สัดส่วนเน้นหนักไปทางจีนว่าที่ประเทศมหาอำนาจคนใหม่ของโลก ตามมาด้วยไต้หวันและเกาหลี ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของ Semiconductors อยู่แล้ว และมีบริษัท เทคโนโลยี ที่ไว้ใจได้อย่าง Samsung และ TSMC
SCBAOA
- เน้นหนักจีนเช่นเดียวกัน แต่มีข้อแตกต่างอย่างอินเดียที่เข้ามาแทรกในสัดส่วนที่เยอะกว่า โดยอินเดียมีจุดเด่นคล้าย ๆ กับจีนตรงที่มีประชากรเยอะมาก ๆ มีแรงงานเยอะ บริโภคกันได้อู้ฟู่ซึ่งกำลังกลายมาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีตลาดการบริโภคใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐและจีน
สรุปสัดส่วนประเทศที่ลงทุนของกองทุนหลักเหมือนหรือต่าง อย่างไร?
- TMBAGLF ดูจะเน้นการลงทุนในประเทศที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วในตอนนี้โดยมีส่วนผสมทั้งจีน ไต้หวัน และเกาหลี ซึ่งสามารถเห็นผลการลงทุนได้ในระยะเวลาที่ไม่นานมาก ในขณะที่ตัว SCBAOA จะเน้นหนักไปทางจีนและอินเดีย ซึ่งมีการเติบโตในระยะยาวที่น่าสนใจ ชี้ให้เห็นอีกครั้งว่าทั้งสองกองทุน มีรูปแบบการลงทุนที่แตกต่างกัน
ประชันสัดส่วนประเทศเซ็กเตอร์หลักที่ลงทุนเหมือนหรือต่าง?
ภาพแสดงสัดส่วนเซ็กเตอร์หลักที่ลงทุน ที่มา: Schroders Fund Fact Sheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
ภาพแสดงสัดส่วนเซ็กเตอร์หลักที่ลงทุน ที่มา: Morgan Stanley Fund Fact Sheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
TMBAGLF
- เน้นหนักลงทุนไปในเซ็กเตอร์เทคโนโลยีและ Consumer Discretionary หรือสินค้าฟุ่มเฟือย ที่แทบจะเรียกได้ว่า Blend รวมไปกับเทคโนโลยีเรียบร้อยแล้ว โดยมีกลุ่มการเงินให้เห็นบ้าง ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรสำหรับตลาดเกิดใหม่ที่กำลังอยู่ในช่วงเติบโต ที่ธนาคารยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเงินทุนและยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อยู่
SCBAOA
- มาแบบอินดี้สักหน่อยโดยที่สัดส่วนของกลุ่มการเงินถือได้ว่าเยอะเป็นอันดับสองและสูงกว่า Index อีกทั้งยังมีส่วนของ Consumer Staples เข้ามาด้วย ซึ่งหามาดูที่สัดส่วน Sector ในตอนนี้ กองทุนอาจจะดูบู๊น้อยกว่าตัว TMBAGLF แต่ด้วยความที่เป็นกองทุนระยะยาว Sector พวกนี้ในตลาดเกิดใหม่ก็น่าจะมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกมาก
สรุปสัดส่วนประเทศที่ลงทุนของกองทุนหลักเหมือนหรือต่าง อย่างไร?
- ทั้งสองกองทุนลงทุนใน Sector หลักของโลก ณ ตอนนี้มีสัดส่วนเซ็กเตอร์หลักอย่าง Consumer Discretionary และ Information Technology ทั้งคู่ซึ่งถือได้ว่าเข้ามามีบทบาทกับโลกของเราค่อนข้างมาก หลังเทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนแล้วเป็นที่เรียบร้อย และสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีทั้งคู่
- สัดส่วนเซ็กเตอร์ของ SCBAOA ดูจะบู๊น้อยกว่า TMBAGLF แต่ก็เน้นการเติบโตระยะยาวและตรงกับนโยบายของกองทุนแม่ที่เน้นเข้าลงทุนตามจังหวะที่บริษัทมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง
ประชันสัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุนเหมือนหรือต่าง?
ภาพแสดงสัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน ที่มา: Schroders Fund Fact Sheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
ภาพแสดงสัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน ที่มา: Morgan Stanley Fund Fact Sheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
TMBAGLF
- หลัก ๆ แล้วลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่ทุกคุ้นน่าจะคุ้นหูกันอยู่แล้วอย่าง TSMC หุ้นผู้ผลิตชิปตัวเลือกหลักของ Apple ซึ่งอุตสาหกรรมผลิตชิปถือได้ว่าเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่เติบโตได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมกลางน้ำที่มีอัตราส่วนกำไรที่อยู่ในระดับสูง
- มีหุ้นรุ่นเก๋าอย่าง Samsung ผู้ผลิตมือถือเลื่องชื่อ สัดส่วนยอดขายอันดับ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟน แซงหน้าพี่ใหญ่ที่หลายคนชื่นชอบเป็นที่เรียบร้อยในช่วงที่ผ่านมา
- มีหุ้นเทคเลื่องชื่อจากเมืองจีนอย่าง Alibaba ที่แม้จะเจอมรสุมจากทางรัฐ แต่ด้วยความที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงมีความแข็งแกร่ง จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ Alibaba อย่าง Taobao และ Tmall ยังมียอดการเข้าชมที่สูงถึง 455.1 ล้านครั้งต่อเดือน และ 177.1 ล้านครั้งต่อเดือนตามลำดับ อีกทั้ง Alibaba ยังเป็นหุ้นที่ Charlie munger นักลงทุนรุ่นเก๋าคู่หู Warren Buffett เลือกลงทุนอีกด้วย
SCBAOA
- มีหุ้นหลักเบอร์ 1 เป็น Meituan แอปพลิเคชั่นส่งอาหารชื่อดังจากจีน มียอดการสั่งอาหารออนไลน์สูงถึง 32.3 ล้านรายการ เติบโต 113.5% (YoY) ในไตรมาส 1 ปี 2021
- ตามมาด้วยสัดส่วนหลักเบอร์ 2 อย่าง Hdfc Bank ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของอินเดีย ให้บริการครบวงจรทั้งในเชิงพาณิชย์และการลงทุน มีสินทรัพย์ในกลุ่ม Private Bank มากกว่า 15 ล้านล้านรูปี หรือคิดเป็นราว ๆ 2 แสนล้านเหรียญ ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอินเดีย
- นอกจากนั้นยังมีหุ้นที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักอย่าง Naver ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเสิร์ชเอนจิ้นออนไลน์ และเป็นเจ้าของแอปพลิเคชั่นคุ้นหูชาวไทยอย่าง Line
สรุปสัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุนเหมือนหรือต่าง อย่างไร?
- ทั้งสองกองทุนยังมีสัดส่วนหุ้นหลักเป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั้งคู่
- ข้อแตกต่างอยู่ที่ Top Holdings 3 อันดับแรกของ SCBAOA มีหุ้น Value อย่างธนาคารติดมาให้เห็นบ้าง จึงอาจชี้ให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับมูลค่าที่มากกว่า ในขณะที่ TMBAGLF เน้นหนักหุ้นเทคและมีสัดส่วน Top Holdings หลัก ๆ เป็นหุ้นธนาคารเพียงเล็กน้อย
เปรียบเทียบผลตอบแทนย้อนหลังใครแกร่งกว่าใคร?
เนื่องด้วยตัวดัชนี Benchmark ที่ใช้วัดศักยภาพของกองทุนเป็นคนละตัว ดังนั้นจึงขอนำผลตอบแทนของกองแม่ทั้ง 2 กองมาใช้ละกันครับ น่าจะแฟร์กว่า
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุน Schroder International Selection Fund – Emerging Asia ที่มา: Schroders Fund Fact Sheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุน Morgan Stanley Investment Fund – Asia Opportunity Fund ที่มา: Morgan Stanley Fund Fact Sheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
จากภาพเราก็จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนย้อนหลังของทั้ง 2 กองทุน สามารถเอาชนะ Benchmark ได้เป็นอย่างดี เป็นคุณค่าที่นักลงทุนหุ้นเอเชียคู่ควร
ปิดท้ายด้วยการเปรียบเทียบนโยบายการลงทุนกองทุน TMBAGLF และ SCBAOA
TMBAGLF
- เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ Schroder International Selection Fund – Emerging Asia เพียงกองทุนเดียวในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 6
SCBAOA
- เน้นลงทุนในกองทุนต่างประเทศอย่าง Morgan Stanley Investment Fund – Asia Opportunity Fund เพียงกองทุนเดียวในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 6
บทสรุปการเปรียบเทียบกองทุน TMBAGLF และ SCBAOA
- TMBAGLF เป็นกองทุน Commit ตัวเองระดับหนึ่งว่าจะสร้างผลตอบแทนในระยะ 3-5 ปี และเน้นสร้างผลตอบแทนที่ดีในกรอบเวลาที่ไม่นานมากให้ได้ในระดับที่ดี ในขณะที่ตัว SCBAOA จะเน้นไปที่ผลการลงทุนในระยะยาว
- ในด้านของค่าธรรมเนียม TMBAGLF ดูจะมีภาษีดีกว่า SCBAOA เล็กน้อย เพราะ มีค่าธรรมเนียมในส่วนที่เทียบกันได้ต่ำกว่า สังเกตได้จากรูปด้านล่างเลยครับ
ภาพแสดงค่าธรรมเนียมกองทุน TMBAGLF ที่มา: TMBAM Fund Factsheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
ภาพแสดงค่าธรรมเนียมกองทุน TMBAGLF ที่มา: TMBAM Fund Factsheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
ภาพแสดงค่าธรรมเนียมกองทุน SCBAOA ที่มา: SCB Fund Factsheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
ภาพแสดงค่าธรรมเนียมกองทุน SCBAOA ที่มา: SCB Fund Factsheet วันที่: 30 มิถุนายน 2021
- จากสัดส่วนในตอนนี้ TMBAGLF จะมีความบู๊มากกว่า SCBAOA เพราะ Weight หลัก ๆ ถือได้ว่าค่อนข้างหนักหุ้นเทคโนโลยี
- จากสัดส่วนประเทศที่ลงทุน SCBAOA เน้นหนักจีนมากกว่า TMBAGLF แต่หากสังเกตจาก Top Holdings ถือได้ว่าลงในบิ๊กเทคจีนไม่มากและกระจายไปในหุ้นจีนรูปแบบอื่น ๆ สบายใจจากมาตรการควบคุมหุ้นเทคโนโลยีจีนได้ระดับหนึ่ง เช่นเดียวกันกับ TMBAGLF
สร้างแผนและเปิดบัญชีกองทุนรวมกับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนกว่า 1,000 กอง จาก 22 บลจ. ครอบคลุมทุกบลจ. ในประเทศไทย สร้างแผนและเปิดบัญชี คลิก: https://finno.me/open-plan
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”
References
https://www.counterpointresearch.com/global-smartphone-share/
https://www.embibe.com/exams/top-10-largest-banks-in-india/
https://www.finnomena.com/fund/compare/fee?fund=TMBAGLF,SCBAOA
https://www.tmbameastspring.com/THDocs/FS/I13_master_th_03.pdf
https://www.scbam.com/medias/fund-doc/master-fund/SCBAOA_MASTER.pdf