ในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหุ้นใด ๆ ก็ตาม การลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีดูจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากศักยภาพการเติบโตอันเหนือชั้น และความสามารถในการสร้างรายได้กลางวิกฤติ เรามาดูกันว่าสองกองทุนที่เน้นหนักลงทุนในหุ้นเทคอย่าง KFHTECH-A กับ ONE-UGG-RA มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
สรุปจุดเด่น KFHTECH-A
- เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
- ลงทุนผ่าน BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก*
- มีการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นเทคโนโลยีในจีนที่แข็งแกร่งอย่าง Alibaba และ Tencent
- เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบและเชื่อมั่นว่าจีนจะก้าวมาเป็นมหาอำนาจในอนาคตได้ เพราะกองทุนกระจายการลงทุนในจีนเป็นสัดส่วนที่มากกว่าปกติ
สรุปจุดเด่น ONE-UGG-RA
- เลือกหุ้นได้แบบไร้ขีดจำกัดทั่วโลก ทำให้ไม่พลาดโอกาสจากหุ้นเติบโตในประเทศต่าง ๆ
- เลือกหุ้นผ่านผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ที่มีความเข้าใจธุรกิจอย่างดีเยี่ยม
- เน้นลงทุนใน “หุ้นเด้ง” หรือ “หุ้นเติบโตหลายเท่า” ที่สร้างผลตอบแทนได้สูง
- ผลการดำเนินงานย้อนหลังโดดเด่นเหนือดัชนีชี้วัดหุ้นโลก** (MSCI AC World Index) เป็นอย่างมาก
*ที่มา: mutualfunddirectory.org วันที่: 30 มิถุนายน 2020
**ที่มา: bailliegifford.com วันที่: 31 สิงหาคม 2020
หากลงทุนใน KFHTECH-A คุณจะเติบโตไปกับอะไร?
หากคุณตัดสินใจเลือก KFHTECH-A คุณก็กำลังเลือกที่จะเติบโตไปกับหุ้นเทคโนโลยี หุ้นที่มาพร้อมกับศักยภาพเติบโตสูงในระยะยาว และมีแนวโน้มเป็น “ปรากฎการณ์” ใหม่ของโลก
ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งในด้านพื้นฐานที่ทำให้ทำกำไรได้แม้ยามวิกฤติ หรือจะเป็นพฤติกรรมของผู้คนที่กำลังจะเปลี่ยนไปหลังยุค COVID-19 ที่ทำให้ผู้คนได้มาทดลองใช้ชีวิตแบบ “ออนไลน์ ปลายนิ้ว”
แต่ก่อนเราตั้งชื่อยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงว่า “Globalisation” (โลกาภิวัฒน์) ยุคต่อไปก็คงจะเป็น “Technologicalisation” หรือ เทคโนโลยีภิวัฒน์ นี่แหละครับ
โดย KFHTECH-A ลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง BlackRock World Technology Fund ที่ได้รับการการันตี 5 ดาวจาก Morningstar เว็บไซต์ค้นหากองทุนชั้นนำสำหรับทุกครัวเรือน
“การันตีคุณภาพ 5 ดาวจาก Morningstar”
*ข้อมูลการให้ Ratings ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2020
“ผลตอบแทนย้อนหลังล่าสุดโดดเด่น”
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน BGF World Technology Fund ที่มา: blackrock.com วันที่: 31 ธันวาคม 2020
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
หากลงทุนใน ONE-UGG-RA คุณจะเติบโตไปกับอะไร?
คงไม่ต้องพูดกันเยอะสำหรับกองทุน ONE-UGG-RA กองทุนผลตอบแทนเหลือเชื่อ ที่มาพร้อมกับสไตล์การลงทุนอันเป็นเอกลักษณ์จาก Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ที่ปลดตัวเองจากข้อจำกัดในการเลือกหุ้นเฉพาะภูมิภาคชั้นนำ และเลือกที่จะเฟ้นหาหุ้นเติบโตทั่วโลกที่ทางกองทุนเชื่อว่าจะสร้างการเติบโตได้หลายเท่าหรือเป็น “หุ้นเด้ง”
แต่ถึงอย่างนั้นกองทุนแบบนี้อาจอาศัยฝีมือในการจัดการค่อนข้างมาก เพราะ หากเลือกหุ้นผิดพื้นฐานเปลี่ยนก็ต้องพร้อมที่จะหาโอกาสใหม่ ๆ เสมอ ๆ แต่ถึงอย่างไร ONE-UGG-RA ก็ได้พิสูจน์ตัวเองมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรว่า ทางกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างยอดเยี่ยมและเหนือดัชนีหุ้นโลกอย่าง (MSCI ACWI Net GBP Index)
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund (เส้นสีนํ้าเงิน) เทียบกับดัชนีหุ้นโลก MSCI ACWI (เส้นสีแดง) ที่มา: morningstar.com วันที่: 31 มกราคม 2021
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
KFHTECH-A กับ ONE-UGG-RA แตกต่างกันอย่างไร?
ข้อแตกต่างสำคัญระหว่าง ONE-UGG-RA กับ KFHTECH-A ก็คือ ตัวกองทุน ONE-UGG-RA ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่ในหุ้นหมวดเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ตัวกองทุนสามารถเฟ้นหาหุ้นเติบโตได้ทั่วโลกและทุกภูมิภาค เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ซึ่งก็จะแตกต่างกับตัวกองทุน KFHTECH-A ที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่าง ๆ เป็นหลัก
แต่ถึงอย่างนั้นหากนำผลงานของกองทุนเทคโนโลยี มาเทียบกับกองทุนหุ้นโลกก็คงจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก ดังนั้นเอาเป็นว่าหากใครที่ชอบและสนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็ให้เป็นหน้าที่ของกองทุน KFHTECH-A ส่วนใครที่ชอบการเฟ้นหาหุ้นเติบโตทั่วโลกและเชื่อมั่นในฝีมือผู้จัดการกองทุนและทีมงานก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกองทุน ONE-UGG-RA ครับ
พาไปขุดกองทุน KFHTECH-A
สรุปสัดส่วนการลงทุนและแนวโน้มในอนาคต
- มีสัดส่วนการลงทุนในหมวดธุรกิจฮาร์ดแวร์ค่อนข้างน้อย
- เน้นหนักการลงทุนในหมวดธุรกิจซอฟต์แวร์ที่เป็นธุรกิจที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
- ธุรกิจฮาร์ดแวร์บางส่วนอาจตกยุคไปบ้างแล้ว เช่น เครื่องสแกนบาร์โค้ด หรือ เครื่องแคชเชียร์คิดเงิน
- ธุรกิจซอฟต์แวร์ไม่ต้องเผชิญปัญหาเรื่องการผลิต ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญหลัง COVID-19
สัดส่วนการลงทุนและแนวโน้มในอนาคต
ภาพแสดงสัดส่วน Sector การลงทุนของกองทุน BGF World Technology Fund ที่มา: blackrock.com วันที่: 31 ธันวาคม 2020
จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดคือทางกองทุนเองถือครอง Sector อย่าง ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ค่อนข้างน้อยหากเทียบกับดัชนีหุ้นเทคโนโลยี ที่เป็นดัชนีเทียบเคียงหลักของกองทุน
โดยอาจมีสาเหตุมาจากการที่หมวดอุตสาหกรรมในธุรกิจส่วนนี้ ดูเหมือนจะเป็นอุตสาหกรรมที่ดูรวม ๆ แล้วอาจไม่ได้มีความโดดเด่นเท่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมอุปกรณ์สำหรับการสื่อสาร (Communications Equipment) ที่ผลิต routers อินเทอร์เน็ตหรือระบบโครงข่ายต่าง ๆ หรือจะเป็นอุตสาหกรรมอย่าง เครื่องมือเครื่องใช้อิเล็คทรอนิกส์ (Electronic Equipment & Instruments) ที่ผลิตเครื่องสแกนบาร์โค้ด หรือ เครื่องคิดเงินต่าง ๆ ที่ดูแล้วอาจจะตกยุคไปในอนาคต
ซึ่งข้อแตกต่างของธุรกิจเหล่านี้กับธุรกิจซอฟต์แวร์ก็คือ ธุรกิจดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาในการขยายธุรกิจ ต่างจากธุรกิจประเภทซอฟต์แวร์ที่หากทำสำเร็จก็สามารถขยายธุรกิจ ส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด หรืออัปเดตผ่านทางระบบ Cloud ที่เป็นระบบเก็บข้อมูลออนไลน์
นอกจากนั้นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับฐานการผลิตหลัง COVID-19 ก็อาจส่งผลให้ธุรกิจเหล่านี้อาจต้องมีการยกเครื่องปรับเปลี่ยน กลยุทธ์การผลิตกันไปบ้างหลังการ Lockdown ทำให้เห็นชัดแล้วว่าธุรกิจเหล่านี้ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งการปรับเปลี่ยนก็อาจทำให้ต้นทุนของบริษัทเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทไปบ้างในระยะสั้น ๆ
ผลตอบแทนย้อนหลัง
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน BGF World Technology Fund ที่มา: blackrock.com วันที่: 31 ธันวาคม 2020
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ทางด้านของผลตอบแทนย้อนหลังทางกองทุน BlackRock World Technology Fund ก็ถือว่าทำได้โดดเด่นในระยะกลาง-ยาวช่วงล่าสุดไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี, 6 เดือน, 1 ปี, 3 ปี, 5 ปี, และ นับตั้งแต่จัดตั้ง หรืออาจจะเรียกได้ว่ากองทุน BlackRock World Technology Fund เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา
พาไปขุดกองทุน ONE-UGG-RA
สรุปสัดส่วนการลงทุนและแนวโน้มในอนาคต
- ลงทุนหนักไปทางกลุ่มธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยที่เติบโตไปพร้อมกับรายได้ของผู้คน
- เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอาจทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้กลับมาทำกำไร พร้อมดันราคาหุ้นต่อไปได้
สัดส่วนการลงทุนและแนวโน้มในอนาคต
ภาพแสดงสัดส่วน Sector การลงทุนของกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ที่มา: morningstar.com วันที่: 30 พฤศจิกายน 2020
มีการลงทุนเน้นหนักไปยังกลุ่มสินค้าที่เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจหรือ Consumer Cyclical ที่ในตอนนี้มีความเป็นได้ว่า จะเติบโตสอดคล้องไปกับสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นยอดค้าปลีก หรือการฟื้นตัวของภาคการผลิตและภาคการบริการ (PMI) โดยสินค้าที่อยู่ในหมวดวัฎจักรนั้นจะมีการใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มเติม หลังผู้คนเริ่มกลับมามีรายได้อีกครั้งหนึ่ง
ผลตอบแทนย้อนหลัง
“ผลตอบแทนย้อนหลังโดดเด่นทุกช่วงเวลา!”
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund (เส้นสีนํ้าเงิน) เทียบกับดัชนีหุ้นโลก MSCI ACWI (เส้นสีแดง) ที่มา: morningstar.com วันที่: 31 มกราคม 2021
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สำหรับตัวกองทุน ONE-UGG-RA ที่ลงทุนใน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากเพราะ เป็นหนึ่งในกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้ทุกช่วงเวลา ตั้งแต่ที่มีการจัดตั้ง ดังนั้นการเลือกหุ้นแบบไร้กฎเกณฑ์ใด ๆ มาจำกัดของกองทุน ก็ได้พิสูจน์ผ่านผลตอบแทนแล้วว่าช่วงที่ผ่านมา ทางกองทุนทำได้จริง ๆ
ทั้ง ONE-UGG-RA และ KFHTECH-A น่าลงทุนแล้วหรือยัง?
หากพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ทั้งสองกองทุนไม่ว่าจะเป็นกองทุนอมตะอย่าง ONE-UGG-RA หรือ KFHTECH-A ก็ถือได้ว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาวทั้งสิ้น และยิ่งเป็นสถานการณ์ในตอนนี้ที่ตลาดหุ้น ลงมาพักเก็บแรง ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย สำหรับการลงทุนเพิ่ม เพื่อเป้าหมายในการสร้างผลตอบระยะยาว
แต่จุดสำคัญอาจจะเป็นดังที่กล่าวไปครับ เพราะ หากว่ากันยาว ๆ แล้ว KFHTECH-A อาจต้องจำกัดการลงทุนอยู่ในหมวดหมู่เทคโนโลยี เทียบกับตัว ONE-UGG-RA ที่เปิดโอกาสให้ตัวเองลงทุนได้ทั่วโลก
ถึงอย่างนั้นท้ายที่สุดแล้วการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีดู ๆ แล้วก็ยังเป็นแนวโน้มหลักในระยะยาว และในตอนนี้ทั้งสองกองเองก้เน้นหนักไปที่การลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีไม่ต่างกัน
ก็จบกันไปนะครับสำหรับการรีวิวกองทุนหุ้นเทคโนโลยี และหากใครที่สนใจลงทุนในสองกองทุนที่ว่าก็อย่ารอช้าครับ เปิดบัญชีกับเราได้เลย เปิดครั้งเดียวซื้อ-ขายได้ถึง 19 บลจ. ชั้นนำ!
References
https://www.morningstar.co.uk/uk/funds/snapshot/snapshot.aspx?id=F00000YU3W
https://www.morningstar.co.uk/uk/funds/snapshot/snapshot.aspx?id=F00000YU3W&tab=13
Jessada Sookdhis
Investment Analyst (IA)
ตรวจทานบทความ
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน I ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้ I สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด I บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”