หากจะเลือกหุ้นเติบโตสักตัวที่มีความน่าเชื่อถือ และมีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง SCGP ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มองข้ามไม่ได้ ด้วยศักยภาพและความพร้อมต่าง ๆ มากมาย เรามาสำรวจผ่านบทความนี้กันว่าทำไมหุ้นจ่อ IPO ไฟแรงอย่าง SCGP ถึงคู่ควรกับนักลงทุนเช่นคุณ
สรุปจุดเด่น SCGP
- ผู้ให้บริการโซลูชันด้านกระดาษบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน
- เติบโตอย่างต่อเนื่องตอบรับจากการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจอื่น ๆ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของ Mega trends ที่สำคัญ
- ผลการดำเนินงานเป็นเลิศ รายได้จากการขาย และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง
- SCGP ถือเป็นหุ้นเติบโตหรือ Growth Stock ซึ่งการเข้า IPO จะทำให้ SCGP สามารถไปลงทุนขยายธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและเต็มรูปแบบทั้งการเพิ่มกำลังการผลิต (Organic) และการควบรวมกิจการ (Inorganic)
- พร้อมเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืนไปกับ Circular Economy (หลักเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน) ตอบโจทย์แนวคิดคนรุ่นใหม่ไฟแรง
- อยู่ในหมวดธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจที่เติบโตในภูมิภาคอาเซียน
คุณกำลังจะเติบโตไปกับอะไร?
บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (“SCGP” หรือ “บริษัทฯ”) เป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีรายได้จากการขายโตแบบปีต่อปีอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดเด่นอย่างการผสานเทคโนโลยีกับสินค้าบรรจุภัณฑ์ให้มีความลํ้าหน้าและทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุอาหารและผัก หรือบรรจุภัณฑ์สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ อีกทั้งยังมีฐานลูกค้าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งในและนอกประเทศ ไปจนถึงกลุ่ม SMEs
หรือสรุปแล้วคุณกำลังจะเติบโตไปกับธุรกิจที่มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง พร้อมฐานลูกค้าที่มีความแข็งแกร่ง!
เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว ทุกคนคงอยากจะรู้ตัวอย่างสินค้ากัน เพราะฉะนั้น ผมจึงขอหยิบยกสินค้าบางส่วนของ SCGP มาให้ทุกคนได้รับชมและตัดสินใจในศักยภาพ รวมถึงจะได้เข้าใจธุรกิจกันมากขึ้นนะครับ
หลัก ๆ แล้ว SCGP มีธุรกิจอยู่ 2 ธุรกิจ คือ (1) สายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร และ (2) สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ ซึ่งมีสินค้าและจุดเด่นต่าง ๆ ดังนี้…
1) ธุรกิจจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร
- บรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ
- กระดาษบรรจุภัณฑ์
- บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์
มีบรรจุภัณฑ์หลากหลาย อาทิ บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง บรรจุภัณฑ์อาหารต่าง ๆ ที่สามารถนำไปอุ่นร้อนเข้าไมโครเวฟหรือจะแช่เย็นก็ยังได้ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ภาพแสดงบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ของ SCGP ที่มา: scgpackaging.com
อีกทั้งยังมีบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุผักและผลไม้สดต่าง ๆ ที่จะช่วยลดการเกิดของเสียในระหว่างขนส่ง หรือจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับอาหารที่ผ่านการอบและสินค้าอื่นที่ไวต่อออกซิเจน ช่วยคงความสดและยืดอายุการเก็บรักษาของสินค้าที่เชื่อมโยงต่อยอดมายังธุรกิจการแพทย์
2) สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ คือ จำหน่ายภาชนะบรรจุอาหาร และผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์อาหารแบรนด์ “เฟสท์” และผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษ รวมถึงกระดาษถ่ายเอกสารแบรนด์ไอเดียด้วย
ภาพแสดงบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ของ SCGP ที่มา: scgpackaging.com
จากที่เล่ามาแล้ว จึงกล่าวได้ว่า SCGP เป็นผู้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย
พื้นฐานธุรกิจแข็งแรง ลูกค้าทั้งในประเทศและนอกประเทศต่างมั่นใจในคุณภาพ
ภาพแสดงรายได้จากการขายตามประเทศที่ตั้งของลูกค้าสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563
ที่มา: แบบแสดงรายการและร่างหนังสือชี้ชวนของ SCGP
SCGP มีฐานรายได้ทั้งจากในและนอกประเทศ โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็นในประเทศไทย รวมไปถึงกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศมาเลเซีย
อีกทั้งยังมีฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศหรือจะเรียกได้ว่ามีพันธมิตรธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแรง ทำให้ไว้วางใจได้ว่าจะมีการสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ที่เติบโตอย่างยั่งยืน
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนกำลังมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง รวดเร็ว
1) ตลาดบรรจุภัณฑ์สำหรับอีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตอย่างร้อนแรง
ภาพแสดงการเติบโตของตลาดบรรจุภัณฑ์อีคอมเมิร์ซของประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์ ในปี 2561–2567E หน่วยเป็นล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มา: Frost & Sullivan ณ สิงหาคม 2563
ณ จุด ๆ นี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าอีคอมเมิร์ซยังสามารถเติบโตได้อีกมาก และหากว่ากันถึงตลาดบรรจุภัณฑ์สำหรับอีคอมเมิร์ซที่ SCGP กำลังดำเนินธุรกิจอยู่นั้นก็ถือได้ว่ามีอัตราเติบโตที่น่าทึ่งเช่นกัน จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคตที่น่าจับตามองสำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์
2) ยอดการใช้งานบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ กำลังเติบโต
ภาพแสดงปริมาณการใช้งานสินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่มา: Frost & Sullivan ณ เดือนสิงหาคม 2563
นอกจากการเติบโตในตลาดใหญ่อย่างอีคอมเมิร์ซแล้ว ยอดการใช้งานสินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มประเทศที่ SCGP ทำธุรกิจด้วย ก็มีการเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย โดยการเติบโตเฉลี่ยต่อปีในปี 2562-2567 นั้นอยู่ที่ 5.87%
และในช่วง COVID-19 ทำให้ผู้คนอยู่บ้านและใช้บริการอีคอมเมิร์ซ ซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่เคยทดลองใช้บริการได้เรียนรู้ และคุ้นชินกับการจับจ่ายออนไลน์ จึงอาจทำให้อีคอมเมิร์ซเติบโตมากกว่าที่เคยเป็น
3) ยอดผู้ใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและกระดาษเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
หากลงรายละเอียดลึกลงมาอีกหน่อย ในส่วนของการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและกระดาษ บรรจุภัณฑ์กระดาษถือเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ SCGP ยอดการใช้ต่อหัวในไทยนั้นอยู่ที่ 50 กิโลกรัมต่อคนต่อปี แซงหน้าจีนที่ 35 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในส่วนของบรรจุภัณฑ์พลาสติกเองศักยภาพการเติบโตของ GDP ที่ 5.1% ณ ปี 2562 รวมกับปริมาณประชากรในอาเซียนที่ 650 ล้านคนแล้ว ก็ถือได้ว่ากลุ่มคนในภูมิภาคอาเซียนขนาดใหญ่กำลังมีการเติบโตทางฐานรายได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการจับจ่ายใช้สอย และนำไปสู่การบริโภคสินค้า ที่จะส่งผลบวกสอดคล้องไปกับกลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเหมือนชิ้นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในสินค้าต่าง ๆ
ภาพแสดงปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษต่อประชากรของประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์
เทียบกับประเทศเทียบเคียงอื่นๆ ในปี 2562 หน่วยเป็นกิโลกรัม/ประชากร/ปี ที่มา: Frost & Sullivan ณ เดือนสิงหาคม 2563
Circular Economy ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ไฟแรง
“SCGP ถือว่ามีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวจากรุ่นสู่รุ่นอย่างยั่งยืน”
Circular Economy หรือหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นแนวทางที่เน้นการนำสินค้าและพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบไม่รู้จบ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ SCGP ให้ความสำคัญโดยการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่
จึงถือได้ว่ามีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวจากรุ่นสู่รุ่นอย่างยั่งยืน
โอกาสลงทุนในหุ้นเติบโตหรือ Growth Stock
เป็นธรรมดาที่หากเราลงทุนในธุรกิจอะไรสักธุรกิจหนึ่ง เราย่อมต้องการโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนและเติบโตไปกับธุรกิจนั้น ซึ่ง SCGP เองก็มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งแบบ Organic คือการเพิ่มกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ และแบบ Inorganic ผ่านกลยุทธ์การควบรวมกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้ SCGP มีเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น จึงถือเป็นหุ้นเติบโตหรือ Growth Stock อีกหนึ่งตัวที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนสายคุณค่าหรือ Value Investor (VI)
รายได้จากการขายเติบโตต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด
ภาพแสดงรายได้จากการขาย
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน
มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ในส่วนของรายได้จากการขายหากย้อนไปดูสัก 4 ปีก่อนหน้าตามภาพด้านบนก็ถือได้ว่าเติบโตต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและความสามารถของผู้บริหาร ที่สามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตต่อเนื่องได้แบบปีต่อปีไม่มีถอย โดยสัดส่วนกว่า 69% ของรายได้จากการขายของ SCGP มาจากธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รายได้สามารถไปต่อได้เรื่อย ๆ ไม่ค่อยผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ
การเติบโตไม่หยุดยั้งแต่เพียงเท่านี้ SCGP พร้อมขยายธุรกิจเสริมสร้างรายได้ให้แข็งแกร่ง
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติบโตทางรายได้ ยอดขายหรือกำไรของบริษัทเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความคาดหวังกันเป็นอันดับแรก ๆ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ราคาหุ้นและเงินปันผลที่ได้รับเติบโตตาม ๆ กันไป
การขยายธุรกิจเป็นวิถีทางหนึ่ง ที่จะช่วยเสริมสร้างราคาหุ้นให้เติบโตยิ่ง ๆ ขึ้นไป ดังนั้นในส่วนถัดไป เราจะมาดูกันว่าหลัก ๆ แล้ว SCGP กำลังจะขยายโครงการอะไรในอนาคต
โครงการขยายกำลังการผลิต
หลัก ๆ แล้ว SCGP มีโครงการที่จะเพิ่มฐานการผลิตในอนาคต สอดคล้องกับความต้องการสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นในอาเซียน ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า โดยจะมีการขยายกำลังการผลิต ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์
โดยจะมีการขยายกำลังการผลิตทั้งในส่วนของกระดาษบรรจุภัณฑ์ลูกฟูก กระดาษกล่องเคลือบขาว (Duplex Paper) และบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว
หรือสรุปรวม ๆ ได้ว่าเป็นการต่อยอดการผลิตสินค้าที่ทาง SCGP มีความชำนาญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเพิ่มความมั่นใจได้ว่า การขยายการผลิตดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างรายได้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต
ขยายธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น SCGP มาพร้อมศักยภาพในการควบรวมกิจการ
หากเป็นธุรกิจทั่ว ๆ ไปหลาย ๆ คนคงอาจนึกถึงการปั้นธุรกิจเองขยายสาขา เพิ่มกำลังการผลิตไปเรื่อย ๆ
แต่ SCGP นั้นมีศักยภาพที่เหนือไปกว่านั้น ที่ผ่านมา SCGP ได้ใช้กลยุทธ์ขยายธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการในธุรกิจที่มีศักยภาพสูงและมีความโดดเด่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า ตัวอย่างเช่น การเข้าซื้อหุ้นบริษัทผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศอินโดนีเซีย รวมไปถึงการเข้าซื้อหุ้นบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารสุดลํ้าระดับโลก
แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการขยายกิจการ สร้างการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
ความเสี่ยงที่ควรพึงระวัง
1) ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย
เนื่องจากในช่วงล่าสุดทาง SCGP มีค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ย ซึ่งเป็นต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤติ COVID-19 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการคงอัตราดอกเบี้ยและปรับมุมมองเศรษฐกิจเป็นบวกมากขึ้น ทำให้ความผันผวนในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยนั้นลดลง
2) ความเสี่ยงทางด้านค่าเงิน
ในช่วงที่ผ่านมาเงินบาทมีการแข็งค่าค่อนข้างมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้ากับต่างประเทศ
3) ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
ตั้งแต่กลางปี 2562 ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก เนื่องจากการเข้าควบรวมกิจการ แต่การระดมทุนจาก IPO ครั้งนี้ จะทำให้ฐานะการเงินของ SCGP แข็งแกร่งขึ้น เพราะจะมีการนำเงินบางส่วนไปชำระหนี้ ทำให้มีอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
สรุปโดยรวมแล้ว SCGP เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับจองและจับตามอง ด้วยศักยภาพทางพื้นฐานธุรกิจที่มีความมั่นคง และรายได้ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงตอบโจทย์ในระยะยาวต่อคนรุ่นใหม่ด้วยการให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
References
https://investor.scgpackaging.com/th/financial-information/financial-highlights
https://investor.scgpackaging.com/storage/content/downloads/shareholders-meetings/2020/ar2019-th.pdf
https://marketeeronline.co/archives/145801
https://scgnewschannel.com/th/scg-news/scgp-packaging-solutions/