Megatrend คืออะไร? สายโตแบบเร้าใจไม่ควรพลาด!
Megatrend เป็นคำที่ใช้แสดงถึงสิ่งต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงวิถีแบบเดิม ๆ ในระดับ “โลก” เช่น การมาของอินเทอร์เน็ตในยุคก่อนที่หากเราเลือกหุ้นผู้ชนะได้อย่างถูกต้องผลตอบแทนที่ได้ก็จะทำได้อย่างมหาศาล หรือหากนึกตัวอย่างง่าย ๆ ในสมัยนี้ก็อาจจะเป็นธีมรถยนต์ไฟฟ้า Metaverse หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่อาจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคต
ถ้าถามถึงเหตุผลว่าทำไมการลงทุนแบบ Megatrend ถึงมีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้สูง? เหตุผลก็อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้าว่า Megatrend คือระดับ “โลก” ซึ่งแตกต่างจากการเติบโตแค่ใน เขต รัฐ จังหวัด หรือ ประเทศ อีกทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่ยังไม่อิ่มตัว
หากลองจินตนาการง่าย ๆ หุ้นของบริษัทที่ขยายไปได้ระดับโลก (น้ำบ่อใหญ่กว่า อาจเปรียบได้กับฟาร์มแซลมอนขนาดใหญ่) ย่อมมีมูลค่าที่สูงกว่าหุ้นที่เติบโตได้แค่ในพื้นที่เล็ก ๆ (อาจเปรียบได้กับบ่อปลาคาร์ฟหลังบ้าน) ซึ่งถ้าวัดกันตรง ๆ ฟาร์มปลาแซลมอนก็น่าจะมีมูลค่าสูงกว่าบ่อปลาคาร์ฟหลังบ้าน (ยกเว้นกรณีที่มีปลาสีสวย ตลาดเล่น ราคาเวอร์วัง)
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ เปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกกับ FINNOMENA รับหน่วยลงทุน PCASH มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. – 31 พ.ค. 65 คลิก https://finno.me/havefund-promotion
รู้จัก SCBMEGA(A) กองทุน Megatrend แบบ เร้าใจ แอคทีฟ มีชั้นเชิง
- จัดการแบบ Active เน้นสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด มีผู้จัดการกองทุนปรับสัดส่วนน้ำหนักตามท่วงทำนองที่เหมาะสมในแต่ละสภาวะตลาด
- จัดการแบบมีชั้นเชิงผ่านโมเดล Core และ Satelllite Fund (มีกองทุนแกนหลักและใช้กองทุนเสริมกระจายการลงทุนเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้สูงขึ้น)
- กระจายการลงทุนในหลายธุรกิจ ธีม เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนแบบกระจุกตัวในที่ใดที่หนึ่ง
- มีนโยบายไม่เพ้อฝัน ลงทุนในธีมการลงทุนที่มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความเป็นอยู่ในอนาคตในสิ่งต่าง ๆ ที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน
- เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาว
บริหารแบบใช้กองทุนหลัก (Core Fund) ที่เน้นคัดหุ้นผู้ชนะในอนาคต และเลือกกองทุนเสริมที่โดดเด่นตามโอกาสและสภาวะตลาด
รู้จักกองทุนหลัก JB Equity Next Generation Fund
กองทุนนี้เป็นกองทุนหลักที่กองทุน SCBMEGA(A) หมายมั่นปั้นมือวางให้เป็นกองทุนที่ใช้สำหรับเลือกผู้ชนะและถือเป็นกองทุนแกนหลักในการบริหาร
สำคัญต่อกองขนาดนี้ เราก็มาดูกันหน่อยว่ารายละเอียดเชิงลึกจะเป็นอย่างไร ตอบโจทย์คนที่สนใจหรือไม่?
สัดส่วนภูมิภาคและอุตสาหกรรมหลักที่ลงทุน
ภาพแสดงสัดส่วนภูมิภาคหลักที่ลงทุนของกองทุน Julius Baer Equity Next Generation USD C ที่มา: Financial Times วันที่: 30 กันยายน 2021
ภาพแสดงสัดส่วนอุตสาหกรรมหลักที่ลงทุนของกองทุน Julius Baer Equity Next Generation USD C ที่มา: Financial Times วันที่: 30 กันยายน 2021
- สัดส่วนหลัก ๆ ที่ลงทุนเป็นหุ้นสหรัฐฯ ประเทศผู้นำโลกเป็นหลัก
- สัดส่วนอุตสาหกรรมเน้นเฮลธ์แคร์ซึ่งเป็นกลุ่มหุ้นที่เติบโตได้คล้ายหุ้นเทคโนโลยี แต่หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์จะมีความพิเศษกว่าหุ้นเทคโนโลยีตรงที่มีความสัมพันธ์กับดัชนีหุ้นค่อนข้างต่ำช่วยในการกระจายความเสี่ยงหรืออาจจะเรียกได้ว่า “หุ้นเติบโตแบบเชิงรับ”
- สัดส่วนหนัก ๆ หลัก ๆ รองลงมาเป็นหุ้นเทคโนโลยีซึ่งเติบโตได้สูงทั้งในแง่กำไรและราคา
รีวิวหุ้นหลักที่ลงทุน
ภาพแสดงสัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุนของกองทุน Julius Baer Equity Next Generation USD C ที่มา: Financial Times วันที่: 7 มกราคม 2022
- Microsoft (สัดส่วน 4.83%): หนึ่งในหุ้นเทคสามัญประจำบ้านของวงการกองทุน Microsoft ถือเป็นหุ้นที่เติบโตได้เรื่อย ๆ ทั้งในแง่ของราคาและกำไร มีผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กันทั่วไปมากมาย อีกทั้งยังมีการหาท่าใหม่ ๆ ในการเติบโต เช่น การสเกลธุรกิจระบบ Cloud ที่สร้างรายได้เติบโตมาแล้วถึง 8 เท่าใน 4 ปี!
- Amazon (สัดส่วน 4.25%): บริษัทที่แม้จะเริ่มต้นด้วยการเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์ในปี 1996 แต่ปัจจุบัน Amazon มีธุรกิจ E-commerce ที่หลากหลายขายสินค้าหลายอย่างจนถูกขนานนามว่าเป็น Everything Store
- Alphabet (สัดส่วน 4.18%): หุ้นเทคปฏิวัติวงการการหาข้อมูลและการศึกษา เจ้าของ Search engine อันเลื่องชื่ออย่าง Google ที่ฉีกข้อจำกัดด้านการเรียนรู้ทิ้งออกไป เปิดโอกาสให้ผู้คนมากมายเข้าถึงแหล่งความรู้ได้โดยง่าย มีการขยายขอบเขตเพิ่มเติมไปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น Waymo โปรเจกต์รถยนต์ไร้คนขับ เป็นต้น
- Thermo Fisher Scientific (สัดส่วน 3.51%): บริษัทเฮลธ์เทคชั้นนำ ผู้พัฒนาและผลิตอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ต่าง ๆ มากมาย รวมถึงยังให้บริการทางแล็ปและจีโนมิกส์อีกด้วย
- ICON (สัดส่วน 3.29%): บริษัทผู้พัฒนายารักษาโรคสัญชาติไอร์แลนด์ มีบริการให้คำปรึกษาและ outsource ให้กับองค์กรยา รัฐ หน่วยงานสุขภาพรัฐและอื่น ๆ
ผลตอบแทนย้อนหลัง
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุน Julius Baer Equity Next Generation USD C ที่มา: Financial Times วันที่: 7 มกราคม 2022
ช่วง 1 ปีย้อนหลังกองทุนทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเป็นสง่าเหนือหุ้นเติบโตขนาดใหญ่ด้วยกันท่ามกลางความผันผวนในหุ้นเทคโนโลยี ในขณะที่ระยาวขึ้นมาหน่อยก็ทำผลตอบแทนได้พอ ๆ กัน
อย่างไรก็ตามอย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่านี่เป็นเพียงกองทุน Core fund ของ SCBMEGA(A) ดังนั้นหากถึงเวลาออกตัวจริง ๆ กองทุนน่าจะมีลูกเล่นผ่านการลงทุนในธีมอื่น ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มได้อีกครับ
ธีมการลงทุนอื่น ๆ ที่อาจนำมาเสริมทัพเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี
- Shifting Lifestyle – ธีมการลงทุนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องอายุของประชากร (เทรนด์ผู้สูงอายุ) เทรนด์สุขภาพและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เข้ามาเพิ่มคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคน
- Feeding the World – ธีมการลงทุนที่เกี่ยวกับการผลิตทรัพยากรให้ตอบโจทย์ล้อไปกับการเติบโตของประชากรในอนาคต ซึ่งเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในอนาคตมนุษย์จะเลิกกินข้าว กินของที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนั้นธีมการลงทุนนี้จึงเป็นธีมการลงทุนที่ตอบโจทย์ในอนาคต
- Digital Disruption – การเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่สิ่งต่าง ๆ ในรูปแบบเดิม ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งธีมการลงทุนที่น่าจะมีศักยภาพสูงในอนาคต
SCBMEGA(A) เหมาะกับนักลงทุนแบบไหน
- เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนในหุ้น Megatrend ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต
- เหมาะสำหรับนักลงทุนอยากลงทุนในหุ้น Megatrend แต่อยากคงความ Conservative ไว้บ้าง จากการลงทุนในสิ่งที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
- เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนใน Megatrend ที่หลากหลาย มีผู้จัดการกองทุนช่วยดูแลให้ ลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม
นโยบายการลงทุนของกองทุน SCBMEGA(A)
- เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนหรือ ETF ที่ลงทุนในหุ้นแนว Megatrend ที่มีการเติบโตในธีมหลักสำคัญ ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงวิถีการ ดำเนินชีวิตของมนุษย์ในรูปแบบใหม่ การอุปโภคบริโภคที่ให้ความสำคัญต่อผลกระทบที่อาจมีต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการ ประยุกต์ใช้ซึ่งเทคโนโลยีด้านดิจิทัลในชีวิตประจำวัน เป็นต้น โดยกองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุน โดยจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 79 ของ NAV โดยกองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 6
ค่าธรรมเนียมและเงินลงทุนขั้นต่ำของกองทุน SCBMEGA(A)
- ค่าธรรมเนียมซื้อ: 1.60500%
- ค่าธรรมเนียมขาย: ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมรวมรายปี: 1.70237% (ยังไม่รวมค่าใช่จ่ายอื่น)
- ลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
Mr. Serotonin
ยังไม่รู้ว่า SCBMEGA(A) ควรใส่เข้าพอร์ตเท่าไรดี? รับบริการที่ปรึกษาการลงทุนส่วนตัวจาก FINNOMENA ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 500,000 บาทเท่านั้น
👉 ลงทะเบียน คลิก >>> https://finno.me/finnomena-x-service
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ เปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกกับ FINNOMENA รับหน่วยลงทุน PCASH มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. – 31 พ.ค. 65 คลิก https://finno.me/havefund-promotion
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”
References
https://markets.ft.com/data/funds/tearsheet/summary?s=LU1649333264:USD
https://www.scbam.com/medias/fund-doc/presentation/SCBMEGA(A)_Pre.pdf
https://www.scbam.com/medias/fund-doc/prospectus/SCBMEGA(A).pdf
https://www.scbam.com/medias/fund-doc/summary-prospectus/SCBMEGA(A)_SUM.pdf