หนึ่งในกองทุนยอดฮิตและเป็นที่นิยมที่สุด ณ พ.ศ. นี้ คงหนีไม่พ้นกองทุนหุ้นเติบโตอย่าง ONE-UGG-RA ที่ลงทุนในกองทุนหลักอันเลื่องชื่ออย่าง Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งผลตอบแทนและปรัชญาการคัดเลือกหุ้น เรามาดูกันว่ากองทุน KFGG-A จะเหมือนหรือต่างกับ ONE-UGG-RA สักแค่ไหน
ยกที่ 1: กองทุนหลักที่ลงทุน
ยกที่หนึ่งเรามาวัดกันด้วยกองทุนหลักที่ลงทุนกันก่อนดีกว่าว่าจะเหมือนหรือต่างกันแค่ไหน
กองทุน ONE-UGG-RA
ภาพแสดงส่วนหนึ่งของเนื้อหานโยบายการลงทุนกองทุน ONE-UGG-RA ที่มา: ONEAM Fund Fact Sheet วันที่: 30 กรกฎาคม 2021
กองทุน KFGG-A
ภาพแสดงนโยบายการลงทุนกองทุน KFGG-A ที่มา: KSAM Fund Fact Sheet วันที่: 18 สิงหาคม 2021
หากทุกคนสำรวจตามนโยบายการลงทุนของ ONEAM และ KSAM จะเห็นได้ว่าทั้งสองกองทุนลงทุนในกองทุนแบบเดียวกันทั้งคู่ซึ่งก็คือ Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund Class B
ยกที่ 2: ปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ ของกองทุน
กองทุน ONE-UGG-RA
ภาพแสดงปัจจัยความเสี่ยงสำคัญของกองทุน ONE-UGG-RA ที่มา: ONEAM Fund Fact Sheet วันที่: 30 กรกฎาคม 2021
กองทุน KFGG-A
ภาพแสดงปัจจัยความเสี่ยงสำคัญของกองทุน KFGG-A ที่มา: KSAM Fund Fact Sheet วันที่: 18 สิงหาคม 2021
ทางด้านปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ ถ้าดูแบบผิวเผินก็ดูแล้วแทบจะเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน แต่จุดสังเกตสำคัญนอกจากความเสี่ยงในการกระจุกตัวแล้ว หลัก ๆ คงจะเป็นนโยบายการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินที่กองทุน ONE-UGG-RA ดูจะให้เป็นตามสมควรแล้วแต่ดุลยพินิจและสถานการณ์ เทียบกับ KFGG-A ที่ปิดประตูความเสี่ยงค่าเงินแบบทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
ดังนั้นหากใครต้องการแบบเซฟ ๆ หน่อยเอาชัวร์ก็อาจจะเคาะขวา KFGG-A หรือใครจะลองเพิ่มความหวือหวาขึ้นมาหน่อยก็อาจจะเคาะเป็นตัว ONE-UGG-RA แทน
ยกที่ 3: ค่าธรรมเนียมของกองทุน
กองทุน ONE-UGG-RA
ภาพแสดงค่าธรรมเนียมของกองทุน ONE-UGG-RA ที่มา: ONEAM Fund Fact Sheet วันที่: 30 กรกฎาคม 2021
กองทุน KFGG-A
ภาพแสดงค่าธรรมเนียมของกองทุน KFGG-A ที่มา: KSAM Fund Fact Sheet วันที่: 18 สิงหาคม 2021
หมัดที่ 3 นี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นจุดแตกต่างสำคัญของทั้ง 2 กองทุนก็ว่าได้ ซึ่ง KFGG-A มีค่าธรรมเนียมหลัก ๆ ที่ถูกกว่า ONE-UGG-RA ในหลาย ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมขาย สับเปลี่ยนหน่วย หรือค่าธรรมเนียมรวมรายปีที่ถูกกว่าทั้งหมด โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมรวมรายปีที่แตกต่างกันถึงราว ๆ 1% (สังเกตได้จากรูปด้านบน)
ยกที่ 4: พักยก
หลังวัดกันในแง่ของความแตกต่างกันมาพอสมควร เราลองมาสำรวจสิ่งที่เหมือนและเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนในกองทุนรวมกันดีกว่า ซึ่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากปรัชญา กลยุทธ์ นโยบายและสัดส่วนต่าง ๆ ของกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth
ปรัชญาการลงทุนที่โดดเด่นขวัญใจนักลงทุนทุกคน
หลักการลงทุนของทางกองทุนนั้นค่อนข้าง Aggressive พอสมควร
กองทุนไม่ได้มองว่าหุ้นแต่ละตัวจะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ในอีก 1 ปีข้างหน้า
แต่ใช้วิธีดูว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าหุ้นตัวนี้จะสามารถเติบโต 5 เท่าได้หรือไม่?
อะไรบ้างเป็นปัจจัยที่ทำให้สามารถเติบโตได้ และอะไรคือความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง
ปรัชญาต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้การลงทุนของ Baillie Gifford มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ และผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาก็คงพิสูจน์ให้นักลงทุนทุกคนได้เห็นแล้วว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องขายฝันแต่อย่างใด
สัดส่วนภูมิภาคหลักที่ลงทุน
ภาพแสดงสัดส่วนภูมิภาคหลักที่ลงทุนของกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund Class B ที่มา: Baillie Gifford Fund Fact Sheet วันที่: 31 กรกฎาคม 2021
เน้นหนักประเทศกลุ่มผู้นำทั้งสหรัฐฯ และจีนซึ่งถึงได้ว่ามีทั้งประเทศมหาอำนาจคนปัจจุบันและมหาอำนาจใหม่ที่กำลังเติบโตได้อย่างร้อนแรง มีหุ้นเทคโนโลยีที่ล้อไปกับกระแสปัจจุบันได้อย่างโดดเด่นทั้งคู่ ถือเป็น 2 ภูมิภาคที่มีบริษัท เทคโนโลยี อันแข็งแกร่งเหมาะแก่การเฟ้นหามาลงทุนให้พอร์ตเติบโต
สัดส่วน Sector หลักที่ลงทุน
ภาพแสดงสัดส่วน Sector หลักที่ลงทุนของกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund Class B ที่มา: Baillie Gifford Fund Fact Sheet วันที่: 31 กรกฎาคม 2021
มีเซ็กเตอร์อย่างสินค้าฟุ่มเฟือยที่ฟังดูแล้วอาจจะไม่ค่อยดี แต่เซ็กเตอร์นี้เป็นเซ็กเตอร์ที่อุดุมไปด้วยหุ้นเติบโตเยี่ยม มีคุณภาพ และล้อไปกับกระแสหลักได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Tesla, Amazon หรือจะเป็นธุรกิจแบบขายสินค้าดั้งเดิมหน่อย เช่น Nike, Starbucks, McDonald หรือ Kering เป็นต้น อีกทั้งยังมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นทั้งปัจจุบันและอนาคตในการขับเคลื่อนโลกใบนี้
สัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุน
ภาพแสดงสัดส่วนหุ้นหลักที่ลงทุนของกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund Class B ที่มา: Baillie Gifford Fund Fact Sheet วันที่: 31 กรกฎาคม 2021
Moderna (สัดส่วน 5.60%)
บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 ที่โด่งดังเป็นอย่างมากในช่วงนี้ และด้วยสตอรี่ที่ว่านี้จึงทำให้บริษัท สามารถปลดล็อกราคาหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง และส่งผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ไปไกลลิบตาถึงกว่า 400%!!!
Amazon (สัดส่วน 5.40%)
บริษัทที่แม้จะเริ่มต้นด้วยการเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์ในปี 1996 แต่ปัจจุบัน Amazon มีธุรกิจ E-commerce ที่หลากหลายขายสินค้าหลายอย่างจนถูกขนานนามว่าเป็น Everything Store
Illumina (สัดส่วน 5.00%)
Illumina เป็นบริษัทไบโอเทค ผู้นำด้านการถอดรหัส DNA และวิเคราะห์มะเร็ง เป็นผู้ผลิตเครื่องถอดรหัส DNA ให้กับโรงพยาบาลทั่วโลก ธุรกิจของ Illumina ไม่เพียงแต่ขายเครื่องแต่ยังขายวัตถุดิบที่ใช้กับเครื่องที่ขายด้วย
Tesla (สัดส่วน 4.60%)
บริษัทรถยนต์พลังไฟฟ้าแห่งอนาคตที่มีมูลค่าบริษัทแซงหน้ารุ่นพี่อย่าง Ford และ GM ไปแล้วเรียบร้อย Tesla คือหนึ่งในบริษัทที่ Wall Street คาดว่าจะเป็นบริษัทที่มา “ปฏิวัติ” อุตสาหกรรมรถยนต์
Kering (สัดส่วน 4.30%)
บริษัทเจ้าของแบรนด์เนมชื่อดังอย่าง Gucci, Bottega Veneta, Balenciaga, Saint Laurent และเป็นบริษัทที่เติบโตได้ถึงแม้เศรษฐกิจโลกจะไม่ค่อยสู้ดี ทำไมเจ้าของแบรนด์หรูเหล่านี้ยังเติบโต คำตอบไม่ต้องไปหาไกล อยู่ประเทศใกล้ๆ ไทยคือประเทศจีนนั่นเอง
ยกสุดท้าย: ผลตอบแทน
เนื่องจากกองทุนหลักที่ลงทุนเป็นกองเดียวกันคลาสเดียวกันเหมือนฝาแฝด ผลตอบแทนที่ได้คงไม่ต่างกันมากนัก เพราะ มีความแตกต่างในเรื่องของการป้องกันความเสี่ยงการแลกเปลี่ยนเป็นหลัก
แต่ที่ต้องยกให้เป็นหมัดสุดท้ายก็เพราะว่า ทั้ง ONE-UGG-RA และ KFGG-A เป็นกองทุนที่ทำผลงานได้โดดเด่นพร้อมแลกหมัดกับอีกหลาย ๆ กองทุนเลยทีเดียว ซึ่งผลตอบแทนย้อนหลังของทั้งสองกองทุนก็ได้ออกมาเป็นดังนี้…
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund Class B ที่มา: Baillie Gifford Fund Fact Sheet วันที่: 31 กรกฎาคม 2021
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
เอาชนะ Benchmark แบบขาดลอย!!
สรุปเปรียบเทียบจุดเด่น ONE-UGG-RA และ KFGG-A
- เป็นกองทุนที่ลงทุนในกองทุนหลักต่างประเทศกองเดียวกันทั้งคู่ และมีปรัชญาการลงทุนที่โดดเด่น อย่างการใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาร่วมวิเคราะห์การลงทุน
- เน้นหาหุ้นเติบโตได้ 5 เท่าใน 5 ปี
- ทั้งสองกองมีความแตกต่างกันเรื่องของนโยบายการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งกองทุน ONE-UGG-RA จะเน้นแบบปรับตามความเหมาะสม ในขณะที่ KFGG-A จะเน้นป้องกันทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดไปเลย
- ผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนหลักมีความโดดเด่นเป็นอย่างมากทั้งในระยะสั้นและระยะยาวชี้ให้เห็นว่าปรัชญาการบริหารอันเป็นเอกลักษณ์ได้ออกดอกออกผล และพิสูจน์ให้คนเห็นแล้วว่าได้ผลจริง!
References
https://www.krungsriasset.com/DataWeb/AYFWeb/th/pdf/FFS_KFGG-A_TH.pdf?rnd=20210826030347
https://www.one-asset.com/doc_fund/Fund%20Masterfund/ONE-UGERMF-A_MasterFund.pdf
https://www.one-asset.com/doc_fund/Fund%20Summary%20Prospectus/ONE-UGG-RA_summary_prospectus.pdf
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299
References
https://www.counterpointresearch.com/global-smartphone-share/
https://www.embibe.com/exams/top-10-largest-banks-in-india/
https://www.tmbameastspring.com/THDocs/FS/I13_master_th_03.pdf
https://www.scbam.com/medias/fund-doc/master-fund/SCBAOA_MASTER.pdf