ท่ามกลางความกังวลในตลาดการเงินด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เงินเฟ้อ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย หรือความผันผวนในเชิงมูลค่าของหุ้น ที่อาจสร้างความกังวลให้กับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนทุกท่าน ในวันนี้ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับกองทุนตราสารหนี้ 2 แบบ 2 สไตล์ จาก บลจ.กรุงศรี ที่ลงทุนเรื่อย ๆ ก็ได้ ลงทุนระยะยาวก็ดีครับ
มุมมองพื้นฐานเชิงภาพรวม
ไทยยังได้รับวัคซีนยังน้อย การกระจายวัคซีนของประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ยังมีความแตกต่าง
- ไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เพียงแค่ราว ๆ 6% ในขณะที่เข็มที่ 1 อยู่ที่ 20%
- อัตราการฉีดวัคซีนที่แตกต่างส่งผลให้การฟื้นตัวในแต่ละประเทศแตกต่างกัน
ประเทศที่มีการกระจายวัคซีนที่ดี ถูกปรับประมาณการ GDP ดีขึ้นตามไปด้วย
- GDP สหรัฐฯ อาจเติบโตในปีนี้ถึง 7% จากที่ติดลบในปีที่แล้ว
- GDP ยุโรป อาจเติบโต 4.6% จาก -6.5% เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถึงแม้จะยังไม่พ้นน้ำ แต่โดยรวมถือว่าฟื้นตัวดีขึ้น
- ทางฝั่งเอเชีย ญี่ปุ่นยังฟื้นตัวไม่พ้นน้ำเช่นเดียวกัน ในขณะที่จีนมีการฟื้นตัวนำหน้าประเทศอื่นถึง 1 ไตรมาส แต่อาจชะลอลงในระยะถัดไป ภายหลังจากการฟื้นตัวที่ทำได้รวดเร็วก่อนประเทศอื่น
สำรวจย้อนหลังเหตุการณ์ที่สร้างความผันผวนให้ตลาดตราสารหนี้
- ความผันผวนในตลาดพันธบัตรที่เกิดขึ้นนั้นแบ่งออกเป็นสองครั้งหลัก ๆ
- ช่วงแรก คือ ช่วงที่เกิดโรคระบาดใหม่ ๆ ได้มีการปิดเมืองที่สร้างความไม่แน่นอน ส่งผลให้ผลตอบแทนตราสารหนี้ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงราว ๆ 0.50-1.00% ภายในเวลาเพียง 1 เดือน อีกทั้งยังสร้างความผันผวนให้กับทุกสินทรัพย์ ทั้งสินทรัพย์ปลอดภัยและสินทรัพย์เสี่ยง
- ช่วงที่สอง คือ ช่วงที่มีการเปิดเมืองของสหรัฐ ที่ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดีขึ้นและมีปัจจัยกดดัน อย่างเช่นความกังวลในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย
- อย่างไรก็ตาม ตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง ปลอดภัย และหากถือครองในระยะเวลาที่นานเพียงพอ ราคาก็จะสามารถกลับมาได้ แตกต่างจากสินทรัพย์เสี่ยงอื่น อทิเช่น หุ้นปั่นต่าง ๆ ที่มีความไม่แน่นอนสูง และราคาอาจไม่สามารถฟื้นกลับขึ้นมาได้
ทำไมกองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ถึงน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าระยะสั้น
- กองทุนตราสารหนี้นั้นหากถือครองในระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอ สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีถึงแม้จะเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้นอยู่บ้าง
- กองตราสารหนี้ระยะกลาง เช่น KFAFIX-A หากถือในระยะยาว สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น
ปัจจัยบวกต่อตราสารหนี้
- กนง. เริ่มเสียงแตกในการลดดอกเบี้ย โดยมี 2 เสียงแนะนำให้ลด ในขณะที่อีก 4 เสียงยังคงโหวตคงดอกเบี้ย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกังวลกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและอาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
- สถานการณ์การล็อกดาวน์ยังมีความไม่แน่นอน จึงอาจทำให้มีการปรับลดดอกเบี้ยลงได้อีก อีกทั้งยังมีสตอรี่ อย่างการปรับลดประมาณการ GDP เพิ่มเติมอีกด้วย
- ไทยน่าจะขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าเฟด เนื่องจากสภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ทำได้ช้ากว่า
ปัจจัยลบต่อตราสารหนี้
- มาตรการกระตุ้นของ โจ ไบเดน ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และการฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่รวดเร็วของสหรัฐฯ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยง เพราะอาจทำให้เฟดถอนการอัดฉีดสภาพคล่องในระยะเวลาอันใกล้ อีกทั้งยังมีการ guide ในการประชุมล่าสุดว่าอาจเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในปลายปี 2022-2023 ถึง 2 ครั้ง
- ทางด้านปัจจัยกดดันภายในประเทศ หากภาครัฐมีการออกมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม อาจต้องมีการออกพันธบัตรเพื่อกู้ยืมมากขึ้น และอาจส่งผลให้ Debt-to-GDP ของไทย ยืนเหนือระดับ 60% แต่หากแบงก์ชาติยังคงรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้ ก็อาจไม่ได้เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลมากนัก
สรุปโดยรวม
- ตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ยังพอมีอัปไซด์ไปต่อได้มากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้นหากสามารถลงทุนได้ในระยะยาว โดยตราสารหนี้ในกองทุน KFAFIX-A มีการคัดเลือกตราสารหนี้เอกชนที่มีคุณภาพเข้าพอร์ต พร้อมทั้งปรับอายุเฉลี่ยของพอร์ตตามภาวะตลาดอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม
กระบวนการและกลยุทธ์ของการลงทุนตราสารหนี้แบบ Active ของ บลจ. กรุงศรี
- มีการทำ company visit วิเคราะห์บริษัท ทั้งในเชิงปริมาณ เช่น วิเคราะห์งบการเงิน และในเชิงคุณภาพ เช่น ศักยภาพของผู้บริหาร แนวโน้มอุตสาหกรรม
- หลังจากได้รายชื่อบริษัทจากการคัดกรองดังกล่าวมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปผู้จัดการกองทุนจะนำมาวิเคราะห์เชิงลึก เรื่องมุมมองอัตราดอกเบี้ย เพื่อหาการลงทุนที่เหมาะสม ตามอายุของตราสารหนี้ในแต่ละช่วงเวลา เช่น หากการลดดอกเบี้ยมีโอกาสเกิดขึ้นสูง อาจเข้าลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น
- อัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้มีความซับซ้อนมากกว่าที่ทุกคนคิด มีการแบ่งช่วงเวลาตั้งแต่ช่วง 14 วันจนถึง 50 ปี มีการเทรดรายวันที่สร้างผลตอบแทนได้แตกต่างกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้จัดการกองทุนที่จะต้องค้นหาตราสารหนี้ที่สามารถสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้
- สำหรับข้อแตกต่างของตราสารหนี้และหุ้น คือ มุมมองที่แตกต่างกัน เช่น หากบริษัทมีการเพิ่มทุนผ่านการออกตราสารหนี้ มุมมองในเชิงหุ้นอาจเป็นบวก เพราะบริษัทอาจพัฒนาและสร้างกำไรได้เพิ่มเติม ในขณะที่สำหรับตราสารหนี้เราอาจต้องมาวิเคราะห์เรื่องความปลอดภัยของบริษัท จากปริมาณหนี้ที่เพิ่มขึ้น
- สัดส่วนที่แนะนำในกองทุนตราสารหนี้ แนะนำเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น 60% อย่าง KFSMART และลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวอีก 40% อย่าง KFAFIX-A
ผลงานกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ. กรุงศรี
- สามารถทำผลงานได้เป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม
- กองทุน KFLTGOVRMF หนึ่งในกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ.กรุงศรี ได้รับรางวัลกองทุนตราสารหนี้เพื่อยอดเยี่ยม การีนตีโดย Morningstar
กองทุนตราสารหนี้แนะนำ
KFSMART (กองทุนเปิดกรุงศรีสมาร์ทตราสารหนี้)
- ความผันผวนต่ำ ลงทุนได้ทุกช่วงเวลา ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ
- อายุตราสารหนี้เฉลี่ยในพอร์ตอยู่ที่ครึ่งปีถึงไม่เกิน 1 ปี เพื่อไม่ให้ NAV ติดลบบ่อยจนเกินไป
- ลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- เน้นสร้างผลตอบแทนให้เหนือเงินฝากระยะสั้น
KFAFIX-A (กองทุนเปิดกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้-สะสมมูลค่า)
- เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว บริหารจัดการแบบ Active มีความยืดหยุ่นสูง ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทนให้เหนืออัตราดอกเบี้ยพิเศษและกองทุนประเภทตราสารหนี้ระยะสั้นอย่าง KFSMART
- ทำผลงานย้อนหลังได้โดดเด่นนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2559 หากเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม
อยากลงทุนแบบไหนคุณเลือกได้ สรุปให้ดูว่าใครควรลงทุนใน KFSMART หรือ KFAFIX-A
- หากต้องการลงทุนทันที ไม่ต้องดู timing ตลาด ลงทุนใน KFSMART
-
- เป็นเงินลงทุนระยะสั้น เน้นสภาพคล่องของเงินลงทุน
- แนะนำลงทุนอย่างน้อย 3 เดือน
- เป็นกองทุนที่ซื้อเมื่อไรก็ได้ เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในภาวะดอกเบี้ยต่ำตอนนี้
- หากเป็นเงินเย็น แนะนำลงทุนใน KFAFIX-A ซึ่งสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า KFSMART
สรุปโดยรวมแล้วกองทุน KFSMART และ KFAFIX-A ถือเป็นกองทุนตราสารหนี้ 2 แบบ 2 สไตล์ ตอบโจทย์นักลงทุนทั้งแบบที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น พักเงิน สภาพคล่องสูง ลงทุนได้เรื่อย ๆ และ นักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้กับตลาดในเร็ววันนี้ ถือว่าพลาดไม่ได้เลยครับ
สำหรับนักลงทุนที่สนใจกองทุน KFSMART และ KFAFIX-A
- กองทุน KFSMART เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องรอจับจังหวะตลาด โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านหนังสือชี้ชวนได้ ที่นี่
- กองทุน KFAFIX-A เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวในตราสารหนี้เพื่อสร้างผลตอบแทน โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านหนังสือชี้ชวนได้ ที่นี่
- หากนักลงทุนท่านใดต้องการซื้อสามารถติดต่อได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร 02 657 5757 หรือติดต่อเข้ามาที่ FINNOMENA โทร 02 026 5100
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | การจัดอันดับรางวัลดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับทาง บลจ.กรุงศรี โทร 02 657 5757 หรือ www.krungsriasset.com