สรุป LIVE กลับมาอีกครั้ง วันนี้ได้ คุณ บดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน TMBAM Eastspring มาให้มุมมองที่แตกต่างและน่าสนใจเป็นอย่างมากครับ อย่างการที่วิกฤติครั้งนี้จะจบลงได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงกองทุนแนะนำที่น่าสนใจไม่แพ้กันในด้านของผลตอบแทนจาก TMB จะเป็นอย่างไรนั้นติดตามกันได้เลยครับ!

GDP จะเป็นเช่นไร?

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

ผลกระทบจากโควิด-19 ของไตรมาสที่ 1 อาจจะยังไม่ชัดเจน เพราะ การ lockdown อย่างจริงจังนั้นเพิ่งเริ่มในช่วงท้ายของไตรมาสที่ 1 เพียงเท่านั้น ดังนั้นผลกระทบเชิงลบในหลายๆประเทศอาจจะไปชัดเจนตอนไตรมาส 2 แต่กลับกันแล้วในไตรมาสที่ 2 จีนน่าจะเป็นประเทศที่สามารถฟื้นตัวได้ก่อนคนอื่น (สถานการณ์การติดเชื้อควบคุมได้ไว) ดังนั้นโดยรวมแล้วช่วงฟื้นตัวจะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ ไตรมาสที่ 4 

ตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวในรูปแบบไหน?

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

การฟื้นตัวแบบ V-Shape (รวดเร็ว รุนแรง) นั้นมีโอกาสเป็นไปได้ยาก ซึ่งอาจจะเป็นเคสที่ตัวของวัคซีนรักษาออกมาได้ไว ส่วนการฟื้นตัวแบบ L-shape (ชะลอตัวลากยาว) มีโอกาสเป็นไปได้ เช่นกัน แต่อาจจะไม่เยอะมาก เพราะ มาตรการการเงินและการคลังของหลายๆประเทศออกมาได้รวดเร็วและรุนแรง

โดยรวมลักษณะการฟื้นตัวที่อาจเป็นไปได้จะอยู่ในรูปทรง U-shape (ค่อยๆฟื้นตัว) โดยมีลักษณะคือ ในไตรมาส 2 ตลาดอาจจะยังผันผวนอยู่แต่ไม่เท่ากับไตรมาส 1  และจะเริ่มฟื้นตัวเป็นเป็นในลักษณะ U-shape (ค่อยๆฟื้นตัว) ในไตรมาส 3 โดยที่ตลาดจะมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มตัวในไตรมาส 4 ของปีนี้

ปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวแบบ Shape of U (U-shape)

1) นโยบายการเงินแบบจัดเต็ม 

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

โดยปกติทั่วไปนั้นเวลา Fed จะขึ้นดอกเบี้ยแต่ละทีก็ต้องดูเงินเฟ้อและตัวเลขเศรษฐกิจกันก่อนว่าสมควรขึ้นหรือไม่ แต่รอบนี้กลับไม่ใช่ เพราะ ทาง Fed นั้นออกมาตรการออกมาแบบปูเสื่อรอก่อนหน้า (Proactive) กลับกันกับช่วง 2008 ที่รอสถานการณ์วิกฤติเกิดแล้วจึงตอบสนอง (เชิง Reactive)

ดังนั้นถือว่าในรอบนี้ทาง Fed ออกตัวมาได้อย่างรวดเร็วทั้งการลดดอกเบี้ย ทำ QE + QE อีกรอบเป็นแบบ unlimited แถมเพิ่มเติมด้วยการเข้าซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนเพื่อช่วยเหลือโดยตรงแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน รวมถึงมาตรการเข้าไปซื้อตราสารหนี้เกรดตํ่าในตลาดรอง

2) นโยบายการคลังที่เข้มข้นกว่าเดิม

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

หากย้อนกลับไปยังปี 2008 การทำนโยบายการคลังมีงบอยุ่ที่ประมาณ 5.74% ของ GDP ในขณะที่รอบปัจจุบันใช้มากถึง 10% ของ GDP และมีการทำก่อนวิกฤติจะเกิด

ซึ่งโดยรวมการอัดมาตรการการเงินและการคลังมีมากกว่าถึงราวๆ 2-3 เท่า

ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศร้อนแรงเริ่มลดลง

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

หลังจากมีมาตรการการ lockdown ที่เข้มข้นเราเริ่มได้เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลง รวมถึงในประเทศที่เป็นประเด็นร้อนแรงอย่าง เยอรมัน สเปน และอิตาลี

ผลลัพธ์อาจกลับกันจากพื้นฐานที่แตกต่าง

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

ในวิกฤติปี 2008 ต้นตอหลักเกิดจากการเก็งกำไรในตัวของ MBS (ตราสารการเงินลงทุนในสินเชื่อที่อยู่อาศัย) แต่วิกฤติในครั้งนี้เกิดจากการหยุดชะงักของภาคเศรษฐกิจจึงทำให้รายได้ของผู้คนหดหายตามไปด้วย ซึ่งคุณ บดินทร์ มองว่าอาจเกิดการถดถอยแต่ยังไม่เลวร้ายถึงขั้นวิกฤติ เนื่องด้วยในปัจจุบันสถาบันการเงินต่างๆ มีความรัดกุมในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมถึงมาตรการการเงินและการคลังที่ออกมาเยียวยาผลกระทบมากกว่าในเชิงของการช่วยฟื้นฟูจากวิกฤติ สังเกตจากดัชนีวัดความตื่นตระหนกหรือความกลัวอย่าง VIX index ที่เริ่มลดลง 

ลงแรงลงเร็วอาจจบไว

นอกจากนั้นตลาดขาลงในรอบนี้ลงอย่างรุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งอาจเกิดจากการขายอย่างตื่นตระหนก (Panic sell) โดยลงมา ที่ -33% ถึง -34% ใน 30 วันทำการ ต่างกับปี 2008 ที่ลดลงมา 50% และใช้เวลาถึง 350 วันทำการ

ความผันผวนที่ลดลง แสดงถึงความมั่นคงที่มากขึ้น

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

ในช่วงที่ผ่านมาความผันผวนของตลาดจะอยู่ที่ราวๆ +10% ถึง -10% ถือว่าค่อนข้างเร้าใจเลยทีเดียว แต่ล่าสุดเริ่มลดลงเหลือ +5% ถึง -5% ซึ่งแสดงถึงความมั่นคงที่มากขึ้น

Balance Sheet กู้โลกกับ Drawdown

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

จากภาพจะสังเกตได้ว่าหลังจาก Fed มีการขยายในส่วนของ Balance sheet (ทำ QE) และลดดอกเบี้ยซึ่งตอบสนองออกมาไวกว่าปี 2008 Drawdown ในช่วงล่าสุดเริ่มแคบลง แสดงให้เห็นว่าการทำ QE อาจทำให้ Drawdown ในช่วงขาลงลดลง

Earning Yield Gap หนึ่งในตัววัดจุดตํ่าสุดของตลาด

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

Earning yield gap (ส่วนกลับ P/E ลบด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวหรือการเทียบผลตอบแทนตลาดหุ้น ณ ปัจจุบันกับพันธบัตรรัฐบาล) โดยเมื่อ Earning yield gap แสดงขึ้นไปสูงในระดับหนึ่งตลาดหุ้นมักจะถึงจุดตํ่าสุด

สังเกตได้จากภาพในปี 2008-2009 ที่ดีดขึ้นไปถึง 6% และตลาดหุ้นถึงจุดตํ่าสุดพอดีหรือจะเป็นปี 2011 อย่างวิกฤติการเงินในยุโรปที่แตะ 6% กว่าๆ เช่นกัน ซึ่งสรุปโดยรวมในอดีตหากแตะที่ 6% จะหมายถึงการเกิดวิกฤติ แต่ตอนนี้ได้แตะที่ระดับนี้เรียบร้อยแล้วทั้งๆ ที่ยังไม่เกิดวิกฤติ แปลว่านักลงทุนอาจตีราคาในส่วนนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ธีมการลงทุนแนะนำ TMBAM Quality Mega Theme Portfolio

TMBGQG

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

ในช่วงขาลงผลตอบแทนติดลบน้อยกว่าตัว benchmark หลักอย่าง MSCI World ซึ่งช่วงที่ผ่านมา TMBGQG ติดลบที่ราวๆ 10% เท่านั้นหากเทียบกับดัชนี MSCI World ที่ติดลบถึง -16%

TMBUSBLUECHIP

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

ในส่วนของ TMBUSBLUECHIP ที่ลงทุนในหุ้น Bluechip (หุ้นใหญ่) ก็มีผลของค่า drawdown ที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยเช่นเดียวกัน สังเกตได้จากภาพที่ -7% เทียบกับตัว Benchmark ที่ -11%

TMBCOF

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

จีนมีสัญญาณเชิงบวกที่เห็นได้ชัดอย่าง PMI ที่เริ่ม rebound ร้อนแรงซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนเริ่มกลับมา 

รวมถึง drawdown ที่ติดลบที่ -3% ซึ่งทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยที่ 9% จึงถือว่ากองทุนนี้มีความน่าสนใจเช่นเดียวกันครับ

TMBGINFRA

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

ตัวนี้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆทั่วโลก โดยปัจจุบันติดลบที่ -15% หากเทียบกับ benchmark -9% อย่างไรก็ตามในตัวกองทุนเองมีการลงทุนในยุโรปเยอะ ซึ่งทางคุณ บดินทร์ มองว่า การล่า yield ในยุโรปจะกลับมาจาก yield ปัจจุบัน 4.8% ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ หากเทียบกับ bond yield ของยุโรปที่ติดลบจากดอกเบี้ยนโยบายแบบติดลบ รวมถึงตัวโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนนั้นค่อนข้างมีความผูกขาดซะส่วนใหญ่ จึงทำให้มีความั่นคง

TMBPIPF

สรุป LIVE วิกฤติจบไว? พร้อมมุมมองการลงทุนแนะนำ

ลงทุนใน REITs ไทยและสิงคโปร์ โดยเป็นในออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า คลังสินค้า รวมถึงโรงแรมที่ถึงแม้จะได้รับผลกระทบหนักแต่มีสัดส่วนที่น้อย รวมถึงมุมมองเพิ่มเติมว่าเทรนด์ห้างสรรพสินค้าในไทยจะไม่หายไปจากสภาวะอากาศรวมถึงการใช้ชีวิตของคนไทย อย่างเช่น การอยู่การเป็นครอบครัว และรอซึ่งกันและกันอย่างอบอุ่นก็อาจทำให้ห้างสรรพสินค้ายังเป็นตัวเลือกสำคัญในการใช้ชีวิตของคนไทยต่อไป

สรุปหัวใจหลักของ LIVE ในวันนี้

1) เศรษฐกิจอาจฟื้นตัวได้ไวมากกว่าในอดีต

2) เชื่อว่ารอบนี้เป็น recession ที่ฟื้นตัวได้ไว และอยู่กับเราไม่นาน จากมาตรการกระตุ้นจากการเงินและการคลังที่รวดเร็วและรุนแรง

3) มองว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บสะสมและ DCA


สำหรับใครที่สนใจอยากเสาะหาและเติบโตไปกับ MEGATREND ทั่วโลก ด้วย TMBAM QUALITY MEGA THEME PORTFOLIO

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพอร์ตนี้ได้ที่ https://www.finnomena.com/tmbam/port-tmbam/

เสาะหาและเติบโตไปกับ Megatrend ทั่วโลก ด้วย TMBAM Quality Mega Theme Portfolio

TSF2024