ใครจะไปรู้ว่าสายมโนก็ลงทุนได้ หลายคนอาจจะมองว่าเรื่องของการลงทุนเป็นเรื่องน่าปวดหัว เกี่ยวกับเรื่องเลข การคำนวนและตรรกะเต็มไปหมด แต่จริงๆ แล้วเราสามารถมองกราฟต่างๆ เป็นรูปภาพที่น่าสนใจได้หลายรูปเลยทีเดียว เรามาดูกันว่าเป็นเด็กสายอาร์ทแต่อยากเทรดหุ้นต้องทำยังไง? จะมองกราฟเป็นศิลปะได้อย่างไร?
เรามาดูกันก่อนว่าข้อดี ข้อเสียของการมองกราฟแบบ freestyle เป็นยังไง
ข้อดี
- มองเห็นโอกาสทำกำไรที่หลากหลาย
- ยืดหยุ่นและสามารถเทรดได้ในภาวะตลาดที่หลากหลาย เนื่องจากสามารถทำกำไรในกรอบของรูปแบบราคาได้
- ไม่ยึดติดว่าต้องไปกับแนวโน้มส่วนใหญ่เพียงอย่างเดียว เหตุผลเช่นเดียวกันกับข้อที่แล้ว
- เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากศึกษางบการเงิน เศรษฐศาสตร์ให้วุ่นวาย ใช้ทักษะมิติสัมพันธ์หรือการมองภาพมาประยุกต์
ข้อเสีย
- ใช้ประสบการณ์ค่อนข้างมาก ในการมองภาพให้ออก
- ส่วนใหญ่จะเทรดในกรอบแคบๆ ซึ่งมีโอกาสผิดพลาด
รูปแบบแรกที่เราจะพูดถึงในวันนี้คือรูปแบบราคาแบบ หัวและไหล่ (Head&Shoulders)
ยาสระผมขจัดรังแคยอดนิยมทุกครัวเรือน ที่ผมรู้ว่าคุณก็ใช้ ผิด!!! อันนี้เป็นรูปแบบของราคายอดนิยมรูปแบบหนึ่ง ซึ่งหากมันรวมตัวสมบูรณ์แบบแล้วเราสามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะ มันหมายถึงการกลับตัวของแนวโน้มนั่นเอง!!
วิธีมองแบบเข้าใจง่ายๆ
มองเป็นรูปถ่ายแบบครึ่งตัวคน จะมองเป็นป้าข้างบ้านที่ชอบคุยข่ม หญิง-ชายในฝัน เพื่อนตอนมัธยมที่ชอบแย่งขนม หรือเอาไฟแช็คมาเผาขนหน้าแข้งก็แล้วแต่คุณ พูดง่ายๆ รูปนี้ก็เหมือนไหล่สองข้างของคน บวกกับหัวตรงกลางอีกหนึ่ง
Head & Shoulders
รูปข้างต้นเป็นกราฟ US dollar index ที่ Timeframe 1 วัน โดยจะสังเกตได้ว่าที่ราคาประมาณ 94.00 มีการเกิดของ Left Shoulder และ Right Shoulder โดยมีเส้น Neckline อยู่ที่ราคา 92.50 โดยประมาณ ส่วนหัว (Head) จะสูงกว่าไหล่ทั้งสองข้างโดยมีราคาอยู่ที่ 95.00
Inverted Head & Shoulders
หรือจะมองกลับหัวก็ยังได้ หากเกิดขึ้นแล้วจะหมายถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น
จากรูปเป็นกราฟ Bitcoin/USD ที่ กรอบ Timeframe 4 ชั่วโมง ซึ่งเกิด Inverted Head & Shoulders โดยสมบูรณ์ จะสังเกตได้ว่า รูปแบบจะแตกต่างจาก Head & Shoulders ปกติเพียงแค่รูปแบบนี้เกิดในส่วนล่างของกราฟ และ เป็นรูปกลับหัว โดยรายละเอียดทางส่วน Neckline, Left Shoulder, Head, และ Right Shoulder ยังเป็นเช่นเดิม
ปัญหาหนึ่งที่ส่วนตัวผมและเชื่อว่าหลายๆ คนเป็นก็คือ เวลาไปเจอกราฟจริงที่ Pattern ยังเกิดไม่ครบแล้วเราจะสังเกตได้อย่างไร ทาง Mr.Serotonin จะมาบอกเทคนิคและวิธีให้ทุกคนดูกัน
อ่านแล้วคันมืออยากลองตีกราฟ กดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลย ฟรี!!
https://www.finnomena.com/stock/setindex
เทคนิคการสังเกตอย่างง่ายตามกราฟจริง
- ช่วงการเกิด Left Shoulder จะเกิดเป็นรูปคล้ายสามเหลี่ยมขึ้นมาก่อน 1 อัน
- หลังจากนั้นจะเกิดรูปสามเหลี่ยมอีกหนึ่งรูปตรงส่วน Head โดยยอดของสามเหลี่ยมจะสูงกว่าส่วน Left Shoulder ที่เกิดก่อนหน้า
- หลังจากนั้นเราสามารถคาดการณ์ได้ว่าอาจจะเกิดรูปแบบการกลับตัวแบบ Head & Shoulders ขึ้น ดังนั้นเราอาจจะลองตั้งคำสั่งซื้อขายแบบ Sell Limit (การตั้งคำสั่งขาย (short) ล่วงหน้าในขณะที่ราคากำลังเพิ่มขึ้น) โดยตั้งราคาเท่ากับยอดของ Left Shoulder ก่อนหน้า เนื่องจากยอดของไหล่ทั้งสองข้างมักจะเท่ากัน โดยสังเกตได้จากรูปข้างล่าง
- เนื่องจากออเดอร์ที่เปิดเป็นออเดอร์ short ซึ่งเป็นการคาดการณ์ว่าราคาจะลง โดยเมื่อราคาลงแล้วจะได้กำไร ดังนั้นจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) จึงต้องตั้งเหนือราคายอดของ Left Shoulder อันก่อนหน้าซึ่งเราเปิดออเดอร์ short ไว้ เพราะถือเป็นแนวต้านที่ราคาเคยขึ้นไปทดสอบ โดยตั้งเหนือไส้เทียน ซึ่งยิ่งตั้งห่างจากไส้เทียนของจุดก่อนหน้า มากเท่าไรโอกาสสำเร็จก็ยิ่งมากขึ้น เพราะในบางครั้งราคาอาจจะขึ้นมาทดสอบเกินจุดดังกล่าวและกลับไปอยู่ในรูปแบบ head & shoulders ดังเดิม อย่างไรก็ตามในทางกลับกันหากราคาไม่วิ่งตามรูปแบบเราก็จะเสียมากกว่าเดิม
- ส่วนจุดทำกำไร (Take Profit) อาจจะเป็นที่บริเวณ Neckline หากต้องการเล่นแบบเซฟๆ เพราะ ในบางครั้งราคาอาจทดสอบที่เส้น Neckline และไม่สามารถทะลุผ่านได้ ซึ่งหมายถึงการที่รูปแบบราคานี้ก่อตัวล้มเหลว ในทางกลับกันเราอาจจะตั้งจุดทำกำไรเลย Neckline ลงไปหากเป็นสายใจถึง ในกรณีการตั้งจุดทำกำไรเช่นนี้ จะต้องมีแท่งเทียนปิดตํ่ากว่าเส้น Neckline ในส่วนนี้จะเรียกว่าการ Breakout หรือการทะลุกรอบราคานั่นเอง ซึ่งจะทำกำไรได้ค่อนข้างมากเพราะราคาจะวิ่งรุนแรงหลังการทะลุกรอบ
*หากยังสงสัยหรือไม่เข้าใจในการตั้งจุดทำกำไรหรือจุดตัดขาดทุนทุกคนสามารถดูรูปประกอบด้านล่างได้เลย !!
ตัวอย่างการตั้ง TP และ SL
TP แบบใจถึง
TP แบบเซฟๆ
*จากภาพจะสังเกตได้ว่าจุดตัดขาดทุนจะสูงกว่าไส้เทียนสีแดงของ Left Shoulder
อ่านแล้วคันมืออยากลองตีกราฟ กดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลย ฟรี!!
https://www.finnomena.com/stock/setindex