หากเราลงทุนในช่วงนี้เพียงแค่เราเปิด Social media เราก็จะพบกับข่าวร้ายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของไวรัสโคโรน่า สถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมือง เงินบาทที่แข็งค่าเกินไป ตลาดหุ้นที่ร่วงโรยดั่งนํ้า
แต่อย่างไรก็ตามในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ และโอกาสที่ว่าในวิกฤติก็คือ “ทองคำ” สินทรัพย์ที่ผู้คนให้คุณค่ากับมันกันมาอย่างช้านาน โดยผู้คนให้ความสำคัญกับมันในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยชั้นเยี่ยม
ทำไมถึงควรมีทองคำติดตัวไว้ตลอดเส้นทางการลงทุน?
ด้วยคุณค่าที่ผู้คนให้ความสำคัญกับมัน จึงทำให้ราคาทองคำนั้น “เติบโตต่อเนื่องมาอย่างต่อเนื่อง”
หาก Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า…
“การลงทุนหุ้นในดัชนี เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคนไม่มีความรู้มาก”
การลงทุนทองก็เป็นฉันนั้นเช่นกัน เนื่องด้วยทองเป็นสินทรัพย์ที่มี value (คุณค่า) อยู่เสมอ โดยหลายๆประเทศบนโลก ล้วนแต่สำรองทองคำไว้ทั้งสิ้น เนื่องจากทองเป็นหนึ่งในตัววัดว่า เงิน (Currency) ในประเทศนั้นๆ มีค่าหรือไม่ เนื่องจากการที่แต่ละประเทศจะพิมพ์เงินออกมาใช้กันนั้น จะต้องมีสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไปค้ำตัวเงิน หรือสรุปง่ายๆ ก็คือ “ประเทศที่ไม่มีทอง เงินก็เป็นเพียงเศษกระดาษ ที่มีหน้าคนติดอยู่เท่านั้นเอง”
และเนื่องด้วยเหตุนี้เองทองจึงเป็นอีกหนึ่งในการลงทุนที่ดีที่สุด เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ผู้คนให้มูลค่ากับมันอยู่เสมอๆ มาอย่างช้านานและเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญ “ระดับชาติ” ดังนั้นราคาจึงเติบโตต่อเนื่องตามกันไปด้วย
ภาพแสดงราคาทองราวๆ 20 ปีย้อนหลัง
จากภาพจะสังเกตได้ว่าราคาทองนั้นมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 16.24% ต่อปี ซึ่งหากคุณลงทุนทองเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ด้วยเงิน 100,000 บาททุกปี ในวันนี้เงินของคุณจะมีมูลค่าเท่ากับ 13,801,394 บาท เรียกได้ว่าเงิน 2,000,000 บาทที่คุณลงทุนไปนั้นเติบโตถึงเกือบ 6 เท่าเลยทีเดียว
ทองคำอยู่ในช่วงที่ “ร้อนแรง” สวนทางกับตลาดหุ้นไทยที่ดิ่งลงต่อเนื่อง
ราคาทองคำในช่วงนี้นั้นถือว่าวิ่งด้วยความร้อนแรงเป็นอย่างมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ด้วยราคาที่ขึ้นไปแบบ วันต่อวัน เดือนต่อเดือน ราวกับไม่มีคำว่าแพงเกินไปสำหรับสินทรัพย์ตัวนี้!! ซึ่งถ้าหากสังเกตจากกราฟความสัมพันธ์ จะเห็นได้ว่าทองคำได้ปรับตัวมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่แล้ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดหุ้น ที่ล่าสุดเหมือนจะร่วงลงมาเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่อึมครึมมานาน
ยิ่งส่งผลให้ทองคำได้ดีดตัวแรงขึ้นไปอีก สังเกตได้จากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างรุนแรง สวนทางกับทองคำที่ดีดตัวขึ้น
เรียกได้ว่าทองคำเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการลงทุนที่ควรมีไว้ประดับพอร์ตโฟลิโอการลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนเช่นนี้
ภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างดัชนี SET index และ Gold spot ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง หากเราเลือกที่จะไม่ติดตาม ก็เหมือนกับมีหมูอยู่ตรงหน้าแล้วเราไม่ซื้อ ดังนั้นวันนี้เราจึงขอแนะนำ FINNOMENA MONEY ที่ให้ราคาทองแบบ real time นาทีต่อนาที ให้คุณไม่พลาดทุกโอกาส โดยไม่ต้องโหลด ไม่ต้องสมัครให้วุ่นวาย แค่หยิบมือถือแล้วเปิด LINE ก็ใช้ได้เลย ถ้าอยากรู้ว่า ต้องทำอย่างไรนั้น ติดตามวิธีการใช้งานด้านล่างได้เลย!!
วิธีใช้งาน FINNOMENA MONEY ผ่าน LINE สะดวก ง่าย รวดเร็ว ดูได้ทั้งหมดเพียง 4 คลิก
วิธีดูราคาทองผ่าน FINNOMENA LINE Mini App
สรุปสิ่งที่คุณหาไม่ได้จากที่อื่น จากการดูทองผ่าน FINNOMENA MONEY
1.ราคาครบจบในแอปเดียว
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ลงทุนในทองเป็นประจำ ปัญหาที่พบเจอได้บ่อยๆ ก็คือ ส่วนใหญ่ราคาทองในเว็บไซต์หนึ่ง จะมาในรูปแบบของสกุลเงินดอลลาร์ (ราคา Spot) เพียงอย่างเดียวหรือ หากเป็นราคาทองไทยก็จะมีแต่เพียงราคาทองไทยเพียงอย่างเดียว แต่หากคุณดูราคาทองผ่าน FINNOMENA MONEY คุณสามารถดูได้ทุกซอกทุกมุมของทองแบบไม่มีกั๊ก! ไม่ว่าจะเป็นราคาทองแบบดอลลาร์ (Spot) ราคาทองคำแท่งไทย ราคาทองรูปพรรณไทย หรือแม้แต่บทวิเคราะห์การลงทุนในทอง เรียกได้ว่า “ง่าย ครบ จบ ในแอปเดียว”
2.ไม่ต้องดาวน์โหลดหรือสมัครให้วุ่นวาย พร้อมดูได้เลย!
เชื่อว่าในวันนี้คงไม่มีใครไม่มีแอปพลิเคชั่น LINE บนมือถือ เพราะฉะนั้นปัญหาเรื่องต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นหรือสมัครบริการก่อนเช็คราคาทองจะหมดไป เพราะ FINNOMENA MONEY อยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อมนิ้วของคุณทุกครั้งที่คุณเปิด LINE ดังเพื่อนรู้ใจคุณ ที่คุณยังไม่รู้ตัว!! ในจุดนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็นับ 3 2 1… แล้วหยิบมือถือขึ้นมากดเข้ากันได้เลย!
หรืออีกทางหนึ่งคือ คลิกที่ลิ้งก์ข้างล่าง เพื่อไปสู่ FINNOMENA MONEY ได้เลย
https://liff.line.me/1597701222-kKX12QL0/?page=miniapp
References:
http://www.investerest.co/investment/investing-in-index-funds/
https://www.fxcm.com/uk/insights/safe-haven-assets/