กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับสำหรับบทความเทคนิคอลแบบละเอียด อ่านชิวๆ สไตล์ Mr. Serotonin วันนี้เราจะมาพูดถึงรูปแบบราคาที่เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มกันต่อ โดยวันนี้จะมาถึงรูปแบบราคาแบบ Ascending Triangle + Descending Triangle และ Falling Wedge + Rising Wedge โดยรูปแบบราคาในวันนี้หากเทียบกับรูปแบบราคาอันก่อนๆ อาจจะดูงงๆ สักนิด บางคนอาจจะอุทานว่าแล้วมันต่างกันยังไงงะ? รูปมันก็คล้ายๆ กันหมดปะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงทาง Mr. Serotonin จะมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจแบบ EZ เช่นเคย
แล้ว Ascending Triangle + Descending Triangle กับ Pennant ในบทความก่อนหน้ามันต่างกันยังไง?
หากยังจำกันได้รูปแบบนี้จะคล้ายๆ กับรูปแบบ Pennant ในบทความก่อนหน้า (คลิกอ่านได้ที่ <<https://www.finnomena.com/mrserotonin/pennants-flags/>>) หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันก็สามเหลี่ยมเหมือนกัน มันจะดูออกได้ยังไง ซึ่งจริงๆ แล้วข้อแตกต่างระหว่าง Pennant และ Ascending Triangle เป็นยังไง ก็คือตัวฐานของสามเหลี่ยม ใน Ascending Triangle ควรจะเป็น 180 องศา หรือเกือบๆ (เส้นตรง) เพราะในสถานการณ์จริงโอกาสที่จะเกิดแบบ perfect เลยนั้นเป็นไปได้ยาก ซึ่งถ้าใกล้เคียงก็ถือว่าโอเคแล้วละ ส่วนอีกเส้นหนึ่งควรจะเป็นในลักษณะเฉียงๆ ซึ่งไม่ตายตัว แต่หากตีทั้งสองเส้นแล้วออกมาเป็นในลักษณะสามเหลี่ยมก็ถือว่าผ่าน
Ascending Triangle
ภาพด้านบนเป็นภาพของสินทรัพย์สายเหลืองถือแล้วรู้สึกปลอดภัยอย่างทองคำ โดยเป็นรูปในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง จะสังเกตได้ว่ามีการ breakout ของราคาเกิดขึ้น แล้วราคาจึงวิ่งต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่ง ส่วนที่เหลือด้านหลังเราไม่ให้ดูเพราะมันลงมา ฮาๆ (จริงๆ แล้วหวังดีนะ เดี๋ยวมันจะดูยาก)
จะสังเกตได้ว่าฐานของสามเหลี่ยมจะเกือบๆ เป็นเส้นตรงแบบ perfect หรือเกือบๆ 180 องศา โดยมีเส้นเฉียงๆ แปะอยู่ด้านบน ดูรวมๆ แล้วมีลักษณะคล้ายๆ สามเหลี่ยม
Descending Triangle
เรามาดูค่าเงินกันบ้าง ข้างบนเป็นกราฟของค่าเงิน EUR เทียบกับ USD ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง โดยรูปแบบ Descending Triangle จะแตกต่างจากรูปแบบ Ascending Triangle เพียงแค่ จะเกิดในแนวโน้มขาลง ใน ขณะที่ Ascending Triangle จะเกิดในขาขึ้น โดยรูปแบบนี้พิเศษอย่างหนึ่งคือจะไม่มีการกลับหัวไปมาให้วุ่นวาย
ประสบการณ์ส่วนตัว
จริงๆ แล้วมันก็กลับหัวได้แหละแบบพลิกกลับด้านลงมาด้านล่าง แต่เนื่องจากข้างบนมันเป็นทฤษฎีเราเลยอาจจะต้องอยู่ในกรอบสักนิดนึง หากเห็นรูปแบบนี้แบบกลับหัวแล้วไม่แน่ใจเพราะไม่เหมือนในเว็บเป๊ะๆ ก็ซัดไปเลยไม่ต้องกลัวถ้ามีสัญญาณ breakout
อ่านแล้วคันมืออยากลองตีกราฟ กดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลย ฟรี!!
https://www.finnomena.com/stock/setindex
Rising Wedge
มาถึงรูปแบบ Wedge กันบ้าง ภาพด้านบนเป็นภาพกราฟดัชนี S&P 500 ในกรอบเวลา 1 วัน โดยภาพด้านบนเป็นรูปแบบ Rising Wedge จะสังเกตได้ว่าทั้งสองเส้นจะไม่มีเส้นใดเป็นเส้นตรงในลักษณะ 180 องศาเลย แต่จะเหมือนบีบเข้ามาเรื่อยๆ มากกว่าจนมีรูปร่างคล้ายกับรูปสามเหลี่ยม โดยภาพด้านบนมีแท่งเทียน breakout ส่งสัญญาณขายเช่นเคย แล้วเราก็เข้าออเดอร์ตามสัญญาณนี้
Falling Wedge
มาเปลี่ยนบรรยากาศดูสินค้าโภคภัณฑ์มูลค่าสูงอย่างนํ้ามันกันบ้าง โดยภาพด้านบนเป็นกราฟในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง โดยมีสัญญาณเข้าซื้อโดยการปิดตัวเหนือกรอบราคาของแท่งเทียนสีเขียวดังที่เห็นในภาพ และมีการกลับมาทดสอบเบาๆ ตรงแท่งเทียนสีแดงที่ลากไส้ลงมายาวๆ ก่อนราคาจะวิ่งขึ้นไปต่อเนื่อง
อีกหนึ่งปัญหาโลกแตก คือ Ascending Triangle + Descending Triangle กับ Rising Wedge + Falling Wedge มันต่างกันยังไง?
เรามองเองยังคิดว่ามันหยวนๆ กันได้เลย แต่ช่างมันเถอะ ฮาๆ ทฤษฎีเค้าว่ามาอย่างนั้น จริงๆ แล้วมันมีข้อแตกต่างอยู่นะ ข้อแตกต่างก็คือตัวฐานของตัว Wedge มันจะเฉียงๆ แบบสไลด์ลงไม่ไ่ด้เป็นเส้นตรง 180 องศาเหมือนกับตัว Ascending Triangle + Descending Triangle ต่างแค่นี้แหละ…
อ่านแล้วคันมืออยากลองตีกราฟ กดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลย ฟรี!!
https://www.finnomena.com/stock/setindex
อ่านบทความ price pattern อื่นๆได้ที่นี่
ใครว่าเล่นหุ้นต้องเก่งเลข!! วิธีมองหุ้นแบบสายมโน ด้วย Price Pattern แบบเข้าใจโคตรง่าย (รูปแบบ Pennants & Flags)
https://www.finnomena.com/mrserotonin/pennants-flags/
ใครว่าเล่นหุ้นต้องเก่งเลข!! วิธีมองหุ้นแบบสายมโน ด้วย Price Pattern แบบเข้าใจโคตรง่าย (รูปแบบ Head & Shoulders)
https://www.finnomena.com/mrserotonin/head-shoulders/
ใครว่าเล่นหุ้นต้องเก่งเลข!! วิธีมองหุ้นแบบสายมโน ด้วย Price Pattern แบบเข้าใจโคตรง่าย (รูปแบบ Double Top&Bottom และ Triple Top&Bottom)
https://www.finnomena.com/mrserotonin/double-top-bottom/