คุณก็เป็นเจ้าของศูนย์การค้าหมื่นล้านได้!! ในราคาหลักหมื่นด้วย CPNREIT กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ในไทย

หากคุณจะเลือกลงทุนในอะไรสักอย่างหนึ่ง คุณคำนึงถึงอะไรบ้าง? ความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ผลตอบแทน ใช่ไหมครับ แต่ในขณะเดียวกัน ผลตอบแทนที่มากขึ้นก็หมายถึงความเสี่ยงที่มากขึ้นเช่นกัน แต่ถ้าวันนี้ผมจะมาบอกว่า ปัจจุบันมีสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ทั้งในวันที่ “ตลาดยํ่าแย่” และในวันที่ “ตลาดกระทิงคึกคะนอง” โดยมีความมั่นคงที่สูง คุณจะเชื่อไหมครับ? คำตอบของปัญหานี้คือ สินทรัพย์อย่าง “REIT” หรือกองทรัสต์ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และหนึ่งในกอง REIT สุดร้อนแรง ณ ตอนนี้ก็คือ CPNREIT นั่นเองครับ โดยผมจะพาทุกคนไปพิสูจน์ผ่านข้อมูลที่ผมปรุงและคัดสรรมาเป็นอย่างดี ว่าทำไม CPNREIT ถึงเป็นคุณค่าที่คู่ควรกับนักลงทุนทุกสไตล์

ทำไมต้อง REIT?

สินทรัพย์แบบ 2 in 1 กลมกล่อม

หากเทียบกับสินทรัพย์รูปแบบอื่นอย่างหุ้นคงเปรียบได้กับกาแฟขมๆ ขาดความนุ่มนวลกลมกล่อม เพราะส่วนใหญ่เล่นได้แค่ในแง่ของ “การเติบโต (Growth play)” เพียงอย่างเดียว แต่กลับกัน สินทรัพย์อย่าง REIT นั้นเป็นเหมือนกาแฟรสนุ่ม กลมกล่อม เพราะมีส่วนผสมทั้งในแง่ของ “Defensive play” และ “Growth play” ในถ้วยเดียวกัน

ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตดี สินทรัพย์อย่าง REIT ก็จะมีผลประกอบการที่ดีตาม ส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์อย่าง REIT เติบโตขึ้น อีกทั้งยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้มากขึ้นด้วย (Growth play) และส่วนใหญ่จะมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล แต่ในขณะเดียวกัน ในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลงดังเช่นเศรษฐกิจไทยในตอนนี้ที่ถูกกดดันโดยการแข็งค่าของค่าเงินบาทและอัตราเงินเฟ้อที่ตํ่า จนทำให้ทางรัฐต้องลดดอกเบี้ย แต่ราคาของสินทรัพย์อย่าง REIT ได้รับผลกระทบในระดับที่ต่ำ และก็ยังสามารถจ่ายเงินประโยชน์ตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ (Defensive play) ถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์ที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว

CPNREIT ปัจจุบันแข็งแกร่งแค่ไหน?

หากเราคิดว่าวันหยุดจะไปศูนย์การค้าสักที่ เชื่อว่าชื่อของศูนย์การค้าเซ็นทรัลคงจะขึ้นมาเป็นตัวเลือกแรกๆ ของหลายๆ คน ด้วยความที่เป็นศูนย์การค้าที่ตอบโจทย์ในเรื่องของไลฟ์สไตล์ ด้วยร้านค้าและร้านอาหารชั้นนำ ที่พักผ่อนหย่อนใจที่ครบครัน ซึ่งตอบโจทย์ทุกอย่างในที่เดียว

นอกจากนั้น การเป็นศูนย์การค้าที่ตอบโจทย์ในเรื่องของไลฟ์สไตล์ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารและการปรับตัวอันชาญฉลาดของผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์อย่าง CPN ในยุค Disruption ที่ธุรกิจออนไลน์เข้ามาตอบโจทย์ในทุกเรื่องของคน จนแทบจะนอนอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีทุกอย่างได้ ซึ่งศูนย์การค้าเซ็นทรัลนั้นให้คุณได้มากกว่านั้น เช่น คุณไม่สามารถซื้อบรรยากาศหรือความอบอุ่นในโอกาสพิเศษ ของการทานอาหารในร้านอาหารชั้นนำของศูนย์การค้าเซ็นทรัลมาไว้ที่บ้านได้ ซึ่งถือว่าเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันอย่างหนึ่ง

ในเชิงธุรกิจแล้ว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลถือเป็นศูนย์การค้าที่คงอยู่มาอย่างยาวนานและแข็งแกร่งเช่นกัน พิสูจน์ได้โดยระยะเวลาดำเนินการที่มีมาราวๆ เกือบ 40 ปี ผ่านวิกฤติต่างๆ มาได้อย่างยาวนาน อย่างเช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง หรือวิกฤติทางการเมืองอันร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา เป็นต้น

นอกจากนั้น ในส่วนของการเช่าพื้นที่ ถ้าเป็นคุณ คุณคิดว่าคนที่จะเช่าต้องต่อคิวรอนานขนาดไหนเพื่อที่จะเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล? หากยังนึกภาพไม่ออกคุณอาจจะลองนึกถึงร้านอาหารชื่อดังอย่างร้านเจ๊ไฝหรือเครปป้าเฉื่อยที่คนรอต่อแถวเข้าคิวกันตั้งแต่เช้ามืด

อาจจะฟังดูดีแต่นี่คือความจริงครับ หลังจากนี้ผมจะพาทุกคนมาดูข้อมูลสนับสนุนว่าทำไม CPNREIT ถึงเป็นกองทรัสต์ที่แข็งแกร่ง โดยเหตุผลหลักคือ 1) อัตราการเช่าพื้นที่ที่สูงมาอย่างต่อเนื่อง  2) โครงสร้างค่าเช่าที่มีความแข็งแกร่ง 3) ผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและ 4) ทรัพย์สินที่มีรากฐานที่ดี

โดยในขั้นแรกผมจะพาทุกคนไปดูอัตราการเช่าพื้นที่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลกันก่อน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าเซ็นทรัลเป็นศูนย์การค้าที่หลายๆ ธุรกิจจับตามองที่จะเช่า

อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ที่สูงมาก

ที่มา: ข้อมูลจากคําอธิบายและการวิเคราะหข์องฝ่ายจัดการ ผลการดําเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 ของ CPNREIT

คุณเคยเห็นพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลถูกทิ้งร้างไหมครับ? หรือในช่วงวันหยุดคุณเคยหาที่จอดรถในศูนย์การค้าเซ็นทรัลในระยะเวลาสั้นๆ ได้หรือเปล่า นอกเสียจากคุณจะต้องเสียค่าสมัครบัตรเซ็นทรัลเพื่อรับสิทธิพิเศษในการจอดรถ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่ทั้งลูกค้าและผู้เช่าต่างให้คุณค่า ลูกค้าจำนวนมากก็อยากมาใช้เวลา ส่วนคนเช่าก็อยากเช่าเนื่องจากฐานลูกค้ามีจำนวนมาก เข้าใจได้ง่ายๆ แบบนี้เลยครับ

เราเรียกอัตราการเช่าพื้นที่ว่า Occupancy Rate อธิบายแบบละเอียดอีกนิดก็คือ อัตราการเช่าหรือการใช้พื้นที่เทียบกับจำนวนพื้นที่ว่างทั้งหมด โดยแสดงถึงความต้องการของผู้เช่าในอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ

แล้วอัตราการเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลสูงขนาดไหน? เกือบๆ 100% ครับ!! โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 95%เลยทีเดียว นอกจากนั้นในส่วนของธุรกิจโรงแรม อย่างโรงแรมฮิลตัน พัทยา ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ของ CPNREIT ยังมีอัตราการเข้าพักที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของ 2 ปีล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 90%!!

ดังนั้น นักลงทุนทุกคนจึงมั่นใจได้ว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล ที่นำมาเข้า REIT จะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมากกว่าแบรนด์อื่นๆ

 “อย่าพึ่งพาแหล่งรายได้เพียงทางเดียว คุณต้องลงทุนเพื่อสร้างแหล่งรายได้ที่สอง” Warren Buffett

 เป็นคำกล่าวของนักลงทุนระดับโลกหรือจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนระดับตำนานก็ว่าได้ นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Warren Buffett ครับ

จากคำกล่าวด้านบนจะเห็นได้ว่าการสร้างแหล่งรายได้ที่สองนั้นมีความสำคัญมาก ทว่าเราจะหาแหล่งรายได้ที่สองที่มีความมั่นคงสม่ำเสมอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

หุ้นต่างๆ ในตลาดนั้นมีความผันผวนที่สูง อย่างเช่นหุ้นอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน นํ้ามัน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ เกษตร ซึ่งอาจจะสร้างผลกระทบต่อแหล่งรายได้ที่สองของเราในวันที่ตลาดยํ่าแย่ แต่กับ REIT อย่าง CPNREIT นั้นกลับกันครับ

ด้วยการที่โครงสร้างรายได้นั้นมาจากการปล่อยเช่าพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง แม้ในวันที่ตลาดหุ้นยํ่าแย่ ซึ่งหมายความว่าเราจะได้ผลตอบแทนทางรายได้อย่างเงินปันผลที่สม่ำเสมอต่อเนื่องเช่นกัน

ต่อไปเราจะพาไปดูกันครับว่าทำไม CPNREIT ถึงควรเป็นตัวเลือกแรกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการแหล่งรายได้ที่สองอย่างเงินปันผลที่สม่ำเสมอ

โครงสร้างค่าเช่า (Rental Structure) ที่มีความแข็งแกร่ง

ข้อมูลจาก CPNREIT Opportunity Day วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562

ด้วยสัดส่วนของรายได้ที่มาจากค่าเช่าแบบคงที่มากกว่าสัดส่วนของรายได้ที่มาจากค่าเช่าตามยอดขาย ดังนั้น CPNREIT จึงมีความแข็งแกร่งแม้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย หากเทียบกับ REIT ตัวอื่นๆ เพราะผู้ลงทุนสามารถมั่นใจได้แน่นอนว่ารายได้จะไม่ผันผวนไปมากนักจากรายได้ค่าเช่าที่สามารถเก็บได้อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอมั่นคง เมื่อเทียบกับ REIT ที่มีสัดส่วนรายได้ที่มาจากการเรียกเก็บค่าเช่าตามยอดขายเป็นหลัก

นอกจากนั้น ในส่วนของรายได้ที่มาจากการเก็บค่าเช่าตามยอดขายก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจดีได้อีกด้วย โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 40% ซึ่งถือว่าไม่มากและไม่น้อยเกินไป

อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ผลประกอบการของ REIT ที่ถือเป็นอีกสิ่งที่ชี้เป็นชี้ตายก็ว่าได้เพราะการที่ผลประกอบการที่ไม่เติบโตหรือติดลบต่อเนื่อง คงไม่ใช่สัญญาณที่ดีแน่ ต่อไปเราจะมาดูกันว่ากอง REIT ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทยจะยังเติบโตได้อีกไหม? และผลประกอบการล่าสุดเป็นยังไงบ้าง?

ผลประกอบการที่พัฒนาอย่างแข็งแกร่ง

ข้อมูลจาก CPNREIT Opportunity Day วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

               จะว่าเลือกหุ้นก็เหมือนเลือกคู่ชีวิตก็คงใช่ เราคงไม่อยากได้คนที่ใช้จ่ายเกินตัวจนติดลบ หรือขาดความก้าวหน้าทางรายได้ จนลามมาเดือดร้อนกันเป็นแน่ แต่ถ้าจะให้แนะนำ REIT ที่มีลักษณะเป็นคู่ชีวิตที่ดีดังว่าได้ก็คงเป็น CPNREIT ที่ไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่พึ่งพาได้ หรือการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่เกินตัวจนเกินไป โดยผลประกอบการ 9 เดือนแรก ในปี 2562 ของ CPNREIT นั้น ในส่วนของรายได้ มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการเช่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นถึง 5.5% ในขณะที่การควบคุมค่าใช้จ่ายก็ยังถือว่ามีประสิทธิภาพ โดยค่าใช้จ่ายจากทรัพย์สินลดลงถึง 8.6% ซึ่งมาจากการลดลงของค่าธรรมเนียมบริหารอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก

หลังจากที่เราได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ CPNREIT ทั้งในแง่ของความมั่นคงสม่ำเสมอ การเติบโตในด้านของรายได้ และแบรนด์ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่แข็งแกร่งกันแล้ว ต่อไปเราจะพามาดูหัวใจหลักของ REIT กันซึ่งก็คือ ทรัพย์สินที่อยู่ใน CPNREIT กัน

ทรัพย์สินหัวใจหลักของ CPNREIT ณ ปัจจุบัน

การขยายธุรกิจ พัฒนา เติบโต อย่างยั่งยืน!

ตอนนี้กองทรัสต์ CPNREIT อยู่ในช่วงเวลาแห่งการเติบโต และมีการลงทุนเพิ่มเติมในศูนย์การค้าที่อยู่ใน prime location

ซึ่งใครที่พลาดโอกาสก่อนหน้า นี่ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการเข้าซื้อจับจอง REIT อันดับ 1 ของไทยอย่าง CPNREIT

ลงทุนครั้งใหญ่ขนาดนี้ หลายคนอาจจะตั้งข้อสงสัยว่าการลงทุนครั้งนี้เสี่ยงไปหรือเปล่า? จำนวนหนี้สินหรือหน่วยทรัสต์ที่ออกเพิ่มเติมสมเหตุสมผลหรือไม่? เราจะพามาดูข้อมูลที่จะสร้างความมั่นใจ ในรายละเอียดลงลึกหลังจากนี้ไป

CPNREIT กองทรัสต์อสังหาฯที่มีระดับ Investment Grade หรือเกรดลงทุน

ข้อมูลจาก CPNREIT Opportunity Day Slides วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562

ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกลงทุนแบบไหน? ระหว่างการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงในเกณฑ์สูง (Junk Grade) กับการลงทุนในทรัพย์สินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในเกณฑ์ที่สูงถึงปานกลางหรือเกรดลงทุน (Investment Grade) ถ้าหากเปรียบเทียบง่ายๆ การลงทุนแบบ Junk Grade นั้นก็ไม่ต่างกับการที่คุณโยนเงินลงไปในวงไพ่และเจ้ามือเชิดหนีหายไป แต่กับ CPNREIT ไม่ใช่แบบนั้น การลงทุนกับ CPNREIT มีสถานะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!! ด้วยอัตราส่วนหนี้สินที่สามารถควบคุมได้และอยู่ในเกรดลงทุนระดับ AA ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย TRIS Rating เรียกได้ว่าหากคุณลงทุนใน CPNREIT คุณจะมั่นใจได้ว่าเงินทุนของคุณมีโอกาสเติบโตและได้รับเงินประโยชน์ตอบแทนที่สม่ำเสมอมั่นคง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการที่คุณซื้อสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ที่มีคุณภาพที่ดีกว่า ซึ่งมีความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าที่มากกว่า

นอกจากนั้น เครดิตการลงทุนที่ดียังหมายถึงว่า CPNREIT สามารถกู้ยืมได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ตํ่ากว่าอัตราปกติ เพราะมีความน่าเชื่อถือสูงว่าจะสามารถชำระคืนหนี้ได้ตามกำหนดเวลา

โดยสรุป CPNREIT ถือว่าเป็น REIT ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีความมั่นคงในระยะยาว ด้วยแผนการนำทรัพย์สินที่มีคุณภาพเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  รวมถึงการต่ออายุสัญญาทรัพย์สินที่ลงทุนในปัจจุบัน นอกจากนี้ ทุกศูนย์การค้าของ CPNREIT บริหารงานโดยกลุ่ม CPN ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในการพัฒนาและบริหารอสังหาฯ หลายประเภทเกือบ 40 ปี

แล้ว CPNREIT เหมาะกับนักลงทุนแบบไหน?

1) นักลงทุนที่ต้องการเงินปันผลที่มีเสถียรภาพ

ข้อมูลจาก CPNREIT ในส่วนของ Dividend Information

               ภาพด้านบนแสดงถึงเงินปันผลต่อหน่วยตั้งแต่ตอนยังเป็น CPNRF จนเปลี่ยนมาเป็น CPNREIT ในช่วงปี 2548-2562 จะสังเกตได้ว่า CPNREIT มีเงินปันผลที่เติบโตต่อเนื่อง!! โดยถ้าหากซื้อไว้ตั้งแต่ IPO ในปี 2548 ผู้ลงทุนจะได้รับการจ่ายปันผลโดยรวมไปถึง 15.52 บาทต่อหน่วยทรัสต์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักลงทุนที่ต้องการรายได้จากเงินปันผลถึงต้องลงทุนกับ CPNREIT

2) นักลงทุนที่มองหา REIT ที่มีโอกาสเติบโต มั่นคงและมีมูลค่าในเชิงแบรนด์

ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่จะนำทรัพย์สินเข้ามาบริหารเพิ่มเติมในอนาคต และเป็นทรัพย์สินที่มีคุณภาพดี มีผลการดำเนินงานที่สมํ่าเสมอต่อเนื่องและผ่านการคัดสรรอย่างดีและ จึงทำให้ CPNREIT มีโอกาสที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต

รวมถึงมูลค่าในแบรนด์อย่าง CPN ที่ถ้าหากพูดถึง ทุกคนจะต้องรู้จักและเชื่อมั่นกันเป็นแน่ สิ่งเหล่านี้เป็นการการันตีความสำเร็จและการเติบโตของ CPNREIT ในอนาคต

โดยสรุปแล้วสำหรับนักลงทุนที่ต้องการอัตราเงินปันผลที่สม่ำเสมอ และมีการโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว CPNREIT คู่ควรอย่างยิ่งที่จะไปติดอยู่บนกระดานพอร์ตโฟลิโอการลงทุนของคุณ

3) นักลงทุนที่มองหา REIT ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

ข้อมูลจาก Bloomberg

จากภาพข้างต้นแสดงให้เห็นว่า CPNREIT เป็นผู้นำตลาดอย่างแท้จริง การันตีด้วยการเป็นอันดับ 1 ในตลาด Property Fund และ REIT ในไทย  แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมั่นคงของ CPNREIT นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนกับ CPNREIT จะให้ผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

ด้วยความที่เป็นผู้นำตลาดและมีมูลค่าทรัพย์สินสูง นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าในวันที่เศรษฐกิจยํ่าแย่หรือตลาดหุ้นเปลี่ยนจากกระทิงเป็นหมี CPNREIT จะเป็นหนึ่งในกองทรัสต์ที่แข็งแกร่ง ยากที่จะโค่นล้มได้โดยพิษเศรษฐกิจ

ความเสี่ยงของการลงทุนในกองทรัสต์ CPNREIT

ถึงแม้ว่าอสังหาริมทรัพย์จะเป็นทรัพย์สินที่ผ่านร้อนผ่านหนาวตามภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดี แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย ณ ปัจจุบัน ก็สามารถสร้างผลกระทบต่อ CPNREIT ได้เนื่องจากในส่วนของรายได้บางส่วนยังมีการเก็บค่าเช่าตามเปอร์เซ็นต์ยอดขาย ซึ่งหมายความว่าหากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงจากหนี้ต่อครัวเรือนในระดับสูงและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับตํ่า ณ ปัจจุบัน ผู้คนอาจจะใช้จ่ายได้น้อยลงและส่งผลกระทบต่อผลกำไรของ CPNREIT

อย่างไรก็ตามทางทีมบริหารอสังหาริมทรัพย์อย่าง CPN ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารทรัพย์สิน ด้วยประสบการณ์เกือบ 40 ปี ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้า ซึ่งผ่านวิกฤติต่างๆ มามากมายทั้ง วิกฤติต้มยำกุ้ง หรือ วิกฤติทางการเมืองอันร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา เป็นต้น อันสะท้อนให้เห็นจากการที่ CPN มีการสร้างศูนย์การค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการปรับปรุงและพัฒนาศูนย์การค้าเดิมให้มีคุณภาพและเข้ากับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละยุคสมัย

สรุปมุมมองโดยรวม

• CPNREIT เป็นกองทรัสต์ที่มีความมั่นคง และมีการลงทุนในทรัพย์สินที่มีคุณภาพอย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัล ในทำเลที่หลากหลาย
• มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ภายใต้การบริหารงานของ CPN ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจเกือบ 40 ปี
• มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทั้งอัตราการเช่าพื้นที่ที่สูง โครงสร้างค่าเช่าที่สามารถให้ผลตอบแทนได้ทั้งในลักษณะ “เติบโต” (Growth play) และ ในเชิง “ความมั่นคง” (Defensive play) และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

CPNREIT จะเปิดจองซื้อให้แก่ผู้ถือหน่วยเดิมในวันที่ 13, 16-19 มีนาคม 2563 ซึ่งประกอบด้วย

(1) ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT ที่มีสิทธิ โดยกำหนดเป็นอัตรา 4.4319 หน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติม

(2) ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ที่มีสิทธิ โดยกำหนดเป็นอัตรา 3.0034 หน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติม

ในวันที่ 13, 16-19 มีนาคม 2563 (จนถึงเวลา 15.30 น.) ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร 02-777-6784
บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) โทร 02-658-5000 ต่อ 1711 และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร 02-111-1111

และเปิดจองซื้อให้แก่ประชาชนทั่วไปในวันที่ 20, 23-24 มีนาคม 2563 (จนถึงเวลา 15.30 น.) ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร 02-777-6784 บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) โทร 02-658-5000 ต่อ 1711 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร 02-111-1111 และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด โทร 02-949-1999

โดยมีราคาจองซื้อที่ราคาเสนอขายสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น คือ 32.00 – 33.00 บาทต่อหน่วย กรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น จะดำเนินการคืนเงินส่วนต่างค่าจองซื้อระหว่างราคาเสนอขายสุดท้ายกับราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นให้แก่ผู้จองซื้อ

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cpnreit.com โทร 02-667-5555 ต่อ 1660 หรืออีเมล์ ir_cpnreit@cpn.co.th

หมายเหตุ: คำเตือนการลงทุนและช่องทางที่ลูกค้าสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

• ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
• ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคตได้
• ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนของ CPNREIT ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th