เมื่อโลกของการลงทุนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การลงทุนในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตและมีอนาคตจึงเป็นเรื่องที่ต้องมาคู่กัน
ในวันนี้กองทุน ASP-POWERRMF ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนประหยัดภาษีแนว ESG ที่มีลูกเล่นและผลตอบแทนไม่ธรรมดา เนื้อหาจะเป็นอย่างไรติดตามไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ สนใจกองทุน ASP-POWERRMF ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/MaketTalkxASP หรือ Add LINE : @FINNOMENAPORT
Climate change เป็นปัญหาที่รุนแรงและอาจกลายเป็น Megatrend ในอนาคต
- ในอีก 70 ปีข้างหน้าหากเราไม่เร่งดูแลปัญหา Climate change ประชากรโลกกว่า 2 พันล้านคนอาจจะต้องขาดแคลนน้ำ
- ประชากรเกือบพันล้านคนอาจต้องย้ายที่อยู่ (พื้นที่ต่างๆ อาจจมน้ำ) จากปัญหา Climate change
- ใน 30 ปีข้างหน้าหากเราไม่ต้องการให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส เราต้องการเงินลงทุนอีก 5 ล้านล้านเหรียญต่อปี เพื่อดูแลเรื่องดังกล่าว
- ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่โด่งดังและเป็นรายใหญ่เรื่องน้ำมันซึ่งเป็นธุรกิจแบบเก่า ได้ประกาศตนเองว่าจะ Go Green ในอนาคต ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มด้านธุรกิจพลังงานในระยะยาว
ปัจจัยหนุนอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในธีม ESG
- เม็ดเงินลงทุน ETF ธีม ESG เติบโตจาก 3 หมื่นล้านเหรียญ ในช่วงปี 2016 เป็น 3 แสนล้านเหรียญ ในปี 2020 ซึ่งถือได้ว่าเติบโตแบบก้าวกระโดดเป็น 10 เท่า
- เม็ดเงินลงทุนทั่วโลกในธีม ESG ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 4-5 ล้านล้านเหรียญ และมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตไปอีก 14-15% ต่อปี ในอนาคต
- เม็ดเงินลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก 10 บาท จะเข้าลงทุนใน ESG 3 บาท หรือคิดเป็น 30% จากเงินลงทุนทั่วโลกทั้งหมด
- กองทุนแนว ESG อาจไม่ใช่กองทุนที่ต้องตั้งคำถามในเรื่องของผลตอบแทนอีกต่อไป เพราะกองทุนที่ทาง ASP ลงทุนอย่าง BNP Paribas Energy Transition Fund สามารถทำผลตอบแทนได้สูงถึง 188% ในปี 2020 ชี้ให้เห็นว่าเม็ดเงินลงทุนกำลังไหลเข้ามาการลงทุนในธุรกิจรูปแบบใหม่ ในขณะที่ธุรกิจพลังงานหรือรถยนต์แบบเดิมๆ กำลังล้มหายตายจากไป
ธีมการลงทุนหลักของกองทุน ASP-POWERRMF
- Resource: พลังงานต่าง ๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
- Storage: ตัวกักเก็บพลังงานหรือแบตเตอร์รี่ หลักๆ อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้า
- Futuristic Mobility: เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบไร้คนขับ (ในอนาคตอาจเห็นการปล่อยให้รถไฟฟ้าหาคนขับสร้างรายได้เสริม) รวมถึงธุรกิจใหม่ๆ เที่ยวกับการเดินทางในอนาคต
การเติบโตของพลังงานสะอาด (Resource)
- มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์จะเติบโตได้อีก 3 เท่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า และเติบโตได้อีก 2 เท่า ในช่วง 10 ปีถัดไป
- อุตสาหกรรมพลังงานลมจะเติบโตอีก 6 เท่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการเติบโตในระดับสูงเช่นเดียวกัน
- พลังงานดังกล่าวช่วยลดต้นทุนจากพลังงานดั้งเดิมได้ถึง 80%
การเติบโตของลิเธียมแบตเตอรี่ (Storage)
- ลิเธียมแบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาอุตสาหกรรมดังกล่าวมีการเติบโตล้อกันไปในระดับราว ๆ 30-40%
- ลิเธียมแบตเตอรี่อาจขาดตลาดในปี 2024 ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมดังกล่าว
การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า (Futuristic Mobility)
- ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตถึง 6 เท่า
สรุปโดยรวมแล้ว อุตสาหกรรมข้างต้นทั้งหมดถือว่าเติบโตได้สูงในอนาคต อีกทั้งการเติบโตยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดังนั้นการเริ่มลงทุนได้เร็วอาจช่วยให้คว้าโอกาสเติบโตระดับสูงในอนาคตได้
สัดส่วนการลงทุนหลักของกองทุน ASP-POWERRMF
- กองทุน ASP-POWERRMF หลัก ๆ จะลงทุนในกองทุนต่างประเทศประมาณ 3-4 กองทุนด้วยกัน เช่น
- BNP Paribas Energy Transition Fund: กองทุนที่ลงทุนในพลังงานสะอาด มีการจัดการแบบ Active และสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น
- Global X Lithium & Battery Tech ETF (LIT): กองทุน ETF ลิเธียมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- KraneShares Electric Vehicles & Future Mobility ETF (KARS): ลงทุนในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีบริษัทชั้นนำต่างๆ มากมาย เช่น BYD, GWM, NIO, XPENG เป็นต้น โดยจีนถือเป็นอีกหนึ่งประเทศผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามอง
- Global X China Clean Energy ETF (2809 HK)**: กองทุนที่ทำผลตอบแทนเป็นบวกได้ถึง 40% ท่ามกลางมรสุมหุ้นจีนด้านการกำกับดูแลที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยการเติบโตอาจมีสาเหตุมาจากการที่รัฐบาลจีนไม่เพ่งเล็งการควบคุมในอุตสาหกรรม พลังงานสะอาดซึ่งสังเกตได้จากท่าทีการประกาศเรื่องแนวทางการงดใช้คาร์บอนและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองขึ้นมาเป็นผู้นำยานยนต์ไฟฟ้า
- ปกติสัดส่วนการลงทุนในแต่ละธีมข้างต้นจะเท่าๆ กัน
- อย่างไรก็ตามหากผู้จัดการกองทุนเห็นโอกาสในธีมอื่นๆ มากขึ้น อาจมีการปรับสัดส่วนเข้าลงทุนคว้าโอกาสลงทุนเพิ่มเติม (จัดการแบบ Active เพื่อคว้าโอกาส)
ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน ASP-POWER
- เนื่องจาก ASP-POWERRMF เพิ่งเริ่ม IPO เดือนพฤศจิกายนนี้ จึงขอนำผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนที่มีกลยุทธ์เดียวกันอย่าง ASP-POWER
- ผลตอบแทนโดดเด่น นับตั้งแต่จัดตั้งทำผลตอบแทนได้ที่ +23.10% เทียบกับดัชนีหุ้นโลก MSCI World ที่ +12.43% ซึ่งถือได้ว่าทำผลงานได้ดีกว่าประมาณ 1 เท่าตัว
- ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาดได้ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจากสตอรี่การประชุม COP26 (การประชุมเรื่อง Climate change) ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้น รวมถึงแนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่องในระยะยาว
ความเสี่ยง
- กองทุนอาจมีความผันผวนในระดับหนึ่งแต่ก็แลกมากับโอกาสเติบโตระดับสูงในอนาคต หากลงทุนระยะยาวจึงมีความน่าสนใจ
- กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวมีมูลค่าอยู่ในระดับสูง จึงอาจทำให้จังหวะเข้าซื้อมีความสำคัญ แต่สำหรับใครที่ลงทุนในกองทุน RMF การลงทุนถัวไปเรื่อย ๆ ไม่เน้นจับจังหวะระยะยาวอาจมีความน่าสนใจหรืออาจจะเลือกซื้อในจังหวะที่กองทุนมีการปรับตัวลง
สรุปโดยรวมแล้วกองทุน ASP-POWERRMF ถือเป็นกองทุนแนว ESG ที่น่าจับตามอง จากโอกาสการเติบโตที่สูงในระยะยาว และแนวโน้มดังกล่าวเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวและสังเกตได้ง่ายว่ามีความสำคัญ โดยกองทุนมีการจัดการแบบ Active มุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดี เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างการเติบโตของเงินทุนอย่างโดดเด่น
สำหรับนักลงทุนที่สนใจกองทุน ASP-POWERRMF
กองทุน ASP-POWERRMF เป็นกองทุนประหยัดภาษีที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนในธีม ESG ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง Megatrend แห่งอนาคต ที่เริ่มใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ โดยกองทุน จะมีทั้งในรูปแบบสะสมมูลค่า ASP-POWER และแบบประหยัดภาษี ASP-POWERRMF ซึ่งจะมีการ IPO ในวันที่ 1-11 พฤศจิกายน 2021 หากต้องการซื้อสามารถติดต่อได้ที่ บลจ. Asset Plus โทร 02 672 1000 หรือ https://bit.ly/MaketTalkxASP หรือติดต่อเข้ามาที่ FINNOMENA โทร 02 026 5100 (ซื้อผ่านแอป FINNOMENA ได้แล้ว เข้าไปที่หน้าพอร์ตกองทุน กดทำคำสั่งซื้อ และค้นหากองทุน)
คำเตือน
- ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
- กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน
- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับทาง Asset Plus โทร 02 672 1000 หรือ www.assetfund.co.th หรือ https://bit.ly/MaketTalkxASP