Tesla (ไตรมาส 1/ 2021)
Tesla ของ อีลอน มัสก์ ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกเหนือความคาดหมายด้วยรายได้ที่เติบโตถึง 74% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้งยังสร้างกำไรต่อหุ้นสูงสุดนับตั้งแต่มีมาที่ $0.93/หุ้น เทียบกับการคาดการณ์ของเหล่านักวิเคราะห์ที่ $0.79/หุ้น
การปรับตัวของกำไรและรายได้ในครั้งนี้ เป็นการปรับตัวท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบตามฤดูกาล ความไม่เสถียรของ Supply chain ด้านการผลิต และการปรับเปลี่ยนรถโมเดล S และ โมเดล X
สาเหตุของการที่รายได้และกำไรเติบโตในครั้งนี้มีผลมาจากกำลังการผลิตและยอดการขนส่งรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาในหลายภาคส่วน
ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนในส่วนของรถยนต์ที่ทำได้ดีจนทำให้กำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น รถยนต์ Model 3 ที่มีต้นทุนเฉลี่ยต่อคันที่ราว ๆ 84,000 ดอลลาร์/คัน ได้ปรับลดต้นทุนลงมาเหลือเพียงราว ๆ 38,000 ดอลลาร์/คัน ในไตรมาสแรกของปี 2021 สะท้อนให้เห็นถึงการควบคุมต้นทุนที่น่าทึ่งจนทำให้บริษัทมีกำไรมากขึ้นจากการขายรถในส่วนนี้
รวมไปถึงยอดขายรถยนต์ Model 3 ที่ขึ้นแท่นกลายเปนรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก แซงหน้ารถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมอย่าง BMW Series 3 รวมถึง Mercedes Benz E-class เป็นที่เรียบร้อย
ภาพยอดขายรถยนต์ชั้นนำที่ Tesla ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1
นอกจากนั้นระบบรถยนต์ไร้คนขับก็ได้มีการพัฒนาขึ้นเช่นเดียวกันจากการพัฒนาการใช้กล้องในการตรวจจับแทนการใช้เรดาร์ซึ่งให้ความแม่นยำที่สูงกว่า
แบตเตอรี่ที่ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงยอดการจำหน่าย Powerwall อุปกรณ์กักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ฉุกเฉินที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความต้องการของลูกค้าและกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ภาพแสดงความอึดของแบตเตอรี่ Tesla ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
และท้ายที่สุดราชาแห่งการเชียร์บิทคอยน์ ก็ยังสามารถทำกำไรจากการขายบิทคอยน์ได้ถึง 101 ล้านเหรียญในไตรมาสนี้อีกด้วย
กองทุนที่ลงทุนใน Tesla
Apple (ไตรมาส 2/ 2021)
ทางด้าน Apple บริษัท เทคโนโลยีสุดครีเอทของ Tim Cook มาพร้อมกับผลประกอบการอันเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน
Tim Cook มาพร้อมกับยอดขายของทุกผลิตภัณฑ์และบริการที่เติบโตแบบสองหลักกันถ้วนหน้า
นำทีมมาโดยยอดขายไอแพดและคอมพิวเตอร์แมคที่เติบโตสูงถึง 78.90% และ 70.10% ตามลำดับ ตามมาด้วยไอโฟนที่เติบโตถึง 65.50% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ ที่เติบโตแบบสองหลักเช่นเดียวกัน
ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตถึง 53.70% และทำให้กำไรต่อหุ้นออกมาที่ 1.40 ดอลลาร์/หุ้น เทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.99 ดอลลาร์/หุ้น
สาเหตุจากการที่ยอดขายปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่นนี้อาจมีผลมาจากแนวโน้มเมกะเทรนด์ในช่วงโรคระบาดที่ทุกคุนต่างใช้ชีวิตและทำงานกันที่บ้าน ทำให้ผู้คนหันมาซื้ออุปกรณ์ต่าง เช่น คอมพิวเตอร์ มากขึ้น เพื่อการทำงานและความบันเทิง
รวมไปถึงการที่ Mac บุ๊คและไอแพด หันมาใช้ชิป M1 ของตนเองแทนการใช้ชิปของ Intel จนทำให้แบตเตอรี่มีอายุยืนยาวมากกว่าปกติจนทำให้ยอดขายปรับตัวขึ้น จากคำกล่าวของ Tim Cook
กองทุนที่ลงทุนใน Apple
Microsoft (ไตรมาส 3/ 2021)
รายได้รายไตรมาส Microsoft เติบโตสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 โดยเติบโตถึง 19% และมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาสล่าสุดที่ 1.95 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.78 ดอลลาร์/หุ้น
สาเหตุของการปรับตัวขึ้นของรายได้มีผลมาจากยอดขาย PC ที่เพิ่มขึ้น จากการขาดแคลนของในช่วงวิกฤติโควิด-19
นอกจากนั้นระบบ Cloud ของ Microsoft ยังเติบโตได้อย่างโดดเด่นเหนือความคาดหมาย Azure นั้นมีรายได้เติบโตถึง 50% สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 46% ซึ่งถือได้ว่าเติบโตได้อย่างรวดเร็วต่อเนื่อง เพราะ ในไตรมาสก่อนหน้าก็มีการเติบโต 50% เช่นเดียวกัน พร้อมแข่งขันกับระบบของ Amazon อย่าง AWS ที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
สาเหตุของการเติบโตในครั้งนี้ยังมีผลมาจากรายได้ในส่วนอื่น ๆ ที่มีการเติบโตเช่น Cloud (Azure, Windows Server, SQL, และอื่น ๆ) ที่เติบโต 23% (YoY), ส่วนสนับสนุนภาคธุรกิจ (Office, Linkedin และอื่น ๆ) ที่เติบโต 15%, PC (Windows, Gaming และอุปกรณ์ต่าง ๆ) ที่เติบโตถึง 19%
กองทุนที่ลงทุนใน Microsoft
Facebook (ไตรมาส 1/ 2021)
Facebook ของ Mark Zuckerberg มีการเติบโตทั้งรายได้และกำไรเช่นเดียวกัน โดยรายได้เติบโตที่ 48% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิเติบโตถึง 94% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเช่นเดียวกัน
การเติบโตของรายได้ในครั้งนี้เกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 30% ในส่วนของราคาโฆษณาเฉลี่ยที่ปรับตัวขึ้น และปริมาณการปล่อยโฆษณาที่เพิ่มขึ้นอีก 12%
แต่ถึงแม้รายได้ในไตรมาสนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทางเฟสบุ๊คเองก็ไม่ได้มั่นใจว่าไตรมาสถัดไปจะเติบโตในอัตราเท่าเดิม โดยเปิดเผยว่าในไตรมาส 2 นี้การเติบโตของรายได้อาจเป็นไปอย่างคงที่หรือเติบโตในอัตราปกติไม่สูงมาก
อีกทั้งยังเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้การเติบโตของรายได้อาจช้าลงไปอีก หากเทียบกับช่วงที่เกิดโรคระบาดซึ่งเป็นปัจจัยเร่งรายได้สำคัญของการปรับตัวมาใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ของผู้คน
กำไรต่อหุ้นของ Facebook อยู่ที่ 3.30 ดอลลาร์/หุ้น เทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.37 ดอลลาร์/หุ้น
กองทุนที่ลงทุนใน Facebook
Alphabet (ไตรมาส 1/ 2021)
Alphabet กำไรทะลุโลก รายได้โฆษณาพารวย ทะลุเป้าต่ำสุดและสูงสุด ประกาศกำไรต่อหุ้นที่ 26.29 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 15.82 ดอลลาร์/หุ้น พร้อมรายได้ที่เติบโตทะลุเป้าที่ 5.531 หมื่นล้านเหรียญ เทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 5.170 หมื่นล้านเหรียญ
สาเหตุของการปรับตัวขึ้นของกำไรในครั้งนี้มาจากรายได้ในส่วนโฆษณาที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยรายได้โฆษณาของ Google เติบโตถึง 34% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 4 ปี
รายได้โฆษณาจาก Youtube เติบโต 49% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยหนุนมาจากยอดการรับชมวิดิโอในสหรัฐผ่านกลุ่มผู้ใหญ่ที่ปรับตัวจากสัดส่วน 73% ในปี 2019 เป็น 81% ในปี 2021
Google Cloud มีรายได้เติบโต 46% ตรงตามการคาดการณ์ อีกทั้งยังมีแรงสนับสนุนจากการซื้อหุ้นขึ้นของบริษัทถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ช่วยลดปริมาณหุ้นและช่วยผลักดันราคาอีกด้วย
กองทุนที่ลงทุนใน Alphabet
References
https://www.apple.com/newsroom/2021/04/apple-reports-second-quarter-results/
https://www.cnbc.com/2021/04/26/tesla-tsla-earnings-q1-2021-.html
https://www.cnbc.com/2021/04/27/alphabet-goog-earnings-q1-2021.html
https://www.cnbc.com/2021/04/27/microsoft-msft-earnings-q3-2021.html
https://www.cnbc.com/2021/04/28/apple-aapl-earnings-q2-2021.html
https://www.cnbc.com/2021/04/28/facebook-fb-earnings-q1-2021.html