ทุกคนเดินเข้ามาในตลาดหุ้น จุดประสงค์แรกก็เพื่อหวังจะเก็บกำไรออกไป เพราะฉะนั้น แน่นอนว่า ถ้าเลือกได้ ทุกคนย่อมอยากได้ผลตอบแทน (จะเอาไปทำไมประสบการณ์)

สังเกตุได้เลยว่า หนังสือ Best Seller เกี่ยวกับหุ้น จูงใจคุณด้วยคำว่า “ไม่ยาก” หรือ “ง่ายๆ” ต่อท้ายหนังสือ (รวมถึงหนังสือผมด้วย – -“) นั้นก็แปลว่า ทุกคน อยากมีเงินเร็ว อยากมีเงินง่ายๆ หรือ อยากสบายนั้นเอง

ถ้าอยากสร้างนิทานให้ลูกหลานได้เล่าขาน อยากสร้างตำนานในวงการตลาดหุ้นเมืองไทย อยากให้ตัวเองได้นึกภูมิใจอะไรก่อนตาย ผมแนะนำว่า เราควรเลิกหวังล้มๆแล้งได้แล้วว่า เดินเข้ามาในตลาดกระเป๋าแบนๆ จะเดินจากออกไปแบบกระเป๋าตุงๆสบาย และถึงเป็นไปได้ คนอื่นอาจจะอิจฉาคุณ แต่เขาไม่ได้เลื่อมใส หรือยกย่องอะไรคุณแน่นอน

ผลตอบแทนที่ได้มาจากประสบการณ์ อาจไม่ทำให้คุณเขียนหนังสือชีวประวัติตัวเองขายติดท็อป 10 ตามแผง แต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณภูมิใจทุกครั้งที่นึกถึง

ผมว่า หลายๆคน ไขว้คว้าความสำเร็จให้เกิดขึ้นในระยะสั้น ทั้งๆที่ความจริง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนได้ ถ้าไม่ปลูกฝังกันในระยะยาว

จริงอยู่ที่การตัดสินใจซื้อหรือขาย ในวินาทีสุดท้าย เป็นตัวตัดสินว่า การตัดสินใจครั้งนั้น ถูกหรือผิด แต่นั้นไม่ใช่ทั้งหมดที่อธิบายคำสั้นๆที่เรียกว่า “การลงทุน”
แต่เป็นปกติครับ ที่คนเราชอบมองอะไรง่ายๆ แปลอะไรง่ายๆ ดังนั้น คำถามที่นักลงทุนเกินครึ่งในตลาดพยายามหาคำตอบก็คือ ซื้อหุ้นตัวไหนดี + เป้าเท่าไหร่

แล้วมันผิดไหม?
ก็ไม่ผิด มันเป็นสิทธิของพวกคุณ แต่ เบื้องหลังการที่จะมีคนมาบอกเราว่า จะเลือกหุ้นตัวไหน หรือที่เขาลงทุนเองแล้วไม่บอกเรา นั้น เป็นสิ่งที่เรารู้ไม่ได้เลยถ้าไม่ได้พยายามหาต่อ
สิ่งที่เราต้องถามต่อก็คือ เพราะอะไร? … แต่คนส่วนใหญ่ พอได้ชื่อหุ้นไป ก็ไม่ยอมถามต่อละ เปิดโทรศัพท์ขึ้นมา Log in ใน Streaming Pro แล้วก็เคาะขวาทันที
แค่คุณเพิ่มคำถามนั้นเข้าไป และพยายามทำความเข้าใจกับคำตอบที่จะได้รับกลับมา แค่นั้น คุณก็จะมีประสบการณ์แล้วว่า หลักการเลือกหุ้นมันคืออะไร มันใช่ไหม เหมาะกับเราหรือเปล่า

การลงทุนในหุ้น คือ การศึกษาถึงข้อดีข้อเสีย โอกาส และค่าเสียโอกาส จากการเอาเงินลงทุนของตัวเอง ไปฝากไว้กับผู้บริหารของบริษัท ดังนั้น ทำมันเสียให้ครบครับ อย่าเอาแต่ถามชื่อหุ้น เชื่อผม
การตัดสินใจที่ถูก บนพื้นฐานความคิดที่ผิด นั้นคือ ความเสี่ยง ที่ทำให้เราก้าวไปสู่ความประมาท และโอกาสพลาดที่เจ็บหนักกว่า
การตัดสินใจที่ผิด บนพื้นฐานความคิดที่ถูก นั้นคือ ประสบการณ์ ที่ทำให้เรารู้ว่า ชีวิตควรเดินอยู่บนเส้นทางที่ไม่ประมาท ไม่ควรฝากชีวิตไว้กับใคร

ก่อนจบ ขออย่างหนึ่งครับ … ไม่ว่าในอนาคตข้างหน้า คุณจะออกจากตลาดหุ้นเพราะกำไรมาพอแล้ว หรือขาดทุนจนเข็ด ขอให้คุณได้สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ผลตอบแทนออกไปด้วยเช่นกัน

สิ่งนั้นคือ “ประสบการณ์”