ถ้ามีใครมาพูดกับคุณเมื่อต้นปีว่า SET Index จะวิ่งขึ้นไปที่ระดับ 1,600 จุด ปลายปี เราก็คงคิดในใจว่า จะเป็นไปได้หรือ?
มาวันนี้ วันที่เงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยรวมๆแล้วไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท ก็เริ่มมีนักลงทุนคิดกันแล้วว่า 1,600 จุด มันน้อยไปหรือเปล่าน้อ? บทความวันนี้ ผมจะลองพามาวิเคราะห์ในอีกมุมหนึ่งของการวิเคราะห์ดัชนีนั่นก็คือ “Technical Analysis”
ออกตัวก่อนนะครับ ผมเป็นนักลงทุนสาย Hybrid คือ ชอบมองการวิเคราะห์ในหลายๆศาสตร์ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่มีประสบการณ์และอ่านทิศทางเพื่อการวิเคราะห์การลงทุนได้ด้วยตัวเอง หลักการในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ผมใช้มาตลอดก็คือ แนวโน้มตลาดมี 3 แนวโน้ม ก็คือ ขาขึ้น (Uptrend) ขาลง (Downtrend) แกว่งตัวออกข้าง (Sideway) ซึ่งสามารถลากเส้นหาแนวโน้มได้ด้วยการใช้ Trend Line
ผมลองตัดกราฟตลาดหุ้นไทยเฉพาะภายในปีนี้ให้ดู เป็นคุณ จะลากเส้น Trend Line อย่างที่ผมลากหรือไม่?
คราวนี้ ผมลองขยายระยะเวลาให้ยาวขึ้น แนวโน้มของตลาดหุ้นไทย ยังเป็นแบบรูปที่หนึ่งอยู่หรือเปล่า โดยใช้กราฟตลาดหุ้นไทยเหมือนเดิม แต่เป็นกราฟรายสัปดาห์ย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ปี 2011
นั่นละครับ แค่ผ่านไปสองกราฟ ก็สามารถบอกเราได้แล้วว่า ระยะสั้น และ ระยะยาว แนวโน้มตลาดหุ้นไทย อยู่ในทิศทางใด หากแนวโน้มระยะสั้นสวนทางกับแนวโน้มระยะยาว ผมจะตีความว่า แนวโน้มนั่นยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลง ถ้าเรียกเป็นภาษาวัยรุ่นก็คือ “ไม่ Strong”
มาวันนี้ เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากกว่า 100,000 ล้านบาท และเพิ่งเข้ามาอย่างมีนัยยะสำคัญก็ในช่วงปลายๆไตรมาส 2 เดือน พ.ค. – ก.ค. ที่ผ่านมา
ในขณะที่ ปี 2013 ที่ผ่านมา ณ ตอนนั้น อดีตประธานเฟด เบน เบอนันเก้ ประกาศหยุดอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ (QE Tapering) เม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติก็ไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ทั้งขโยง เพราะกลัวว่า ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่า ที่หนีออกมาเที่ยวในต่างประเทศก่อนหน้า ก็อยากจะกลับไปอยู่ที่เดิม ภาพที่เราเห็นก็คือ ตลาดหุ้นไทยปรับฐานรุนแรง และพอเหตุการณ์เหมือนจะสงบ เฟดเหมือนจะไม่ได้รีบขึ้นดอกเบี้ยอย่างที่นักลงทุนกลัว ตลาดหุ้นก็ขึ้นมาอีกรอบ
แล้วปี 2015 เราก็มาเจอพิษวิกฤตตลาดจีน ที่ทำให้ตลาดหุ้นโลกโดนทิ้งดิ่ง และมีเงินลงทุนแห่ขายออกไปอีกรอบ การแกว่งตัวในรอบ 1,200 – 1,600 ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิมาตลอด เมื่อมาประกอบกับการที่นักลงทุนต่างชาติมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ที่ทุนเฉลี่ยไม่ได้ต่ำกว่าวันที่เขาขายลดพอร์ตออกไป แน่นอนว่า มันไม่ใช่เหตุผลเรื่องของการซื้อถูกขายแพงแน่นอน
เมื่อมองประกอบระหว่าง Fund Flow และ Technical Analysis ก็จะเห็นชัดขึ้นว่า เงินไหลเข้า และแนวโน้มตลาดระยะสั้น หุ้นไทยเป็นขาขึ้น ส่วนในระยะยาว ถึงแม้จะดูไม่ใช่ขาขึ้นระยะยาว แต่การที่มีเงินไหลเข้ามาในระยะสั้นแบบนี้ มันก็ทำให้เชื่อได้ว่า เงินทุนจะไหลเข้าได้อีก โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,600 จุด ซึ่งเป็นจุดที่นักลงทุนต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นนะครับ
เอาเป็นว่า ด้วยการวิเคราะห์ภาพใหญ่ๆตรงนี้ ผมคิดว่า 1,600 จุด เป็นไปได้ ส่วนจะไกลกว่านั้น คงต้องรอดูข้อมูลเพิ่มเติม และการเคลื่อนไหวของตลาดรวมถึงมุมมองต่อนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะมีผลที่สุดในอนาคตครับ
ที่มาบทความ : http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/638638