ถ้าในโลกการลงทุน มันมีสูตรตายตัวให้เรารู้แน่ๆ ว่า ทำตามตำราทุกอย่างแล้วรวย ป่านนี้คนที่อยู่ในตลาดหุ้นทุกคนคงจะรวยกันถ้วนหน้าไปแล้ว
แต่ผ่านมาหลายสิบปี เราเห็นทั้งนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ และล้มเหลว มาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้ ก็ท่าทางจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีใครห้ามไม่ให้เกิดได้
หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่นักลงทุนหน้าใหม่ (รวมถึงหน้าเก่าหลายๆคน) มักจะถามกับตัวเอง ถามในกระทู้ หรือ แม้แต่ถามกับผมเป็นการส่วนตัว ก็คือ เวลานี้ ใช่จังหวะที่ควรลงทุนหรือเปล่า?
ถ้าจะให้ตอบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถาม ก็คงต้องทำความรู้จักกันให้มากกว่าแค่เจอหน้ากันภายใน 5 นาที
ผมลองตั้งคำถามแบบนี้แทนครับ
ถ้าจะไปพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ต้องไปเวลาไหนถึงจะดีที่สุด?
หลายคน พอได้ยินคำถามนี้ปั๊บ อาจจะตอบผมกลับมาทันทีเลยว่า ไปทำให้ร่างกายตัวเองแข็งแรง และมีความพร้อมก่อนไหม ได้ศึกษาหรือยังว่าเราต้องเตรียมสัมภาระอะไรขึ้นเขาบ้าง การเดินทางจะไปยังไง มีเพื่อนร่วมทางที่มีประสบการณ์ร่วมเดินทางกับคุณด้วยหรือเปล่า
ใช่ครับ เพราะการขึ้นไปพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ มันอาจหมายถึงความฝันสูงสุดอย่างหนึ่งของชีวิตใครหลายคน และอาจต้องแลกด้วยชีวิต หากคุณไม่เตรียมความพร้อมให้ดี
ประเด็นที่ผมจะบอกก็คือ เรื่องของการลงทุน ถ้าไม่วางแผนดีๆ ก็อาจต้องแลกด้วยชีวิตในบั้นปลายที่คุณไม่อยากไปถึงจุดนั้น และการเตรียมตัวในเรื่องของการลงทุนนั้น มันมีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวมากกว่าแค่การหาคำตอบจากคำถามที่ว่า “เวลานี้ ใช่จังหวะที่ควรลงทุนหรือเปล่า?”
คุณต้องสำรวจเข้าไปในใจตัวเอง ถามถึงเป้าหมายในชีวิตตัวเอง ความพร้อมทางการเงิน การเตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน การทำประกัน หน้าที่การงานในอนาคต ภาระหน้าที่ที่ต้องมี และ องค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการเอาตัวรอดในโลกการลงทุน
คุณอาจจะแค่มีเงินเหลือเลยอยากลงทุน ก็เป็นไปได้ และการลงทุนนั้น อาจจะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ง่ายๆ ก็เกิดขึ้นได้ ใครจะไปรู้
แต่วิธีการ และหลักการลงทุนที่ถูกต้อง จะทำให้คุณอยู่กับความสำเร็จนั้นได้ยาวนานขึ้น และไม่หลงใช้กลยุทธ์ที่ผิดๆ ไปลงทุนในจังหวะชีวิตที่เสี่ยงได้น้อยลงแล้ว (แก่ตัวมากขึ้น) ไม่เหลือเวลาให้พลาดได้มากเหมือนตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว
ดังนั้น การตั้งคำถามที่ถูกต้อง จะนำเราไปสู่กระบวนการคิดที่สำคัญและได้คำตอบที่ใช่นะครับ ยิ่งในโลกอินเตอร์เน็ตสมัยนี้ จะถามอะไรกูเกิ้ล ก็ถามได้หมดทุกอย่าง มีคำตอบของทุกอย่าง พอโลกมันเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ ก็เท่ากับว่า คนที่รู้ทุกอย่างรอบตัว ไม่ได้เปรียบคนอื่นมากแล้วครับ เพราะเดี๋ยวซํกพัก คนอื่นก็หาได้เท่าเรา และอาจจะมากกว่าเรา แต่คนที่รู้ความต้องการของตัวเอง รู้เป้าหมายของตัวเองชัดเจนต่างหาก ที่จะถามคำถามที่สำคัญกับการเดินทางของชีวิต และเอาตัวเองไปอยู่ในเส้นทางที่พาตัวเองไปยังจุดที่ดีขึ้น
คำถามที่สำคัญสำหรับการเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวยามแก่ในแง่ของโลกการลงทุนก็คือ เราจะประสบความสำเร็จในการลงทุนในระยะยาวได้อย่างยั่งยืนได้อย่างไร?
ไม่ใช่คำถามประเภท หุ้นตัวไหนดี วันนี้ตลาดจะขึ้นหรือลง ตอนนี้ใช่จังหวะช้อนซื้อที่ราคาต่ำที่สุดไหม เมื่อไหร่จะขายออกไปดี
คำถามเหล่านี้ อาจทำให้นักลงทุนชนะในการรบระยะสั้น แต่ในสงครามระยะยาว ถ้าไม่พัฒนาศักยภาพตัวเองขึ้น ก็ต้องไล่ถามคนอื่นต่อไปแบบเรื่อยๆ กลายเป็น เอาผลลัพทธ์ในการลงทุน ไปผูกไว้กับคำของใครต่อไปที่เราไปฝากความไว้ใจกับเขา ดังนั้นโอกาสแพ้ก็สูงขึ้น
คำตอบก็คือ คุณต้องเตรียมใจว่า เกมส์นี้คือเกมส์ยาว ไม่ได้เล่นกับจบภายใน 5 นาที แต่คืออีก 10-20 ปี หรือบางที มากกว่า 30 ปีข้างหน้า และเมื่อเกมส์การลงทุนมันเป็นเกมส์ยืดเยื้อขนาดนั้น เราจะมามัวสนใจภาพระยะสั้น ทำให้จิตใจตัวเองแกว่งไปแกว่งมาทุกวัน แล้วเสียงานเสียการไปเพื่ออะไร? นอกจากว่า คุณต้องการกระโดดมาลงสนามอย่างจริงจัง หรืออยากมีที่นั่งในสายอาชีพการลงทุนแบบมืออาชีพจริงๆ
ก็สู้เอาเวลาไปใช้ชีวิตให้มีความสุข ทำงานที่เราทำอยู่ ที่เรารักให้เกิดประโยชน์ ทำให้ทุกๆ วันเราได้ทักษะที่มีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ดีกว่าหรือ?
แล้วระหว่างนั้น เจียดเงินลงทุนมาให้มันทำงานให้ในระยะยาว วางเป้าหมายการลงทุนให้ชัด แล้วตอนที่มีเงินก้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ค่อยไปหา Technical Skill ในการจัดพอร์ตวางแผนการลงทุนที่เข้มข้นตามสเต็ปๆไ ป
ถ้าหวังจะแค่ไปเที่ยวเล่นน้ำทะเลสบายๆ แถวพัทยา เราก็คงไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย แค่จัดกระเป๋า เอากางเกงในไปครบทุกวันก็เพียงพอ
แต่ถ้าหวังจะไปพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทุกด้านก่อนการเดินทางไกลจริงๆ นะครับ
การลงทุนมันพาเราไปในจุดที่ดีกว่าวันนี้ได้
…แต่ฝันคุณใหญ่ขนาดไหน? ต้องถามตัวเองดู
โชคดีในการลงทุนครับ
ที่มาบทความ : http://www.iammrmessenger.com/this-is-a-good-timing-to-invest/