ตั้งแต่ต้นปี 2023 เกมและอีสปอร์ต (Games & E-sport) เป็นธีมการลงทุน Thematic ที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรง และมีโอกาสวิ่งกลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่
ทั้งนี้ VanEck Video Gaming and eSports ETF (ESPO ETF) ซึ่งเป็น ETF ที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวงการเกมและอีสปอร์ตให้ผลตอบแทนสูงถึง 35% นับตั้งแต่ต้นปี
ก่อนหน้านี้ หุ้นเกมและอีสปอร์ตทั่วโลกเคยวิ่งเป็นขาขึ้นรอบใหญ่มาแล้ว เมื่อปี 2020 ในช่วงการระบาดของ covid-19 ที่ผู้คนไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้ เกมจึงกลายเป็นความบันเทิงยอดนิยมในตอนนั้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่น
อย่างไรก็ดี ช่วงนี้เป็นจังหวะที่หุ้นเกมและอีสปอร์ตเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแบบ Trend Following ที่เน้นจับสัญญาณและแนวโน้มตลาดขาขึ้นด้วยการวิเคราะห์แบบ Technical Analysis ไปพร้อมกับค้นหาธีมการลงทุนที่ถูกต้อง
สัญญาณทาง Technical ของหุ้น E-Sport
ในแง่ของปัจจัยทางเทคนิค เราได้เห็นการกลับตัวขึ้นของกราฟราคา ESPO ETF สะท้อนว่าโมเมนตัมระยะสั้นฟื้นตัว และเกิดสัญญาณซื้อเก็งกำไร ดังนี้
กราฟรายสัปดาห์ (Time Frame Week)
Source: FINNOMENA FUNDS, Tradingview as of 15/09/2023
- กราฟราคา ESPO ETF ทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (MA200D) ได้สำเร็จ
- RSI ขยับขึ้นมาเกิน 50 บ่งบอกสัญญาณแนวโน้มขาขึ้น
- แม้ MACD จะวกกลับลงมาต่ำกว่า Signal line แต่จะเห็นว่าแท่ง Histogram เริ่มติดลบน้อยลง
- แปลได้ว่าการเคลื่อนไหวของ ESPO ETF อยู่ในโซนของการฟื้นตัว
กราฟรายวัน (Time Frame Day)
Source: FINNOMENA FUNDS, Tradingview as of 15/09/2023
- กราฟราคา ESPO ETF ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย MA20D และ MA100D ได้พร้อมกันอีกครั้ง สะท้อนโมเมนตัมระยะสั้นที่ฟื้นตัว
- สอดคล้องกับ MACD ที่ตัดเหนือ Signal line ได้ในช่วงเวลาเดียวกัน ชี้ถึงโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น
- ครั้งล่าสุดที่เกิดสัญญาณนี้คือช่วงเดือนตุลาคม 2022 ซึ่งเป็นเทรนด์ขาขึ้นระยะยาวของ ESPO ETF
จะเห็นว่าปัจจัยทางเทคนิคแสดงสัญญาณซื้อ และเหมาะกับการเข้าลงทุนเพื่อเก็งกำไรไปกับเทรนด์ขาขึ้นของหุ้น E-Sport แต่ว่าการลงทุนจริงเราต้องวิเคราะห์ควบคู่ไปกับปัจจัยพื้นฐานด้วย เพื่อย้ำคำตอบว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตจริง ๆ
LHESPORT-A กองทุนเกมและอีสปอร์ตเต็มรูปแบบ
Source: FINNOMENA FUNDS as of 15/09/2023
สำหรับกองทุนแนะนำในธีมนี้ก็คือ LHESPORT-A เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก ESPO ETF เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ซึ่งมีความน่าสนใจ ดังนี้
1. ลงทุนในหุ้นของบริษัทเกมและอีสปอร์ตทั่วโลก
LHESPORT-A มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทในวงการเกมและอีสปอร์ตแบบครบทั้ง Ecosystem ตั้งแต่ผู้พัฒนาเกม, ผู้ผลิตเครื่องเกม อุปกรณ์ และชิปประมวลผลต่าง ๆ, ผู้จัดจำหน่ายเกม, ผู้จัดการแข่งขัน ไปจนถึงผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม โดยมีหลักเกณฑ์ว่าต้องเป็นบริษัทที่มีรายได้มากกว่า 50% มาจากเกมหรืออีสปอร์ต และหุ้นต้องมีมูลค่าตลาดเกิน 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
ภาพแสดงอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ต Source: Newzoo Esport Report as of 29/06/2019
หน้าตาของหุ้นที่มีสัดส่วนสูงในพอร์ตจึงประกอบไปด้วย “Nvidia” ผู้ผลิตชิป GPU ชั้นนำของโลก “Tencent” ผู้พัฒนาเกมยักษ์ใหญ่จากจีน อาทิ League of Legends, Arena of Valor, Fornite และเป็นบริษัทที่จัดรายการแข่งขันอีสปอร์ตระดับโลก “Activision Blizzard” ผู้ผลิตซีรีส์เกมชื่อดัง Call of Duty, Guitar Hero, Warcraft, Overwatch “Nintendo” ผู้ผลิตเครื่องเล่นเกมคอนโซลรายใหญ่ของญี่ปุ่น เป็นต้น
*กองทุนมิได้ลงทุนในบริษัทข้างต้นนี้เสมอไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทใดจะเข้าหลักเกณฑ์ตรงกับนโยบายของกองทุน
Source: Fund Fact Sheet VanEck Video Gaming and eSports ETF as of 31/07/2023
อีกหนึ่งความน่าสนใจของ LHESPORT-A คือเป็นเพียงไม่กี่กองทุนรวมในไทย ซึ่งมีการลงทุนในหุ้น Nvidia เป็นสัดส่วนที่เยอะถึงเกือบ 10%
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นและลงของราคาหุ้นในกลุ่มเกมและอีสปอร์ต นั้นมีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน ทำให้เมื่อแรงกดดันด้านการดำเนินนโยบายทางการเงินผ่อนคลายลง จึงเป็นโอกาสของการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง
2. เกมและอีสปอร์ตจัดว่าเป็น Thematic แห่งอนาคต
ภาพรวมอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ถึง 13.4% (CAGR ตั้งแต่ 2023 – 2030) ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมากเมื่อเทียบกับการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก
Source: Grandview Research as of 01/06/2023
เห็นได้ว่ามีหลายปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมนี้ ทั้งการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะเดียวกันก็ยังมีแรงส่งเสริมจากภาครัฐ จากการที่อีสปอร์ตถูกยอมรับให้เป็นกีฬาที่มีการแข่งขันระดับโลก
จับจังหวะเข้าลงทุนอย่างไรดี?
สำหรับคำแนะนำการลงทุน LHESPORT-A แนะนำให้เข้าลงทุนตามกลยุทธ์ Tactical Call เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคาในระยะสั้น โดยเน้นการใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด ดังนี้
1. แนะนำเข้าลงทุนที่ ESPO ETF ไม่เกินระดับ 57.0 ดอลลาร์
หากเกินระดับราคานี้ เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ เนื่องจากทำให้ Risk/Reward เข้าใกล้ระดับ 1:1
2. แนะนำ Take Profit หรือขายทำกำไร 2 ระดับ
ระดับแรก Upside +8.4%* ขายทำกำไรบางส่วนเมื่อ ESPO ETF ปรับตัวขึ้นเหนือ 59.20 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของรอบขาขึ้นล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม
ระดับที่สอง Upside +13.80%* ขายทำกำไรทั้งหมดเมื่อ ESPO ETF ปรับตัวขึ้นเหนือ 62.10 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับ Fibonacci Retracement 61.8 ของรอบขาลงตั้งแต่ปี 2021
3. แนะนำ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที
เมื่อ ESPO ETF ปิดตลาดต่ำกว่า 51.80 ดอลลาร์ (Downside -5.07%*) ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของรอบการปรับฐานปัจจุบันในช่วงเดือนสิงหาคม 2023 สะท้อนถึงการไม่สามารถเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้นได้
*เทียบจากราคาปิดตลาดวันที่ 01/09/2023
ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
ทั้งนี้ การลงทุนภายใต้คำแนะนำ Tactical Call อาจจะไม่ได้เหมาะกับนักลงทุนทุกคน แต่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน สามารถรับความผันผวนได้สูง และสามารถยอมรับการตัดขาดทุนได้ทันที
จุดเด่นของกลยุทธ์ Trend Following คือเราจะเข้าลงทุนก็ต่อเมื่อเห็นสัญญาณและแนวโน้มว่ามีโอกาสเป็นขาขึ้นเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องลงทุนถือในระยะยาวเกินไป เมื่อสินทรัพย์มีแนวโน้มเป็นขาลง เราก็ลด position หรือขายออก แล้วไปหาโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นแทน
Bank – The Trend Following Investor
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงบางส่วน | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ FINNOMENA FUNDS บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299