ตั้งแต่ย่างเข้าสู่ครึ่งปีหลังมาเกือบๆ 2 สัปดาห์ มุมมองการจัดพอร์ตการลงทุนในตลาดโลกก็แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากต้นปีซักเท่าไหร่ จะมีก็แต่ ความคาดหวังนโยบายการคลังจากฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯโดยนายทรัมป์ ที่ตอนนี้เหมือนตลาดจะเลิกหวังไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นั้นคือสาเหตุที่ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ (USD) อ่อนค่ามาต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี
ถามว่า Fund Flow ไปไหน? ก็ต้องอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า มาที่ตลาดเกิดใหม่ โดยจากข้อมูล พบว่า ตลาดหุ้นเกิดใหม่ หรือ MSCI Emerging Markets Index บวกไปได้ +17% และหากคิดเป็นรูปสกุล USD ผลตอบแทนจะพุ่งขึ้นไปสูงถึง 21% ทีเดียว ถือเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้นะครับ
สาเหตุที่พอแปลงเป็นสกุล USD แล้วได้กำไรเพิ่มขึ้น เพราะ Fund Flow ไหลเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินของฝั่งนี้ แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ นั้นเลยทำให้นักลงทุนในสหรัฐฯที่ขยับเอาเงินออกมาลงทุน ได้ประโยชน์ 2 ต่อเลยทีเดียว ต่อแรกคือ กำไรจากค่าเงิน ต่อที่ 2 คือ กำไรจากการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์ที่ลงทุน ซึ่งในที่นี้ก็คือ ตลาดหุ้นนั้นเอง
ขยับไปดูเป็นกราฟย้อนหลัง 1 ปี จะเห็นว่า ปีนี้ตลาดหุ้นเกิดใหม่มีการปรับฐานไม่ได้รุนแรงมากในแต่ละช่วง และจะเห็นว่า มาบวกแรงๆจริงๆก็คือเมื่อต้นเดือน ก.ค. นี้เอง ที่ดัชนีกระโดดเปิด Gap ไปถึง 2 รอง พร้อมกับการที่ RSI ขึ้นไปแตะเหนือระดับ 70 ก่อนย่อตัวลงมา ณ ปัจจุบันที่ 68.21
เหตุผลของการปรับขึ้น จริงๆแล้วหลักๆ ผมมองว่า มาจาก
- นโยบายที่ไม่มีอยู่จริงของทรัมป์ ทำให้ตลาดคลายความกังวล และเปลี่ยนสมมติฐานกลายเป็นว่า สหรัฐฯไม่น่าจะมีการลงทุนขนาดใหญ่ และไม่ต้องใช้นโยบายขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่นายทรัมป์หาเสียงไว้
- นางเจเน็ต เยลเลน และเฟด ส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง และค่อยเป็นค่อยไป เมื่อดอกเบี้ยขึ้นได้ช้า ค่าเงิน USD ก็ไม่ควรแข็งค่าเร็วเกินไปด้วย
- เศรษฐกิจฝั่งตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชียเหนือ (จีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้) ปรับตัวดีขึ้น บริษัทจดทะเบียนถูก Upgrade ปรับประมาณการกำไรสุทธิให้สูงขึ้น
พิจารณาในแง่ Valuation โดยใช้ข้อมูลจาก Research Paper ค่าย Goldman Sachs ตามตารางข้างบน ก็พบว่า ณ ระดับราคาปัจจุบัน ที่ MSCI Emerging Markets เทรดอยู่ ถึงวิ่งขึ้นมาแรง แต่ Forward P/E ปีหน้า อยู่ที่ 13.4x ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของ MSCI World ซึ่งอยู่ที่ 17.7x ในขณะที่คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิ (EPS Growth) น่าจะโตที่ 22.4% ซึ่งก็มากกว่า MSCI World ที่ Goldman คาดการณ์ไว้ที่ 12.3x สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมีการเคลื่อนย้ายเงินทุน และมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดห้นเกิดใหม่อย่างชัดเจนมาตั้งแต่ต้นปี
และแน่นอน อ่านมาถึงตรงนี้ ก็น่าจะมีนักลงทุนถามว่า “แล้วตรงนี้แพงไปหรือยัง?”
คำตอบที่ผมพอจะให้ได้อย่างแรกเลยก็คือ ตลาดหุ้น Emerging Markets นั้นแย่กว่า (Underperform) ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว หรือ Developed Markets มาตลอดนับตั้งแต่หลังวิกฤตซับไพรม์ปี 2008 เลยด้วยซ้ำ ทั้งที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศแทบนี้ อยู่ในอัตราที่สูงกว่า และโครงสร้างทางเศรษฐกิจก็เหมาะแก่การลงทุนระยะยาวมากกว่า ดังนั้น มันก็น่าจะมีบางช่วงเวลาบ้างละครับที่จะเป็นเวลาของตลาดเกิดใหม่ซักที
อย่างที่สอง หากมองในมุมมองทางเทคนิคละก็ ตามหัวข้อบทความนี้เลยครับ นั้นก็คือ ตลาดหุ้น Emerging Markets ทะลุ Downtrend Line เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี เพิ่งจะเดือนนี้เอง
ถ้าจบสิ้นเดือน ยังสามารถยืนเหนือแนวต้านที่เพิ่งทะลุมาได้ตรงนี้ ก็มีลุ้นเหมือนกันว่า จะไปได้ต่อไกลๆหรือไม่นะครับ
ถามว่าไปได้ไกลแค่ไหน ดูกราฟสุดท้ายครับ
จะเห็นว่า ดัชนี S&P500 ทะลุจุดสูงสุดเดิมก่อนฟองสบู่แตกของปี 2007 ไปได้ตั้งแต่กลางปี 2013 แล้ว แต่ขณะที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังไม่ไปแตะจุดสูงสุดเดิมตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ ถ้าเอาแค่ไปถึงจุดสูงสุดเดิม ก็ต้องวิ่งขึ้นได้อีก 6% และถ้าทะลุขึ้นไปได้อีก ก็น่าสนใจว่าจะไปยาวกว่านี้ได้ซักเท่าไหร่นะครับ
มีความเสี่ยงไหม ถ้าจะลงทุนในตลาดเกิดใหม่ตอนนี้?
มีแน่นอนสิครับ ถามได้ ?? ระยะสั้น 6 เดือนวิ่งขึ้นมาสิบเปอร์เซ็นต์กว่าๆ มันก็อาจมีแรงเทขายทำกำไรจากคนที่ถือมาก่อนหน้านี้แล้วก็เป็นได้ ถ้ามองความเสี่ยงอีกด้านก็คือ หากกำไรสุทธิออกมาไม่เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ประมาณการ หรือต่ำกว่าคาด (เพราะ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก็พลาดมาตลอด จะมาดูกว่าคาดก็เมื่อเร็วๆนี้เอง) ก็อาจทำให้ Fund Flow ต่างชาติไหลออกได้เช่นเดียวกัน
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนใน NTER GOAL สร้างแผนการลงทุนในระยะยาว ก็จะเห็นว่า มีกองทุนตลาดเกิดใหม่กองเด่นกองหนึ่งอยู่ในพอร์ตที่ผลการดำเนินงานโดดเด่น และเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้ว เกาะกลุ่มผู้นำทั้งในระยะสั้น และในระยะยาว และเป็น NTER PICK ของเรา นั้นก็คือ KF-EM จาก บลจ. กรุงศรี
และนี่คือข้อมูลการเปรียบเทียบ KF-EM กับการจัดอันดับข้อมูลกองทุนอื่นๆในตลาด โดย NTER SPACE ครับ
แหล่งข้อมูล :-
Stockcharts.com
Goldman Sachs Portfolio Strategy Research
คำเตือน
• การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
• ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันผลการดำเนินในอนาคต
• การนำเสนอข้อมูลข้างต้น มิใช่การให้คำแนะนำการลงทุน
• การลงทุนใดๆ ต้องเกิดจากการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจลงทุน บนความเสี่ยงที่รับได้ของนักลงทุนเอง
• ทางผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิ์ ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียในทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้นจากการให้ข้อมูลข้างต้น
พิเศษ
หากท่านสนใจเปิดบัญชีลงทุนเพื่อรับคำแนะนำลงทุนจริง กรุณากรอกรายละเอียดสั้น ๆ ได้ ที่ www.finnomena.com/nter-exclusive-club เพื่อรับบริการพิเศษจากเรา (จำนวนจำกัด)