เวลาพูดถึง Mega Trend ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เทรนที่เรามักจะได้ยินบ่อยมากๆ ผมก็เป็นหนึ่งคนในนั้นที่พูดถึง ก็คือ Aging Society หรือ สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ผู้มองหาโอกาส พยายามจับเทรนว่า จะไปขายอะไรให้คนกลุ่มนี้ เนื่องจากอำนาจการซื้อที่มากกว่าคนกลุ่มอื่นนั้นเอง
แต่อย่างที่เรารู้ว่า โอกาสมันมีอยู่ทุกที่ อยู่ที่เราต้องเห็นภาพใหญ่ และเข้าใจความเป็นไปของสังคมด้วย
จริงๆ แล้ว คนวัยทำงาน ก็ยังมีอำนาจการจับจ่ายใช้สอยไม่น้อย แต่เราต้องอย่าไปเทียบจำนวนเงินในบัญชีของเค้า เพราะมองเท่าไหร่ มันก็ไม่ใกล้เคียงเหล่า Baby Boomers หรอกครับ แต่ไปมองศักยภาพจากการผลิต Active Income หรือรายได้จากการทำงานสิ ยังไงคนกลุ่มนี้ ก็ยังเป้นกลุ่มหลักในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในอีก 10-20 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
คนรุ่น Millennials หรือคนบางเรียกว่า Young Adults มีอายุระหว่าง 18-34 ปี หรือเกิดในช่วง ค.ศ. 1980-1996 ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยมีคนกลุ่มนี้อยู่ 30% หรือมากกว่า 20 ล้านคนทีเดียว
เห็นไหมครับ ไม่น้อยเลย ดังนั้น เรามาทำความเข้าใจพฤติกรรมคนรุ่นนี้กันอีกซักครั้ง (เดาว่าหลายคนคงเคยอ่านและศึกษามาพอสมควรแล้ว)
คนรุ่น Millennials เป็นคนรุ่นที่ให้คุณค่ากับการพัฒนาตัวเอง รวมถึงการจัดสมดุลด้านการงานและชีวิต ถามว่าแคร์ไหมพวกเงินทอง และหน้าตาในสังคม คำตอบคือ คนรุ่นนี้ เชื่อว่า ศักยภาพของตัวเอง จะนำไปสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน เพราะเขามองว่า มันคือต้นทางและที่มาของเงินทองมากกว่า ส่วนหน้าตาในสังคมมันจะมาทีหลังอีกที
จากแบบสอบถาม INSEAD Emerging Markets Institute, HEAD Foundation มีผลสรุปที่น่าสนใจหลายอันด้วยกัน คือ จากผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกกว่า 16,000 ราย มีสูงถึง 82% ที่ให้ความสำคัญกับการจัด Work Life Balance มากกว่าตำแหน่งหน้าที่การงานในองค์กร และมีสูงถึง 73% เลือกใช้ชีวิตแบบสร้างสมดุล มากกว่าการรับเงินเดือนสูงๆ นี่คือแนวคิดในการใช้ชีวิตของคนรุ่น Millennials ที่น่าสนใจ
ในแง่ของพฤติกรรม ก็แตกต่างเช่นเดียวกัน โดยคนรุ่น Millennials จะเป็นคนยุคที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ๆ ได้ดี มีชีวิตกับโลกออนไลน์แทบจะตลอดเวลา รักความเป็นอิสระและเน้นว่า ต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้
เพราะฉะนั้นสินค้าที่จะขายให้กับคนกลุ่มนี้ มักจะต้องเป็นสินค้าที่มี Engagement กับผู้ซื้อค่อนข้างสูง มีความคิดสร้างสรรค์ และมีนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ทดลอง รวมถึงเปิดพื้นที่ให้ผู้ซื้อสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมา
Bank of America Merrill Lynch ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของคนแต่ละรุ่น (รวมถึง Millennials) พบสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างทีเดียว โดยสินค้าที่ Baby Boomers จับจ่ายใช้สอยเยอะสุดคือ หมวดสินค้าที่ซื้อในซุบเปอร์มาร์เก็ต 27.2% , หมวดจิปาถะ 22.3% และ เครื่องใช้ไฟฟ้า + อุปกรณ์เกี่ยวข้องกับงานอดิเรก 14.7%
มาดูที่ Gen X พบว่า ลำดับมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนะ แต่อันดับ 1 และ 2 ยังเป็น หมวดสินค้าที่ซื้อในซุบเปอร์มาร์เก็ต 25.3% , หมวดจิปาถะ 20.3% แต่จะเห็นนะครับว่าสัดส่วนนั้นลดลง มาถึงอันดับ 3 กลายเป็นว่า คน Gen X ใช้เงินไปกับหมวดอาหาร และภัตตาคาร 17.7% ถามว่า แล้วหมวด เครื่องใช้ไฟฟ้า + อุปกรณ์เกี่ยวข้องกับงานอดิเรก หายไปไหน จริงๆ แล้วไม่ได้หายไปไหนครับ ยังมีสัดส่วนสูงถึง 16.8% ทีเดียว
มาที่คนรุ่น Millennials หมวดสินค้าที่จ่ายเงินออกจากกระเป๋ามากที่สุด 3 อันดับแรกนะครับ หมวดอาหาร และ ภัตตาคาร 23.8% รองลงมาคือ หมวดสินค้าที่ซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ต 21.7% และ หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า + อุปกรณ์เกี่ยวข้องกับงานอดิเรก 18.5%
เห็นข้อมูลจาก Research แบบนี้ ก็ชัดเจนนะครับ ว่าร้านค้าสะดวกซื้อ คือ Mega Trend ที่รองรับความต้องการของผู้บริโภคที่รุ่นอย่างแท้จริง แต่เทรนด์ Eat out หรือ กินข้าวนอกบ้าน จะเห็นว่า มาชัดมากและดึงเงินจากกระเป๋าของ Millennials ได้ดีที่สุดเลย ในขณะที่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี คนรุ่นนี้ยินดีจ่ายเงินเพื่อได้มาอย่างชัดเจนทีเดียว
ข้อมูลอีกฝั่งที่เห็นได้ชัดก็คือ คนรุ่น Millennials ไม่ได้นิยมการซื้อ Fixed Asset หรือ สินทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่นรถ บ้าน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อย่างกรณีการเดินทาง คนรุ่นนี้ ยินดีใช้บริการสาธารณะมากกว่า เพราะคำนึงถึงความคุ้มค่าและความคล่องตัว
ในไทยเรา มี Millennials อยู่ 30% ของประชากรทั้งหมด แล้วในโลกนี้ สัดส่วนเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่า ไม่น้อยครับ จริงๆ แล้ว Millennials คือ กลุ่มคนที่จะมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกไปอีก 10-20 ปีทีเดียว บทความนี้ เปิดเผยบางส่วนให้เห็นแล้วนะครับว่า ธุรกิจแบบไหน โตไปกับ Millennials แบบยาวๆได้ โชคดีในการลงทุนครับ
ที่มาบทความ : http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642045