5 เพื่อนบ้าน ตัดความสัมพันธ์กาตาร์ มันจะเกิดอะไรตามมา

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ในโลกอาหรับเกิดขึ้น และนำมาซึ่งความไม่แน่นอน เป็นความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อีกหนึ่งประเด็นที่นักลงทุนควรจับตา นั้นก็คือ การที่ 5 ชาติในตะวันออกกลาง คือ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน อียิปต์ เยเมน และรวมถึงเขตปกครองด้านตะวันออกของลิเบีย ร่วมกันตัดสินใจว่า จะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์

เบื้องหลังเหตุการณ์ตัดความสัมพันธ์ครั้งนี้ ทางผู้สื่อข่าว BBC ให้เห็นผลว่าเกิดจาก

  1. กาตาร์ถูกมองว่าเป็นฝ่ายหนุนหลังกลุ่มอิสลามที่ได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองจากบางประเทศ เช่น อียิปต์ ในช่วงที่ นายโมฮัมเหม็ด มอร์ซี อดีตประธานาธิบดีอียิปต์ ถูกขับออกจากตำแหน่งในปี 2013 นั้น ในประเทศกาตาร์เอง ก็เปิดเวทีให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ให้กับสมาชิกของกลุ่มที่ไม่ยอมรับการถูกขับไล่ครั้งนั้น
  2. ทีท่าที่เห็นอกเห็นใจอิหร่าน ของ ชีค ทามิม บิน ฮาเหม็ด อัล-ทานี เจ้าผู้ปกครองกาตาร์ จากกรณีที่ไปวิจารณ์สหรัฐฯว่า “มุ่งร้าย” ต่ออิหร่าน แน่นอนว่า ซาอุฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐฯก็ย่อมต้องออกมาปกป้อง และได้มีการกล่าวหากาตาร์กลับว่า สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มก่อการร้ายในซาอุฯ ในลิเบีย และกลุ่มกบฏฮูธีในเยเมน แน่นอนว่า กาตาร์ ก็พยายามปฎิเสธว่าไม่เคยแทรกแซงกิจการภายในของชาติใดๆ และอ้างว่า มีกลุ่ม Hacker เจาะระบบของสำนักข่าวของรัฐบาล แล้วเผยแพร่ข้อความปลอมเกี่ยวกับอิหร่านและอิสราเอล และอ้างว่าเป็นคำพูดของเจ้าผู้ปกครองกาตาร์
  3. แถลงล่าสุดของซาอุฯ เมื่อวันจันทร์ ระบุว่า กาตาร์ใช้สื่อเป็นเครื่องมือปลุกระดมกลุ่มภราดรภาพมุสลิมมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตแล้ว ยังประกาศระงับการติดต่อเชื่อมโยงกับกาตาร์ทุกทาง ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเลอีกด้วย ซึ่งพอไปดูแผนที่โลก ก็จะพบว่า ลำบากกาตาร์แน่นอน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งมีสายการบินแห่งชาติอย่าง Qatar Airways เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ

01-qatar

อีกด้านที่กาตาร์ต้องคิดหาทางแก้ไขโดยเร็วก็คือ อุตสาหกรรมอาหาร เพราะ กาตาร์มีสถานะคล้ายๆเกาะ ฝั่งที่ติดกับแผ่นดินใหญ่ ก็คือ ที่ติดกับชายแดนของซาอุฯ และปัญหาคือ กว่า 40% ของการนำเข้าอาหารทั้งหมดของประเทศ ก็นำเข้าผ่านทางบก ด้านชายแดนซาอุฯนี่ละ โดยสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ยอดการนำเข้าของกาตาร์ มาจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มูลค่า $7.18 Billion มากเป็นอันดับ 3 ของการนำเข้ารองจากสหรัฐฯ และจีน ดังนั้นหากตั้งโต๊ะเจรจา หรือแก้ไขปัญหากันได้ช้า ก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

02-qatar

ในด้านมุมมองการลงทุน จะกระทบอะไรกับกาตาร์ไหม?

จากสำนักข่าว Bloomberg มีความเห็นจากนักวิเคราะห์ต่างๆ มองว่า การตัดความสัมพันธ์ครั้งนี้อาจทำให้กาตาร์ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอย่างน้อยๆก็ 1 ขั้น (ปัจจุบัน S&P ให้อยู่ที่ AA) สู่ระดับ AA- ซึ่งถึงแม้จะเกิดขึ้นจริง ก็ยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัยในการลงทุน (Above Investment Grade) เพราะกาตาร์มีการกู้หนี้จากนอกประเทศเพียงแค่ 30% ของ GDP เท่านั้น ฐานะการเงินยังถือว่าแข็งแกร่งอยู่

คำถามต่อมาคือ แล้วจะกระทบอะไรกับราคาน้ำมันโลกไหม?

ตอบโดยสรุปในแง่ของกำลังการผลิตนั้นมีไม่มาก เพราะ กาตาร์เป็นสมาชิกในกลุ่ม OPEC ก็จริง แต่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน ตามนโยบายตรึงกำลังการผลิต โดยคิดเป็นเพียง 5% ของกำลังการผลิตในโอเปก ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในบรรดาสมาชิก OPEC เพราะฉะนั้น สมมติกาตาร์ใช้กลยุทธ์ผลิตน้ำมันเพิ่มเติม ไม่ยอมทำตามข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตตามข้อตกลง OPEC จริง ก็แทบไม่มีผลอะไรมากกับ Supply ของน้ำมันดิบในตลาดนะครับ

03-qatar

อำนาจ หรือ ความสำคัญของกาตาร์ต่อนานาประเทศที่แท้จริง ไม่ใช่สายการบิน หรือ ผลิตน้ำมันดิบ แต่คือการเป็นผู้ส่งออก liquefied natural gas (ก๊าซ LNG) รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งมีลูกค้ารายใหญ่ก็คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และอินเดีย ซึ่งหลักๆเป็นการขนส่งทางเรือ และยังไม่น่าจะได้รับผลกระทบระยะสั้นจากมาตรการตัดความสัมพันธ์รอบนี้ แต่หากมีมาตรการที่ตัดเส้นทางการเดินเรือละก้อ กาตาร์น่าจะเหนื่อยกว่านี้อีก และมีผลต่อประเทศผู้นำเข้าบ้าง

สำหรับใครที่มีการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งมี Exposure หรือสัดส่วนการลงทุนบางส่วน ไปฝากเงินกับธนาคารในกาตาร์ (ส่วนใหญ่คือ กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น) มุมมองส่วนตัวยังมองว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้กระทบกับความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นของเหล่าธนาคารในกาตาร์ และเชื่อว่า เหล่าผู้จัดการกองทุน จะปรับลดสัดส่วนลงในอนาคต และคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมากกว่าเราที่เป็นนักลงทุนรายย่อยอยู่แล้วครับ

ในฐานะนักลงทุน เราคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างห่างๆ และประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องนะครับ และทางเราก็จะติดตามและคอยอัพเดทสถานการณ์เช่นกัน

แหล่งข้อมูล :-
http://www.jbsolis.com/2017/06/food-prices-in-qatar-expected-to-rise.html
https://www.bloomberg.com/view/articles/2017-06-06/qatar-still-has-many-friends-in-energy-markets

คำเตือน
• การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
• ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันผลการดำเนินในอนาคต
• การนำเสนอข้อมูลข้างต้น มิใช่การให้คำแนะนำการลงทุน
• การลงทุนใดๆ ต้องเกิดจากการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจลงทุน บนความเสี่ยงที่รับได้ของนักลงทุนเอง
• ทางผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิ์ ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียในทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้นจากการให้ข้อมูลข้างต้น