โพยข้อสอบ มีค่ามากที่สุดก็ตอนที่เรายังไม่รู้ว่าข้อสอบจะออกอะไร และมันจะดูมีความน่าเชื่อถือมากหากคนที่นำโพยข้อสอบมาให้เราดู เขาเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
เปรียบได้กับตลาดหุ้น ปัจจุบันนี้เกินกว่าครึ่งของนักลงทุนรายย่อยในตลาด ไม่ได้อยากอ่านหนังสือเพื่อจะสอบให้ผ่าน แต่พยายามหาคนนำโพยที่มีความน่าเชื่อถือ และท่องโพยนั้นเข้าไปสอบอีกที
วิธีการนี้ได้ผลหรือเปล่า?
นั้นเป็นคำถามที่ผมก็ถามตัวเอง และโยนให้นักลงทุนได้คิดมาตลอด แต่ก็รู้นะครับว่ามันก็คงจะเหมือนสุภาษิตจีนที่ว่า “สอนให้คนตกปลา ดีกว่าจับปลาไปให้เขากิน” ถ้ามีใครจับปลาให้เรา เราก็แค่รอดไปอีกหนึ่งมื้อ แต่ถ้าเราได้วิชาจับปลา อย่างน้อยก็การันตีได้แน่ๆว่า คงได้กินมากกว่า 1 มื้อแน่นอน แต่ถ้าคิดไปลึกกว่านี้อีกนิด หากอาจารย์สอนศิษย์ทุกคนให้จับปลากันเป็นหมดทั้งหมู่บ้าน ซักวันหนึ่งปลาก็คงจับได้ยากขึ้น เพราะคนตกปลามีจำนวนเพิ่มขึ้น (Demand เพิ่มขึ้นรวดเร็ว ในขณะที่ Supply มีแนวโน้มลดลงรวดเร็ว) นั้นเป็นสาเหตุที่อาจารย์เลือกศิษย์ที่ตัวเองไว้ใจ นั้นเป็นสาเหตุที่คนทำกำไรจากตลาดหุ้นได้มากมายถึงไม่ยอมบอกเราง่ายๆว่าลงทุนยังไง ไม่อย่างนั้น Abnormal Return ก็จะกลายเป็น Normal Return ในบัดดล จะหาเซียนว่าหายากแล้ว แต่จะให้เซียนถ่ายทอดเคล็ดวิชา นั้นถือว่ายากยิ่งกว่า
ลองมาย้อนกลับไปเรื่องโพยข้อสอบกันอีกหน่อย ผมถามกลับว่า คนนำโพยเขาแม่นตลอดไหม? คนนำโพยเขาจะให้หุ้นเราไปตลอดหรือเปล่า? ถ้าหากโพยเริ่มผิด ข้อผิดพลาดเดียวที่เรารู้ก็คือ เราเลือกคนนำโพยผิด … ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราพัฒนาความสามารถในการอยู่รอดในตลาดหุ้นได้เลย จริงไหมครับ? อย่างนี้ต้องปรับวิธีการบริหารคนนำโพยซักหน่อย ลองใหม่ๆ ถ้าเราพอจะให้ผลประโยชน์กับคนนำโพยได้ เขาก็จะมีแรงจูงใจในการบอกเราไปเรื่อยๆ อ่ะ!! ชักเข้าท่าแหะ วิธีนี้ ^^ (ทดไว้ในใจก่อนนะ แล้วค่อยกลับมาคิดต่อ) แต่อยู่ดีๆถ้ามีใครเดินดุ้มๆมาให้หวยเราทันที สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ อย่างเชื่อทั้งหมดที่เขาบอก ต้องคิดไว้ก่อนว่า เขาคงมีผลประโยชน์อะไรบางอย่างจากการมาบอกเรา ซึ่งเหตุผลแบบตรงๆก็คือ เขาอยากให้มีใครซักหลายๆคนดันราคาให้ขึ้นต่อไป (เพราะซื้อไว้เต็มปอดแล้วววว) หรือในทางอ้อม ก็บอกเราเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เผื่อในครั้งต่อๆไปจะได้มีคนมาเชื่อมากขึ้น มั่นใจมากขึ้น กล้ามากขึ้น และก็กลับไปที่เหตุผลแบบตรงๆในข้อแรกครับ พอบอกหวยปุ๊บ ราคาขึ้นปั๊บ แม่นยังกับตาเห็น เพราะทุกคนเชื่อไปแล้วว่าคนคนนี้คือเซียน บทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อจะหลบหลู่เซียนหุ้นท่านใดนะครับ หากมวลชนเชื่อจริง คำพูดมีน้ำหนักและมีเหตุผลเพียงพอ คนผู้นั้นก็สมควรแก่การเป็นผู้นำโพยข้อสอบมาให้เรา หุหุ เพราะฉะนั้นสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดพัฒนาตัวเองในการเลือกหุ้นลงทุน ก็ต้องเลือกพัฒนาทักษะในการคัดกรองให้ได้ว่าใครคือเซียนแท้ ใครคือเซียนเทียม ซึ่งผมว่า ก็คงดูไม่ยากหรอกถ้าเราสังเกตจุดเล็กๆน้อยๆให้ออก
ข้อแรก เขาสามารถทำเงินได้จากการลงทุนในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องระวังไว้ก่อน ปัญหาคือ มันยากมากที่จะรู้ว่าเขาประสบความสำเร็จจากการลงทุนจริงหรือเปล่า นอกเสียจากยอมเปิดตัวผ่านสื่อ มากางพอร์ตให้เราดู หรือรู้จักกันเป็นการส่วนตัว
ข้อสอง คนนำโพยที่ดี จะไม่เอามาให้เราแค่โพยข้อสอบ แต่จะมาพร้อมเหตุผลที่ดูดี และมีความน่าเชื่อถือ ถ้าเหตุผลของเขามันดูขัดๆกับความรู้สึกของเรา ก็ต้องระมัดระวังครับ
ข้อสาม ดูความถี่ของการให้หวย อันนี้สำคัญ เพราะเซียนหุ้นส่วนใหญ่ ไม่ซื้อขายบ่อยเกินไป ไม่เลือกซื้อหุ้นสะเปะสะปะเกินไป แต่เขาจะมีความมั่นใจในหุ้นที่วิเคราะห์มาดีแล้ว ไม่ใช่วันนี้บอกอย่าง พรุ่งนี้บอกอย่าง แล้วมาอ้างว่าตลาดไม่เอื้ออำนวย อันนี้เซียนเทียมแน่นอน
ข้อสี่ ยอมรับผิด ถ้ารู้ว่าตัวเองผิด ไม่อ้างลม ไม่อ้างฝน แค่ยอมรับว่าตัวเองผิด แบบนี้สิ นักลงทุนตัวจริง สำหรับผม ถึงแม้คนที่ยอมรับผิดคนนี้จะไม่ใช่เซียนหุ้น แต่ผมให้ความนับถือครับ เพราะสำหรับผม สัจจะ สำคัญมากในการคบหาใครซักคนเป็นเพื่อน ยิ่งจะเป็นคนที่เรากำลังจะเดินตามเนี่ย ยิ่งโคตะระสำคัญเลย
ตอนนี้นึกได้สี่ข้อ แต่ผมก็เชื่อว่า น่าจะมีข้อสังเกตอื่นๆอีกหลายอย่าง ที่ทำให้เรารู้ว่าใครเป็นเซียนแท้ ใครเป็นเซียนเทียม อ๋อออ สิ่งสุดท้ายก็คือ Track Record ที่ยาวนาน เปรียบไปก็เหมือนการเลือกกองทุนหุ้นเพื่อลงทุนซักกองนะครับ ถ้ามันเป็นกองทุนที่เพิ่ง IPO ยังไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาเลย ถึงแม้นโยบายการลงทุนจะดูดีเลิศหรูปานใด ผมก็ไม่สบายใจที่จะลงทุนนักหรอก เซียนแท้ จะอยู่ในตลาดมายาวนานพอ ผ่านวงจรเศรษฐกิจมาครบทุกรูปแบบ ถ้าเจอแบบนี้นะ อย่าให้หลุดมือเชียว เอามาเป็นคนนำโพยให้จงได้ ฮาๆๆ
สุดท้ายจริงๆล่ะ ถ้าเราพอจะให้ผลประโยชน์กับคนนำโพยได้ เราก็ควรทำครับ วีธีการตอบแทนคน ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว จำไว้ๆ แต่การตอบแทนในรูปแบบอื่นนั้นมีมากมาย คำขอบคุณ การให้ Credit เล็กๆน้อยๆเหล่านี้ก็เป็นสิ่งมีค่านะครับ ถ้ารู้แน่ๆว่าเราไม่เก่งเลือกหุ้น เลือกทีไรเลือกผิดทุกที ซื้อเล่นเก็งกำไรทีไร ได้ถือว่าเป็น Value Investor ทุกที (เพราะติดดอย Cut Loss ไม่เป็น T_T) งั้นก็เปลี่ยนแนวตัวเองมาเก่งในการเลือกคนนำโพยแทนดีกว่า ผมยอมรับครับว่าไม่ง่าย แต่ชีวิตเราก็ไม่เคยมีอะไรได้มาง่ายๆอยู่แล้ว ถูกไหม มันอยู่ที่ใครถนัดอย่างไหนมากกว่ากันต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องมาควบคู่กับความสำเร็จก็คือ ความพยายาม
และจำไว้ว่า “มันเป็นเรื่องที่โง่มาก หากเราหวังผลลัพท์ที่ต่างจากเดิม แต่เรายังคงทำสิ่งเดิมๆ และไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง”