ผมอยู่ในวงการการลงทุนมาปีนี้ ก็จะเข้าปีที่ 9 แล้ว เห็นพัฒนาการของตลาดทุน เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลก เห็นการเคลื่อนไหวของเงินทุนไปมา เห็นแล้วยอมรับเลยว่า ใครที่เข้ามาลงทุน ต้องเรียนรู้ เพิ่มพัฒนาทักษะตัวเองไปเรื่อยๆ หยุดไม่ได้ แต่ยิ่งเรียนรู้ ยิ่งติดตามข่าวสารปัจจัยภายนอก ก็พบว่า “ตัวเองไม่ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเลย”
คำว่า ประสบการณ์ มันเกิดจากกระบวนการคิดและวิเคราะห์ถึงสิ่งที่เราประสบพบเห็นมา แล้วพยายามตอบสนองมันในทิศทางที่เราเชื่อว่าจะเป็นผลดีกับเรายิ่งขึ้น หากเจอกับเหตุการณ์ประเภทนั้น หรือคล้ายคลึงกันอีกครั้ง แต่หากเราเอาแต่พยายามเรียนรู้ปัจจัยภายนอก ตามอัพเดทข่าวสาร อยู่เรื่อยๆ โดยที่ไม่เรียนรู้สิ่งที่สำคัญกว่า ต้องระวังจะเสียเวลาไม่คืบหน้าใดๆในการลงทุนนะครับ
ในช่วง 2 ปีแรก ผมเสียเวลากับการนั่งหาสูตรสำเร็จของการลงทุน และมาค้นพบในปีที่ 3 ว่า ไม่มีสูตรสำเร็จใดๆเลยหากคุณประสบความสำเร็จจากการลงทุน
สาเหตุเกิดจาก ตลาดทุน ตลาดหุ้น ก็ล้วนอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา มันแปรปรวนไปเรื่อยตามเหตุและปัจจัย อยากที่จะคาดการณ์และเดาทิศทางได้ และที่น่าตลกคือ มันทำให้เราเป็นทุกข์ โดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้น ตลาดทุน ตลาดหุ้น ก็เป็นแหล่งสร้างผลตอบแทน เพื่อความมั่นคงในชีวิตบั้นปลายของเรา มันจึงเชื้อเชิญและยั่วยวนเหลือเกินสำหรับนักแสวงหาโอกาสที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกในปัจจุบัน โดยที่หวังว่า เมื่อมีเงินมากขึ้น ความสุขก็น่าจะตามมา แต่ โรเบิร์ต คิโยซากิ เคยกล่าวไว้ในหนังสือเบสเซลเลอร์ของเขาที่ชื่อ Rich Dad Poor Dad ไว้ว่า “ถ้าคุณเป็นคนไม่มีความสุขอยู่ก่อนหน้านั้น การมีเงิน ก็ไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น” ดังนั้น เราคงต้องมาปรับเข็มทิศกันก่อนนะครับ
ผมมี Checklist 10 ข้อ ให้ทุกคนที่ตั้งใจจะเข้าไปลุยในตลาดหุ้น ว่าคุณพร้อมที่จะวิ่งเข้าสู่โลกแห่งการลงทุนมากน้อยแค่ไหน ตามไปดูเลยครับ
1. คุณมีเป้าหมายการลงทุนในระยะยาวที่ชัดเจนแล้วใช่ไหม?
2. คุณยอมรับโอกาสที่จะขาดทุนได้ใช่หรือเปล่า หากภาวะการลงทุนไม่เอื้ออำนวย?
3. เงินที่คุณนำมาลงทุน เป็นเงินเย็นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้นใช่หรือไม่?
4. คุณรู้จักหุ้นที่คุณกำลังจะลงทุนเป็นอย่างดีแล้วใช่ไหม?
5. คุณรู้วิธีการวิเคราะห์และตัดสินใจเลือกหุ้นอย่างน้อยก็ 1 วิธีในหัวแล้วใช่หรือไม่?
6. คุณเข้าใจระบบ และวิธีการลงทุนตามขั้นตอนของตลาดหลักทรัพย์แล้วใช่หรือไม่?
7. คุณเลือกบริษัทหลักทรัพย์ที่จะให้บริการคุณแล้ว และเข้าใจค่าธรรมเนียมที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนแล้วใช่หรือไม่?
8. คุณมีแหล่งศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อการตัดสินใจลงทุนใช่หรือไม่?
9. สิทธิต่างๆที่ได้รับจากการลงทุนหุ้น คุณรู้จักแล้ว ศึกษามาแล้วใช่ไหม?
10. คุณพอมีเวลาติดตามข่าวสารด้านการลงทุนพอสมควรอย่างน้อยเดือนละครั้ง (สำหรับนักลงทุนระยะยาว) ใช่หรือไม่?
ถ้าคุณสามารถตอบว่า “ใช่” จากคำถามทั้งหมด 10 ข้อข้างต้นได้ นั้นก็หมายความว่า คุณมีความพร้อมในการลงทุนในระดับที่ดีเลยครับ ที่น่าแปลกก็คือ เมื่อผมนำ 10 ข้อนี่ไปให้นักลงทุนที่ลงทุนอยู่แล้วในตลาดในปัจจุบัน กลับพบว่า เกินครึ่ง ไม่สามารถตอบว่า “ใช่” ได้ทั้งหมด 10 ข้อ
และแน่นอนครับ บางข้อที่คุณไม่ได้ตอบ เมื่อประสบปัญหาขาดทุน ข้อนั้นก็จะมาเป็นข้ออ้างให้คุณใช้แก้ตัวกับตัวเอง เช่น ฉันขาดทุนเพราะ ไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร ฉันขาดทุนเพราะต้องใช้เงินด่วนเลยต้องขายขาดทุนออกมา ฯลฯ
ชาวพุทธเราไม่ประมาท นักลงทุนก็ไม่ควรกระโดดเข้าไปในตลาดทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมนะครับ