พุทธศาสนา สอนเราว่า โลกเรานี้ ทุกสรรพสิ่งล้วนอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

แปลง่ายๆว่า ไม่มีอะไรในโลกที่แน่นอน ทุกสิ่งในโลกล้วนแต่ทำให้เกิดทุกข์ และความมีตัวตน ไม่ได้มีอยู่จริง

วันนี้ไม่มาแปลกนะครับ เกริ่นขึ้นมาแบบนี้ บทความนี้ก็เกี่ยวข้องกับการลงทุนอยู่ดี

ผมสะดุดตรงคำว่า “ความมีตัวตน ไม่ได้มีอยู่จริง” หากลองใช้แค่ปัญญาระดับโลกๆของตัวเองไปนึกพิจารณาดู ผมมองว่า พระพุทธเจ้าท่านลึกซึ้งมาก ถึงสามารถมองที่สุดแห่งโลกได้ละเอียดถึงเพียงนี้

เพราะตัวตน คือ การประกอบเข้าด้วยกันของสิ่งหลายสิ่งที่เราหยิบยืมมาจากธรรมชาติ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง กระดู ทั้งหลายล้วนมาจากสารอาหารที่เรารับประทานและเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อสร้างเนื้อเยื่อและร่างกายนี้ขึ้นมาเป็น “ตัวเรา”

ลองนึกๆเอาตามผมนะ เวลาเราผมยาวขึ้น ไปตัดผมที่ร้านตัด ผมที๋โดนตัดแล้วร่วงลงบนพื้นนั้น ความรู้สึกว่า “เป็นเรา” กับผมที่ร่วงบนพื้นนั้น หายไป ไม่เหมือนตอนที่มันอยู่บนหัว
เล็บที่ตัด ก็เหมือนกัน ฟันที่หักก็ไม่แตกต่าง รวมความแล้ว “ตัวเรา” คือการประกอบขึ้นของสิ่งมากกว่า 1 สิ่ง แต่เมื่อเราลองใช้ใจพิจารณาแยกสิ่งต่างๆทั้งหลายออกไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่า ตัวเรา จริงๆแล้ว ไม่มี!! เพราะมันไม่มีอยู่แต่เดิมอยู่แล้ว แต่เรานั้นละ หยิบยืมธรรมชาติขึ้นมาชั่คราวคราว ก่อนที่จะคืนมันไปในที่สุด

ยากไปใช่ไหมครับ 555

งั้นขอยกตัวอย่างง่ายๆ กับพาหนะที่ชื่อว่า รถยนต์

รถยนต์ก็อยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ และแน่นอน ผมกำลังจะบอกว่า รถยนต์ จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้มีอยู่จริง มันคือการประกอบกันขึ้นมาด้วยอะไหล่ไม่ต่ำกว่า 200 ชิ้น

ลองถอดพวงมาลัยรถยนต์ออก เราไม่รู้สึกว่าพวงมาลัย คือ รถยนต์ ลองถอดเอาล้อออก เราก็ไม่รู้สึกว่า ล้อ คือ รถยนต์ ลองถอดอะไหไล่แต่ละชิ้นออกมา เราก็ไม่รู้สึกว่า อะไหล่แต่ละชิ้นเป็นรถยนต์ แต่ความเป็นรถยนต์ จะเกิดขึ้นมา ก็เกิดจาก การประกอบรวมกันของอะไหล่ทุกชิ้น ในองค์ประกอบที่ลงตัวและเหมาะสม เท่านั้น (แค่เอามากองๆรวมกัน มันก็ไม่เป็นรถยนต์อยู่ดี)

แล้วในเรื่องของการลงทุนล่ะ?

การลงทุน ก็อยู่ภายใต้กฏไตรลักษ์ตามหลักพุทธศาสนาเหมือนกัน คุณจะเรียก การกระทำอะไรก็ตาม ที่ทำให้เงินทองเพิ่มขึ้น แล้วเรียกว่า การลงทุน มันก็คงไม่ง่ายอย่างนั้น
แค่นั่งอยู่หน้าจอ Streaming แล้วซื้อขายหุ้นที่วิ่งเขียวๆแดงๆอยู่ตรงหน้า นั้นก็ไม่อาจเรียกว่า การลงทุน ได้เต็มปาก

การลงทุน จะต้องประกอบไปด้วย การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมิณสถานการณ์ ประเมิณความเสี่ยง ใช้เหตุผล หาราคาเหมาะสม มีกลยุทธ์ มีแผนการรองรับ หากขาดข้อใดซักข้อหนึ่ง หรือใช้เพียงแค่ข้อเดียว แล้วเรียกว่า การลงทุน ดูไปก็เหมือนการขับรถยนต์ โดยที่ไม่มีกระจกมองข้าง ทำอย่างนี้ ต้องเดินหน้าทางตรงอย่างเดียว จะเลี้ยวซ้ายที ขวาที คงจะเสี่ยงไปเฉี่ยวรถข้างๆเข้า หรือหนักกว่า หากคุณขาดข้อที่จำเป็นมากๆ มันอาจจะเหมือนขับรถยนต์โดยที่ล้อหายไปข้างหนึ่ง ถึงจะพอวิ่งไปได้ แต่คุณคิดหรือว่า มันจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง??

เราเห็นเซียนหุ้นที่โต และสร้างฐานะจากการลงทุนในหุ้นมากมาย นั้นคือ สิ่งที่เรารู้จักในฉากหน้าของเขาแค่ผิวเผิน แต่เบื้องหลัง กว่าที่เขาจะลงทุนสำเร็จ นั้นผ่านกระบวนการมามากมาย ประกอบด้วยหลายปัจจัยกว่าจะมาเป็นเซเลบในโลกการลงทุนทุกวันนี้นะครับ

ตัวตน รถยนต์ และการลงทุน เหมือนกันตรงที่ เกิดจากการประกอบกัน ของอะไหล่แต่ละชิ้น ในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมลงตัว และในสัดส่วนที่พอดี

สิ่งที่สำคัญสำหรับ การลงทุน ก็คือ คุณต้องรู้ว่าส่วนผสมที่เหมาะสมกับตัวคุณมีอะไรบ้าง 

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าในชีวิตเราก็คือ อย่าลืมว่า ไม่ว่าคุณสร้างอะไรมาเท่าไหร่ สุดท้ายเราก็ต้องคืนให้โลกไปเท่านั้น อย่ามัวแต่คิดหาเงินกันนะครับ