อย่างแรกเลยคือความต่างกันที่การ(กล้า)รับความเสี่ยง ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนเอ เป็นพนักงานบริษัทมีเงินลงทุนห้าแสนบาท โดยมีเป้าหมายในการลงทุนคือ “รวยเร็ว รวยไว” และหากเงินต้นหมดก็ไม่เป็นไรเขาจะหาเงินจากโบนัสหรือขอเงินจากที่บ้านมาเติม เรียกได้ว่าอยากรวยเร็วเป็นหลัก พอร์ทระเบิดได้ไม่เป็นไรเดี๋ยวหาเงินมาเติม !

…ดังนั้นนักลงทุนอย่างนายเอ จึงเหมาะกับ DW ที่มีอัตราทดที่สูง เช่น DW ที่ให้อัตราทดตั้งแต่ 4 เท่าขึ้นไป เพราะอัตราดระดับนี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการทำกำไรแบบไวไว ควิ๊ก ได้เป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าหุ้นจะไม่เป็นไปตามแผนที่นักลงทุนเอวางไว้ เขาก็ยินดีที่จะรับความเสี่ยงที่สูงได้ ดังนั้นหากคุณเป็นนักลงทุนประเภทนี้แล้วล่ะก็ คุณน่าจะเหมาะกับ DW ที่มีอัตราทด (Effective Gearing) สูงๆเพื่อทำให้พอร์ทการลงทุนเติบโตด้วยอัตราเร่งขั้นสูงสุดนั่นเอง

… แต่หากนักลงทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงมากนัก และไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนแบบหวือหวาหรือรวยเร็วมากๆ (แต่ก็ขอให้มากกว่าการเล่นหุ้นแม่ตรงๆก็พอแล้ว) หากคุณเป็นนักลงทุนประเภทนี้แล้วล่ะก็ คุณน่าจะเหมาะกับ DW ที่มีอัตราทดที่ไม่สูงมากนัก เช่น DW ที่มี Effective gearing ประมาณ 2 – 4 เท่าเป็นต้น

อย่างที่สองที่ผมมักใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือก DW ว่าจะเอาตัวที่ให้อัตราทดเท่าไหร่ดีนั่นก็คือ “โอกาสชนะในเกมที่เรากำลังจะเล่น”

… ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนบี เข้าเทรด DW ด้วยวิธี “ลอกเพื่อนในห้องไลน์” โดยมีผลคือลอกทุกครั้งถูกทุกครั้ง แทบไม่มีครั้งไหนที่เขาจะขาดทุนจากการลอกเพื่อนจากห้องไลน์นี้เลย ดังนั้นแล้ว นักลงทุนบีก็อาจจะพิจารณาเลือก DW ที่ให้อัตราทดสูงๆทันที เมื่อเขาได้หุ้นมาจากห้องไลน์กลุ่มนี้

… กลับกัน หากนักลงทุนบี เข้าเทรด DW ด้วยวิธี “ตามเซียนบนเฟสบุ๊ค” แต่ปรากฎว่าลอกการลอกเซียนบนเฟสบุ๊คของเขา ลอก 10 ครั้งจะมีครั้งที่ได้กำไรเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น เรียกได้ว่า Win rate อยู่ในเกณต่ำ ดังนั้นแล้วหากนักลงบีจะเลือกเทรด DW ซักตัวนึงที่ลอกมาจากเซียนบนเฟสบุ๊คนี้ เขาอาจจะพิจารณาเลือก DW ที่ให้อัตราทดที่ไม่สูงมากนัก เพราะว่าความมั่นใจหรือโอกาสที่ชนะในเกมส์นี้มีไม่มากนั่นเอง

… สุดท้ายแล้วการเลือกอัตราทดของ DW แต่ล่ะตัว ต้องใช้องค์ประกอบการตัดสินใจหลายส่วนประกอบกัน เช่น การรับความเสียง , โอกาสที่จะชนะ , วันหมดอายุ , ค่าเสื่อมทางเวลา เป็นต้น ซึ่งการเลือก DW ให้ตอบโจทย์เรามากที่สุดในช่วงเวลานั้นๆผมมองว่าเป็นเรื่องประสบการณ์และศิลปะ ซึ่งต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจและค่อยๆเรียนรู้และพัฒนาทักษะนี้ไปให้ได้มากที่สุด ….

ที่มาบทความ : https://www.facebook.com/TechniqueDW/