Robert Carver เขาเป็นอดีต Hedge fund manager และก้าวมาจาก Derivatives trader เขาเป็นนักวิจัยสาย Quantitative trading ที่เน้นไปการใช้คณิตศาสตร์และสถิติ ในการวิเคราะห์ข้อมูล (Data) เพื่อพัฒนาระบบเทรด
เขาเริ่มต้นเขาสู่โลกการเงินตั้งแต่ปี 2002 เขาเรียนจบปริญญาตรีและโทด้านเศรษฐศาสตร์ เข้าทำงานกับ Barclays Capital เทรดสินค้า Exotic Derivatives จากนั้นลาออกมาทำงานเป็นนักวิจัยที่ Center of Economic Policy Research แล้วย้ายมาทำงานให้กับ MAN AHL ซึ่งเป็น Hedgefund อันดับต้นของโลกด้าน เขาทำพัฒนาระบบเทรดด้วย Global macro strategy จากนั้นขยับขึ้นไปบริหารพอร์ตลงทุนในสินค้าประเภท fixed income จนช่วงปี 2013 เขาลาออกจาก MAN AHL ใช้เวลากับครอบครัว และหารายได้จากการเทรดด้วยเงินของตัวเอง
ช่วงปี 2015 เขาออกหนังสือชื่อ “Systematic Trading : A unique new method for designing trading and investing systems” ทำให้ Robert Carver กลายเป็นที่รู้จักและได้รับเชิญไปบรรยายในงานสัมมนาต่างๆ
ภาพจาก : www.amazon.com/Robert-Carver/
สามปีที่แล้ว Google นำพาผมให้มีโอกาสได้พบกับเว็บส่วนตัวของคุณ Robert Carver ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องการพัฒนาระบบเทรด ทำให้ผมได้ลงลึกศึกษาบทความและวีดีโอการบรรยายต่างๆของชายคนนี้มากขึ้น มีหลากหลายประเด็นที่ทำให้ผมได้เรียนรู้และนำมาปรับใช้ในการพัฒนาระบบเทรดของตัวเองได้ดี ผมสรุปเอาประเด็นสำคัญที่ผมเรียนรู้จากการศึกษาแนวคิดของคุณ Carver ผ่านบทความและคลิปวีดีโอไว้ 5 ข้อดังต่อไปนี้
1. Good Trader
ใครๆก็เป็นเทรดเดอร์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเทรดเดอร์ที่ดีและไปสู่ความสำเร็จได้ จำนวนไม่น้อยยังหลงเข้าใจผิดว่าการเทรด คือ การพนัน คือการเล่นไปตามอารมณ์ วัดดวง สิ่งนี้คุณ Robert Carver อธิบายไว้ว่า การเป็นเทรดเดอร์ คือการต้องตัดสินใจ เทรดบนเกมส์ที่มีการคำนวณความน่าจะเป็นและวางแผนรับมือความเสี่ยงจากผลกระทบกรณีที่ ผิดพลาดเอาไว้ล่วงหน้า
การเทรด เขามองว่าเป็นงานเป็นอาชีพ ถ้าอยากสำเร็จต้องทำจริงจัง มีเป้าหมาย ลงมือศึกษา พัฒนาอย่างมุ่งมั่น สิ่งสำคัญคือการพัฒนาทักษะในการเทรด รู้จักบริหารอารมณ์ ไม่ประมาท ไม่มี ego หรือมั่นใจมากเกินไป จนทำให้ละเลยความเสี่ยง (ซึ่งเขาเอาจะใช้ระบบเทรดที่มีการสร้าง Algorithm ในการเทรดซึ่งผ่านการทดสอบอย่างดี แล้วมีวินัยบังคับตัวเองให้เทรดไปตามระบบนั้น)
2. เรียบง่ายแต่ไม่ละหลวม
เขาแนะนำเรื่อง การพัฒนาระบบเทรด แยกส่วนของกลยุทธ์การเทรด(เข้า-ออก)และการบริหารความเสี่ยงออกจากกัน หัวใจคือการใช้กลยุทธ์ในการเทรดที่ไม่ซับซ้อน เรียบง่าย เข้าใจง่าย สะดวกต่อการปรับปรุงแก้ไขในอนาคต แต่ก็ต้องไม่ละหลวมในการทดสอบ
โดยเฉพาะการประเมินหาความน่าจะเป็นของระบบ ก่อนนำไปใช้เทรดจริง เช่นเดียวกันกระบวนการทดสอบระบบต้องทำถูกหลักสถิติ ได้ค่าตัวเลขที่เชื่อมั่นได้ และไม่ Over fitting หรือมี Bias เข้ามาปะปน ใช้เทคนิค Walking Forward Analysis ในการทดสอบขั้นสูง เป้าหมายคือ สร้างระบบเทรด ที่ใช้งานได้จริง ไม่ได้ใช้โชว์ นั้นหมายถึงการทำงานได้ในทุกภาวะตลาดที่ดีและเลวร้าย
3. สร้างผลกำไรที่ต่อเนื่องยั่งยืน
กำไรที่ได้จากระบบเทรด ไม่ใช่เครื่อง slot machine ไม่ใช่การเสี่ยงดวง ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องเป็นกำไรที่ไม่จำเป็นต้องมาก มหาศาลแต่เป็นกำไรที่เหมาะสมกับ ขนาดความเสี่ยงที่เรารับได้ ตรงนี้หลีกเลี่ยงการ Over trading การเสี่ยงเกินตัวโดยเฉพาะจากการใช้ Leverage เพื่อหวังกำไรมากๆระยะสั้น
คุณ Robert Carver แนะนำกรณีที่ใช้ Leverage ในการเทรดอนุพันธ์ว่า ควรเริ่มจากการประเมินพฤติกรรมของราคาสินค้าที่จะเทรด และดูว่าความน่าจะเป็นในการชนะมีมากน้อยเพียงใด โดยระบบของเขาใช้ Scale เป็นค่าได้จากโมเดลสำหรับในการประเมิน เช่น ค่า scale ระดับ 10 เทรดปกติ , ระดับ 20 มีโอกาสตลาดอำนวยเพิ่มความเสี่ยงด้วย Leverage 2x หรือเมื่อค่า scale ระดับ -10 ภาวะตลาด ผันผวนมากอันตรายจะไม่เทรดเลย เป็นต้น
กำไรที่ดี มีคุณภาพเป็นกำไรขนาดเหมาะสมกับความเสี่ยงของระบบเทรด และเป็นกำไรที่ต่อเนื่อง ทำซ้ำได้ สร้างการเติบโตให้พอร์ตในระยะยาว
4. การบริหารความเสี่ยงสำคัญ
จากประสบการณ์ทำงานในกองทุนเฮ็ดฟันด์ คุณ Robert Carver แนะนำว่าสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงการบริหารความเสี่ยง(Risk Management) เพื่อการอยู่รอดภาวะตลาด ตั้งเป้ารักษาเงินทุนเป็นอันดับแรก แทนการจ้องจะเสี่ยงเกินตัว หวังกอบโกยเงินออกจากตลาดเป็นหลัก เพราะตลาดเก็งกำไรการได้เงิน สร้างกำไรจำนวนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แน่นอนว่าอาจจะโชคดีได้มาก แต่ความน่าจะเป็นการเสียขาดทุนหนักจำนวนมากในครั้งต่อไปก็มีได้สูง
ดังนั้นการชนะในเกมส์นี้ไม่ใช่วัดที่ผลกำไรระยะสั้นครั้งต่อครั้ง แต่เป็นการวัดที่การบริหารพอร์ต การสร้าง balance curve ให้เติบโต ไม่เสี่ยงเกินตัว เทรดเดอร์ต้องพยายามมองภาพใหญ่ พยายามพัฒนาระบบเทรดที่สร้างกำไรต่อเนื่องยั่งยืน เช่นเดียวกันที่ขาดไม่ได้ คือ การออกแบบ portfolio construction ที่มีการกระจายความเสี่ยง รองรับกับภาวะเศรษฐกิจและการเคลื่อนของเงินบนแผนภาพใหญ่ ที่จะช่วยสร้าง ผลตอบแทนที่เสถียรในระยะยาว
5. รู้จักเปิดใจ
คุณ Robert Carver แนะนำว่าการพัฒนาทักษะ ความสามารถ และการเรียนรู้ ของเทรดเดอร์สำคัญคือต้องมีวิธีคิดแบบเปิดใจ(Open mInd) ไม่มีอัตตาหรือคิดว่าเราฉลาดที่สุด เก่งที่สุด ต้องรับฟังผู้อื่น และกล้ายอมรับความผิดพลาด เพราะความผิดพลาดจะเป็นบทเรียนที่สร้างประสบการณ์ที่ดี
ความรู้จำนวนมาก ไม่ได้มาจากแค่การอ่าน การฟังเท่านั้น แต่มันมาจากการทดลองลงมือทำ ลองผิดลองถูก จนสังเคราะห์เป็น องค์ความรู้เฉพาะในแต่ละบุคคลต่อไป
นี่คือบทเรียนทั้ง 5 ข้อที่ผมรวบรวมจาก คุณ Robert Carver หวังว่าจะมีประโยชน์และช่วยทำให้พวกเรานำไปปรับใช้พัฒนากันต่อไป ถ้าสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมลองเข้าไปหาข้อมูลได้ที่ systematictrading.org
-Mr. Chaipat-