หมายเหตุ: บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
Key Takeaways
- GDP Advance Growth Rate QoQ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.4% เป็น 2.5%
- Core PCE Price Index MoM มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิมที่ 0.1%
- Personal Income MoM มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 0.5% เป็น 0.3%
- Personal Spending MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.2% เป็น 0.3%
- Durable Goods Orders MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.1% เป็น 0.3%
WEEKLY TONE: BUY WEEK
สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม มีการประกาศของ GDP Advance Growth Rate MoM ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในของ GDP ก่อนการประกาศตัวเลข GDP จริง ตัวเลขนั้นได้มีการประมาณการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นพอสมควรสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาอย่างชัดเจน Core PCE มีแนวโน้มที่จะเท่าเดิม Personal Income มีแนวโน้มที่จะลดลง Personal Spending มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และ Durable Goods Orders มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงการที่ฝั่งผู้บริโภคนั้นมีรายได้ที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า อีกทั้งการที่ Core PCE เท่าเดิมยังแสดงให้เห็นถึงการที่ผู้บริโภคนั้นไม่ได้ใช้จ่ายเยอะกว่าเดือนก่อนหน้าอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในภาคธุรกิจ มีการขยับตัวเล็กน้อย และได้ซื้อสินค้าคงทนเข้ามาเสริมในภาคธุรกิจอีกด้วย และปัจจัยทั้งหมดสามารถส่งผลให้ FED นั้นอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 1-2 ครั้ง และการที่มีการคาดการณ์ว่า FED จะลดดอกเบี้ยในปีนี้ทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryotocurrency ได้รับผลพลอยได้ไปได้ โดยจากการคาดการณ์แล้ว FED จะลดดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายน หลังจากนั้นเราอาจได้เห็นตลาดคริปโทฯ ที่เข้าสู่ช่วงตลาดกระทิงแล้วก็เป็นได้
Important Economic Data this week :
1. GDP Advance Growth Rate QoQ
GDP หรือ Gross Domestic Product คือ มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยไม่คำนึงว่าผลผลิตนั้นจะเป็นผลผลิตที่ได้จากทรัพยากรภายในหรือภายนอกประเทศ และ Advance GDP หมายถึง การประมาณการของ GDP โดยอิงจากข้อมูลที่ต้นฉบับที่ยังไม่สมบูรณ์และตัวข้อมูลนั้นอาจได้รับการแก้ไข
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: GDP Advance Growth Rate มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 1.4% เป็น 2.5%
Source : https://tradingeconomics.com/united-states/gdp-growth
การคาดการณ์
การที่ Advance GDP เพิ่มขึ้นนั้นสามารถตีความได้หลากหลายรูปแบบ แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นคือการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้น การลงทุนในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น และการส่งออกเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของ Advance GDP อาจแสดงถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมของประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต แต่ผู้คนบางกลุ่มก็ไม่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตนั้น
2. Core PCE Price Index MoM
Core PCE หรือ Core Personal Consumption Expenditure คือ รายงานดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคได้สั่งซื้อเพื่อการบริโภคซึ่งไม่รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน โดยได้กำหนดราคาตามรายจ่ายทั้งหมดต่อรายการสินค้า ดัชนีนี้จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงราคาจากมุมมองของผู้บริโภค เป็นวิถีทางสำคัญที่จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มการสั่งซื้อและภาวะเงินเฟ้อ
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core PCE มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิมที่ 0.1%
Source : https://tradingeconomics.com/united-states/core-pce-price-index-mom
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การที่ Core PCE เท่าเดิมนั้นแสดงให้เห็นถึงฝั่งแรงงานที่ประชากรนั้นมีการว่างงานอยู่และยังไม่มีเงินเพื่อใช้จ่ายมากกว่าเดิม ผู้บริโภคเลยไม่กล้าใช้จ่ายมากเท่าที่ควร และในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนั้นสูง ผู้คนจึงไม่กล้ากู้ยืมเงินจากธนาคาร เพราะดอกเบี้ยที่ต้องชำระก็จะสูงเช่นเดียวกัน การที่ Core PCE นั้นคงที่เท่ากับเดือนก่อนหน้ายังสามารถกดดันต่อ FED ให้มีการลดดอกเบี้ยอีกด้วย
3. Durable Goods Orders
รายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือ Durable Goods Orders จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าทั้งหมดของคำสั่งซื้อใหม่ในสินค้าคงทนที่รวมถึงสินค้าสำหรับการขนส่ง
คาดการณ์จาก Tradingeconomic : Durable Goods Orders มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นจาก 0.1% เป็น 0.3%
Source :https://tradingeconomics.com/united-states/durable-goods-orders
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การเพิ่มขึ้นของ Durable Goods Orders แสดงให้เห็นถึงการที่ฝั่งภาคการผลิตได้ขยายตัว ในธุรกิจมีการซื้อสินค้าคงทนเพิ่มมากขึ้นและการลงทุนในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นถึงการที่ภาคธุรกิจนั้นมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นในอนาคต
CRYPTOCURRENCY EVENT THIS WEEK
Credit from LayerGG
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
24 กรกฎาคม
- $WLD – เริ่มปลดล็อก $14.04M ต่อวัน เป็นเวลา 729 วัน
25 กรกฎาคม
- $ALT – ปลดล็อก $115M
- $ILV – เปิดตัว beta Mainnet
27 กรกฎาคม
- Donald Trump ขึ้นพูดที่เวที Bitcoin Conference
Weekly Crypto Must Watch
Source : https://www.coinglass.com/FundingRateHeatMap
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังคงถือว่าต่ำกว่าปกติ ซึ่งแสดงถึงมุมมองของตลาดในเชิงบวกขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้น แต่โดยรวมสภาพตลาดยังคงแย่กว่าช่วงไตรมาส 1
Source : https://www.coinglass.com/BitcoinOpenInterest
ในฝั่งของ Open Interest ปริมาณเงินเพิ่มขึ้นมากจนเทียบเท่ากับระดับ All Time High ช่วงเดือนมีนาคม แสดงถึงการเก็งกำไรและความมั่นใจของนักลงทุนที่จะเปิดสถานะมากขึ้น
Source : https://farside.co.uk/?p=997
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,241.1 ล้านเหรียญ ซึ่งแรงซื้อส่วนใหญ่มาจาก IBIT และ FBTC ในขณะที่ GBTC มีแรงเทขายที่น้อยกว่าปกติ นับว่ามีแรงซื้อสุทธิในปริมาณมาก จนทำให้ราคาของ bitcoin กลับตัวเป็นขาขึ้น
Ethereum Insights
เมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนของ $BTC, $ETH, $BNB และ $SOL เหรียญ 4 อันดับแรกตามมูลค่าตลาดในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา จะสังเกตได้ว่า Ethereum เป็นเหรียญที่ Underperform ที่สุด ถึงแม้จะมีการพัฒนามากมาย ไม่ว่าจะเป็น L2 หรือการ Restake แต่ทำไมยังให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าเหรียญอื่น
ข้อมูล On-chain แสดงให้เห็นว่า ความสนใจต่อนักลงทุนที่มีต่อ Ethereum ยังต่ำ อย่าง Volume เงินเข้าออกจากกระดานเทรดของ Ethereum นั้นค่อนข้างต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงพีคของ Cycle ที่แล้ว Volume นี้มีปริมาณที่เกือบเทียบเท่า Bitcoin เลยทีเดียว สามารถตีความได้ว่า นักลงทุนยังไม่ได้ให้ความสนใจกับ Ethereum มากนัก และยังมี Upside ที่สามารถไปต่อได้
Source : https://insights.glassnode.com/the-week-onchain-week-29-2024/
นอกจากนี้ เมื่อดูในระยะสั้น จะสังเกตได้ว่า Option Open Interest ของ Ethereum ลดลงไปมากกว่า 50% จากจุดพีคเมื่อเดือนมีนาคม และยังไม่มีแนวโน้มการฟื้นตัวเหมือน Bitcoin แสดงถึงแรงเก็งกำไรและความสนใจของนักลงทุนใน Ethereum ที่ยังค่อนข้างต่ำ อาจเป็นจุดเข้าสะสมที่ดี
Source : https://studio.glassnode.com/metrics?a=ETH&category=Derivatives&m=derivatives.OptionsOpenInterestSum
บวกกับการอนุมัติ Spot Ethereum ETF อย่างเป็นทางการของ SEC ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 อาจเป็นการเปิดประตูให้กับนักลงทุนสถาบันที่ต้องการเข้ามากระจายความเสี่ยงและแบ่งสัดส่วนมายังคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์หลายเจ้า ว่ายอด Inflow อาจสูงถึง $1B ต่อเดือน ซึ่งเป็นการคำนวณจากการเทียบมูลค่าตลาดกับ Bitcoin
Source : https://x.com/asxn_r/status/1814384403105362132/photo/2
การไหลเข้าของเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบัน ประกอบกับปัจจัยเรื่องของอุปทานที่หมุนเวียนในตลาดของ Ethereum ที่มีน้อยกว่า Bitcoin เพราะมีนักลงทุนจำนวนหนึ่งนำไป stake ไว้ ทำให้อาจส่งผลกระทบกับราคาของ Ethereum ได้มากกว่านั่นเอง
WEEKLY TECHNICAL ANALYSIS
by Cryptomind Advisory
BTC/USDT
$BTC มีการทำขาขึ้นมาถึงบริเวณแนวต้าน $67,000 อีกครั้งหนึ่ง โดยในช่วงข้างหน้าหากราคาสามารถยืนอยู่ในบริเวณ $66,000 – $67,000 ได้ $BTC ก็จะมีโอกาสขึ้นไปต่อได้ อย่างไรก็ตามหาก ราคามีการลดต่ำลงหรือไม่สามารถยืนราคาอยู่บริเวณนี้ได้ ราคาก็มีโอกาสที่จะลดต่ำลงหรือ Sideway ออกไปก่อนในช่วงเวลาข้างหน้า
แนวต้าน: $67,000 | $73,000 | $76,500
แนวรับ: $61,000 | $56,500 | $52,000
ETH/USDT
ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าของ $ETH ถ้าหากราคาสามารถยืนอยู่เหนือแนวรับ $3,350 ได้ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปถึง $3,700 หรือ Breakout จากกรอบ Descending Triangle ได้ ซึ่งถ้าหากมีการออกจากกรอบจริง จะทำให้ราคานั้นมีโอกาสขึ้นไปเกิน $4,000 ได้เลย อย่างไรก็ตามหากราคานั้นมีการหลุดกลับลงมาต่ำกว่า $3,350 ก็จะทำให้ $ETH ในช่วงข้างหน้านั้นอาจจะ Sideway Down ออกไปก่อน
แนวต้าน: $3,700 | $4,020 | $4,470
แนวรับ: $3,350 | $2,870 | $2,400
ASSET ALLOCATION
by Cryptomind Advisory
“มีความเป็นไปได้สูง” ของการลดดอกเบี้ยของ FED จะมาถึงในเดือนกันยายน และ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และการมาของ Ethereum spot ETF และมุมมองเชิงบวกมาก ๆ ต่อตลาดคริปโทฯ ในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
BITCOIN 40%
SELECTIVE ALTCOINS (ETH, LAYER 2 ,LSD) 40%
STABLECOIN 20%
Merkle Capital
ที่มา: https://merkle.capital/articles/Merkle-Weekly-Snapshot-23th-26th-July-2024
คำเตือน
สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ | ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต | ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสนอการลงทุนหรือการจัดการใด ๆ ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล | เนื้อหาข้างต้นเป็นการรวบรวมเนื้อหาโดยใช้ข้อมูลในอดีตอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล