เดือนกันยายนที่ผ่านมา มีประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นกับตลาดคริปโทฯ จำนวนมากโดยเฉพาะการเลื่อนอนุมัติ Bitcoin Spot ETF และการประกาศ Dot Plot จากธนาคารกลางสหรัฐ อย่างไรก็ตาม Merkle Capital ยังคงมองว่า Bitcoin ยังเป็นเทรนด์ที่สามารถเติบโตได้สูงและน่าจับตามองในเดือนตุลาคม
นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยถึงปัจจัยสนับสนุนเทรนด์การเติบโตของ Bitcoin ดังนี้
1) Transaction บน Bitcoin Network ทำ All time high
ราคาของ BTC เคลื่อนตัวในกรอบ 25,000 – 27,500 ดอลลาร์ แต่จำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นบน Bitcoin Network นั้นทำระดับสูงสุด (All time high) จากการเปิดตัวของ Nostr ซึ่งเป็น Decentralized Social ใหม่ ทำให้การใช้งานของ Lightning Network และพื้นฐานของ Bitcoin Network แข็งแรงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ และเมื่อพิจารณาร่วมกับ Transaction ในแต่ละเดือนจะพบว่าหลังเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแนวโน้มของการทำธุรกรรมใน Bitcoin Network นั้นยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีต
ขอบคุณภาพจาก Theblock.co
2) New Active Address ทำระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี
จากข้อมูลในอดีตจะพบว่า ราคาของ BTC ได้ทำ All time high ถึง 2 ครั้งในตลาดขาขึ้นปี 2017 และ 2021 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ New Active Address ของ Bitcoin Network ทำระดับสูงสุด และเมื่อพิจารณาถึงจำนวน New Active Address ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา จะพบว่ามีการใช้งานอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีตั้งแต่ปี 2017 และสูงกว่าปี 2021 ซึ่งแสดงถึงการใช้งานของผู้คนกลุ่มใหม่มากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นหลักฐานที่แสดงว่า Bitcoin Network ถูกนำมาใช้งานสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ราคา BTC ยังไม่เผยว่าเป็นขาขึ้นรอบใหม่อย่างชัดเจน
ขอบคุณภาพจาก Theblock.co
3) อัตรา Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นหนุนราคา BTC
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน อัตราของ Bitcoin Dominance เริ่มมีการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยวิ่งอยู่ในกรอบ 49% – 52% เป็นเวลากว่า 4 เดือน หลังจากมีการพักฐานใหม่เกิดขึ้นในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาของ Digital Asset อื่น ๆ นั้นถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แนวต้านสำคัญของ อัตรา Bitcoin Dominance อยู่บริเวณ 52% ซึ่งเป็นโอกาสให้เดือนตุลาคมนี้ BTC มีโอกาสปรับตัวขึ้นสูงและน่าจับตามองมากกว่า Digital Asset ตัวอื่น ๆ
ขอบคุณภาพจาก Tradingview.com
4) โอกาสอนุมัติ Spot Bitcoin ETF จาก SEC สหรัฐ
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แม้การยื่นอนุมัติ Bitcoin Spot ETF ของ ARK 21Shares จะถูกเลื่อนออกไป แต่ในเดือนตุลาคมนั้นมีบริษัทที่รอการอนุมัติจาก SEC สหรัฐเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ประเด็นนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ตลาดคริปโทฯ และ Bitcoin เป็นที่ยอมรับและเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างไรก็ตาม หาก SEC สหรัฐยังไม่อนุมัติในครั้งนี้และเลื่อนออกไป ปัจจัยนี้ก็ยังไม่กดดันภาพรวมของตลาดเนื่องจาก Final Deadline ของบริษัทต่าง ๆ อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม 2024
ขอบคุณภาพจาก Bloomberg
นายพีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงการวางแผนการลงทุนในเดือนตุลาคมว่า เนื่องจากปัจจัยเชิงพื้นฐานของ Bitcoin ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจนทำให้ Bitcoin Dominance ยังอยู่ในระดับที่สูงและมีหลายปัจจัยบวกสนับสนุนอยู่ในอนาคต
ดังนั้น เดือนตุลาคม Merkle Capital จึงมีมุมมองว่าเทรนด์ Bitcoin ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ Cryptomind Advisory ที่ได้มีการคาดการณ์ว่า BTC อาจขึ้นไปทดสอบที่ราคา 31,500 ดอลลาร์ หากหลุดกรอบราคา 25,500 – 27000 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ นักลงทุนท่านใดต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อประกอบการตัดสินใจสามารถติดต่อได้ที่ Merkle Capital ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของประเทศไทย
นอกจากนี้ แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเหมาะสมกับการลงทุนใน Bitcoin สำหรับระยะยาว แต่เนื่องจาก Bitcoin และ Cryptocurrency ยังเป็นสินทรัพย์การลงทุนใหม่ ที่มีความผันผวนสูง นักลงทุนทุกท่านต้องศึกษาสินทรัพย์นี้ รวมถึงติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเข้าใจความเสี่ยงด้วย ผมแนะนำให้ลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ทุกท่านยอมรับได้ เป็นระดับที่เหมาะสมและสบายใจกับการลงทุน
**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน หากกังวลหรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินหรือหาที่ปรึกษาการลงทุนที่มีความชำนาญเพื่อช่วยเหลือในการตัดสินใจ
Merkle Capital
คำเตือน
สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสนอการลงทุนหรือการจัดการใด ๆ ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื้อหาข้างต้นเป็นการรวบรวมเนื้อหาโดยใช้ข้อมูลในอดีตอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล