ณ นาทีนี้ สถานการณ์เบรกซิทยังฝุ่นตลบ ยังรอความชัดเจนจากบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และทางสหภาพยุโรป (อียู) ว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี
ผมขอเรียงลำดับเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ดังนี้
เริ่มจากเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนโหวตครั้งสำคัญ เพื่อให้เบรกซิท สามารถจบได้ภายใน 31 ต.ค.นี้ โดย ณ วันนั้น รัฐบาลอังกฤษต้องการชนะในการโหวต 2 วาระ ดังนี้ เพื่อต่อลมหายใจการออกจากยุโรปก่อนเส้นตายเบรกซิทสิ้นเดือนนี้ คือ
1.วาระ Second reading หรือ Withdrawal Agreement Bill (WAB) นั่นคือร่างกฎหมายเบรกซิทดีลของบอริส จอห์นสัน โดยให้ ส.ส. แบบรายคน ออกเสียง Yes/No ว่ายังหนุนดีลของบอริส จอห์นสัน
ถ้าเกิดว่าผ่าน จะโหวตต่อด้วยวาระต่อไป ดังนี้
2.วาระ Programme motion หรือการโหวต Timetable เพื่อให้มั่นใจว่าถ้าดีลเบรกซิทนี้ผ่านการโหวตของสภาล่างก่อนวันศุกร์ จะสามารถผ่านเป็นกฎหมายได้ทันก่อน 31 ต.ค.นี้
โดยหากเมื่อคืนวันอังคาร ถ้าเกิดสภาล่างโหวตผ่านทั้ง 2 วาระนี้ ดีลเบรกซิทของบอริสจะมีโอกาสที่จะผ่านเป็นกฎหมายก่อนสิ้นเดือนนี้ มากกว่า 70%
ผลปรากฎว่า แม้ บอริส จอห์นสัน จะชนะในวาระ WAB ด้วยคะแนน 329-299 เสียง ทว่าพ่ายแพ้ในวาระ Timetableหรือบอริสไม่สามารถกำหนดให้เบรกซิทดีลของตนเองออกจากยุโรปตามกรอบเวลาในสิ้นเดือนนี้
หลายฝ่ายรวมถึงตัวผมเองมองว่า บอริส จอห์นสัน มี 2 แนวทาง ในการเดินแผนเบรกซิทต่อ หากท้ายที่สุดแล้ว จิม บรอคอว์ ประธานสภาอังกฤษไม่ยอมให้โหวตวาระ programme in motion หรือ Timetable ที่บอริสพ่ายไปเมื่อคืนวันอังคารนี้อีกรอบ คือ
1. เดินหน้าตามแผนเดิมต่อ หากอียู ตกลงเลื่อนเส้นตายสิ้นเดือนนี้ แบบ Flextension หรือหากสภาอังกฤษโหวตสำเร็จเมื่อไหร่ แล้วอังกฤษก็ออกจากยุโรปได้ทันที หรือ
2. จัดให้มีการเลือกตั้งใหญ่ก่อนสิ้นปีนี้ หากอียู ตัดสินใจขยายเวลาเส้นตายออกไปเป็นเดือน ม.ค.ปีหน้า โดยภายใต้กฎหมาย Fixed-term Parliaments Act มี 3 ทางที่บอริสจะสามารถทำให้การเลือกตั้งใหญ่อังกฤษเกิดขึ้นคือ ทางที่หนึ่ง เสียง 2 ใน 3 ในสภา ซึ่งบอริสก็แป๊กในช่องทางนี้เมื่อเดือนที่แล้ว ถึง 2 ครั้ง ทางที่สอง การใช้คะแนนโหวตครึ่งหนึ่งในสภา ทว่าต้องมีการเปลี่ยนรายละเอียดสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ อาทิ อนุญาตให้วัยรุ่น 16-17 ปีมีสิทธิในการโหวต และ ทางที่สาม หากมีการโหวต No Confidence ต่อนายกรัฐมนตรี บอริสสามารถประกาศการเลือกตั้งใหญ่อังกฤษเให้กิดขึ้น
ทั้งนี้ ระหว่างรอการเลือกตั้งใหญ่ สภามีสิทธิสรรหารัฐบาลรักษาการให้ทำงานอยู่ 14 วันก่อนเลือกตั้งจริง ซึ่งฝ่ายค้านสามารถรวมตัวหาผู้นำใหม่ในการรักษาการนี้ ซึ่งอย่างเร็วที่สุดที่การเลือกตั้งใหญ่จะเกิดขึ้นได้ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ หากบอริสประกาศให้มีการเลือกตั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้
ผมประเมินท่าทีของฝ่ายต่างๆ ของอังกฤษ ณ ตอนนี้ ดังนี้
เริ่มจากพรรคฝ่ายค้าน นำโดยเจโรมี คอร์บิน น่าจะตีเกมให้เบรกซิทยื้อต่อไป ด้วยการเรียกร้องให้เกิดการทำประชามติใหม่ต่อดีลของเบรกซิทของบอริส จอห์นสัน ในขณะที่ นายเอียน แบล็คฟอร์ด หัวหน้าพรรค SNP แห่งสก็อตแลนด์ จะเรียกร้องให้ดีลเบรกซิทนี้ผ่านการยอมรับจากสภาสก็อตแลนด์ก่อน ซึ่งบอริสก็โต้ในประเด็นนี้ทันทีว่าไม่ใช่ธุระของพรรค SNP ในประเด็นนี้
ด้านพรรค LibDem ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าจะขอยกเลิกเบรกซิทดีลนี้ เนื่องจากจะทำให้อังกฤษถอยหลังเข้าคลอง โดย โจ สวินสัน หัวหน้าพรรค LibDem โจมตีว่าพรรคแรงงานของนายคอร์บินก็ยังหนุนเบรกซิทดีลของบอริส เนื่องจากมีคะแนนของพรรคแรงงานไปสนับสนุนวาระ second reading ถึง 19 เสียง แล้วการเลือกตั้งใหญ่จะเกิดขึ้นเพื่ออะไรกัน
ที่มาบทความ: https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/648581