ถือเป็นข่าวเซอร์ไพร์สมากที่ โยชิฮิเดะ ซูกะ นายกฯ ญี่ปุ่น ประกาศไม่ลงชิงตำแหน่ง หัวหน้าพรรค LDP เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้จะต้องมีการสรรหาหัวหน้าพรรค LDP ท่านใหม่ และผู้ที่ได้เป็นหัวหน้าพรรค LDP จะต้องประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่นซึ่งคาดว่าอาจจะไม่เกินสิ้นปีนี้
บทความนี้ จะขอนำเสนอตัวเต็งว่าที่ผู้นำพรรค LDP และนายกรัฐมนตรีท่านใหม่ของญี่ปุ่น ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ดังนี้
ท่านแรก นามว่า ฟูมิโอะ คิชิดะ วัย 64 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สมัยอดีตนายกฯ ญี่ปุ่น ชินโซะ อาเบ้ รวมถึงเป็นคู่ปรับเก่าของ โยชิฮิเดะ ซูกะ นายกฯ ญี่ปุ่นท่านปัจจุบันในช่วงตอนการชิงชัยตำแหน่งผู้นำครั้งล่าสุด โดยคิชิดะถูกมองว่าเป็นคู่ชิงในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจมากที่สุด แถมยังไม่เน้นในการต่อสู้กับจีนในประเด็นการเมืองระหว่างประเทศอีกต่างหาก โดยการประกาศอย่างเป็นทางการในฐานะหนึ่งในผู้ลงชิงชัยในตำแหน่งนายกฯ ญี่ปุ่น คิชิดะต้องการให้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของชาวญี่ปุ่นลดลง พร้อมสนับสนุนด้านการเงินต่อกลุ่มแรงงานที่มีความเปราะบาง อาทิ ผู้ที่ทำงานแบบพาร์ทไทม์และผู้หญิง ในขณะที่ โยชิฮิเดะ ซูกะ จะเน้นช่วยเหลือนายจ้างหรือบริษัทมากกว่าช่วยฝั่งลูกจ้างหรือแรงงาน
สัปดาห์ที่ผ่านมา คิชิดะได้ออกไอเดียว่าด้วยมาตรการแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าหลายสิบล้านล้านเยน เพื่อต่อสู้กับโควิด 19 นอกจากนี้ เขายังย้ำว่าญี่ปุ่นควรจะดำรงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังถูกผลกระทบจากโควิด 19 แบบเต็ม ๆ
โดยก่อนที่นายกฯ ซูกะจะถอนตัวจากการชิงชัยในตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ทางคิชิดะได้กล่าวแซวนายกฯ ซูกะว่า เขาควรจะเปิดกว้างสำหรับทางเลือกต่าง ๆ ต่อชาวญี่ปุ่น ทั้งในประเด็นโควิดและการก้าวต่อไปของเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้มากกว่านี้
ล่าสุด คิชิดะได้เสนอให้มีการชะลอการจัดงานดีเบตเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของญี่ปุ่นออกไป เป็นหลังการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ เพื่อให้แต่ละท่านมีเวลาในการเตรียมตัวอย่างพอเพียง
เมื่อพิจารณาจากมิติด้านการลงทุนแล้ว หากคิชิดะคว้าชัยเป็นหัวหน้าพรรค LDP ขึ้นมาจริง ๆ กองทุนรวมหุ้นญี่ปุ่นที่จะดูน่าสนใจมากขึ้น ได้แก่ กองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน หรือ K-JP
ท่านที่สอง ถือว่าเป็นคู่แข่งขันที่น่าจะไล่บี้กับนายคิชิดะได้อย่างสูสีกัน นามว่า ชิเกรุ อิชิบะ วัย 64 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเคยลงชิงชัยในตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นกับชินโซะ อาเบ้ ทว่าพ่ายแพ้ไปถึง 3 ครั้ง โดยอิชิบะเคยชนะการเลือกตั้งในรอบต้น ๆ ที่มีการโหวตทั่วไปจากชาวญี่ปุ่น จากการที่เขาได้รับความนิยมในหมู่ชาวบ้าน ทว่าพ่ายแพ้กับอาเบ้ในรอบต่อมา ถึง 3 ครั้ง เนื่องจากเขาไม่ค่อยได้รับความสนับสนุนจากนักการเมืองในพรรค LDP มากนัก
ด้านนโยบายเศรษฐกิจ อิชิบะถือว่าเป็นผู้ที่ชอบให้รัฐบาลออกมาตรการที่เน้นงบประมาณเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาส ทว่าไม่เห็นด้วยที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในแง่ของประสบการณ์การทำงานแล้วนั้น อิชิบะน่าจะไม่เป็นรองใครในการชิงชัยรอบนี้
หากพิจารณาจากมิติด้านการลงทุนแล้ว หากอิชิบะคว้าชัยเป็นหัวหน้าพรรค LDP ขึ้นมาจริง ๆ กองทุนรวมหุ้นญี่ปุ่นที่จะดูน่าสนใจมากขึ้น ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น หรือ SCBNK225
ท่านที่สาม หนึ่งในตัวเต็งที่เป็นผู้หญิง นามว่า ซาเน่ ทาไคชิ วัย 60 ปี ถือเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีสมัย ชินโซะ อาเบ้ ที่มีนโยบายและแนวทางที่ใกล้เคียงกับอาเบ้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่ามีนโยบายที่ต่อต้านจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการคุกคามด้านเทคโนโลยี โดยเธอเป็นนักการเมืองหญิงเพียงท่านเดียวที่เพิ่งเปิดตัวลงชิงชัยอย่างเป็นทางการในตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
โฟกัสของเธอคือการสานต่อให้นโยบายเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ตามแนวทาง Abenomics เดิม ให้เดินหน้าต่อไป เพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์อัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ร้อยละ 2 รวมถึงร่างกฎหมายที่จะไม่ปล่อยให้ข้อมูลลับรั่วไหลไปถึงมือของรัฐบาลจีน นอกจากนี้ เธอวางแผนว่าจะออกงบประมาณพิเศษเพื่อต่อสู้กับโควิด 19
ในภาพรวม ทาไคชิถือว่าเป็นผู้ที่มีนโยบายอนุรักษ์นิยมที่สุด โดยเธอได้เดินทางไปคารวะต่ออนุสรณ์สถานที่เพื่อรำลึกถึงทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2 บ่อยครั้งกว่านักการเมืองท่านอื่น รวมถึงต้องการจะให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วสามารถใช้นามสกุลเดิมได้
ตัวเต็งท่านสุดท้าย ซึ่งจะขอนำเสนอ ถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ เขามีชื่อว่า ทาโร่ โคโน วัย 58 ปี ลูกชายของอดีตนักการเมืองญี่ปุ่นที่เคยเป็นเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่กำลังทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลด้านวัคซีนโควิด 19 ที่สถานการณ์กำลังเข้มข้นมากในขณะนี้ เขาเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและกลาโหม รวมถึงงานเกี่ยวกับการปฏิรูปด้านการบริหารของภาครัฐ รวมถึงเป็นนักการเมืองที่ได้รับความนิยมต่อนักการเมืองในพรรค LDP และเป็นขวัญใจชาว Social Media ที่มีแฟนคลับมากที่สุดในบรรดานักการเมืองญี่ปุ่น ณ ตอนนี้
หากพิจารณาจากมิติด้านการลงทุนแล้ว หากโคโนคว้าชัยเป็นหัวหน้าพรรค LDP ขึ้นมาจริง ๆ กองทุนรวมหุ้นญี่ปุ่นที่จะดูน่าสนใจมากขึ้น ได้แก่ กองทุนเปิด แอสเซทพลัส เจแปน ไฮคอนวิคชั่น หรือ ASP–JHC
อย่างไรก็ดี ด้วยความเป็นสมาชิกของกลุ่มของทาโร่ อาโซ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงอาจยังไม่ชัดเจนเสียทีเดียวว่าโคโนจะลงชิงชัยในตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP รอบนี้แบบแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่
MacroView
ที่มาบทความ: http://www.macroviewblog.com/blog/business/ldpelect21/