ผลการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นของโตเกียวที่ออกมาแบบน่าตกใจ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าเสถียรภาพทางการเมืองของญี่ปุ่น ที่ว่านิ่งมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มจะออกอาการทรุดลงให้เห็นอย่างชัดเจน โดยพรรค LDP ของรัฐบาลได้ที่นั่งเพียง 23 เก้าอี้จากทั้งหมด 127 ตำแหน่ง โดยลดลงกว่าครั้งที่แล้วมากกว่าครึ่ง พ่ายแพ้ให้กับพรรค Tokyoites First ของผู้ว่าการเมืองโตเกียวคนปัจจุบัน นางยูริโกะ โคอิเกะ ที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้เพียงหนึ่งปี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมที่ลาออกจากพรรค LDP ด้วยความเบื่อระบบพรรคพวกของพรรคจึงไปตั้งพรรคใหม่ ซึ่งกวาดที่นั่งไปถึง 79 ที่ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
สอดคล้องกับผลการสำรวจความนิยมต่อนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ของหนังสือพิมพ์ชื่อดังของญี่ปุ่น ปรากฏว่าลดลงเหลือ 39% ตกลงจากช่วงหลังการเลือกตั้งใหญ่ปลายปี 2012 ที่ 53%
คำถามคือทำไมเป็นเช่นนั้น สถานการณ์ทางการเมืองญี่ปุ่นที่พลิกผลันไปแบบน่าตกใจ ผมมองว่ามาจากสาเหตุอยู่อย่างน้อย 3 ประการ ได้แก่
1. สัญญาณคอร์รัปชันที่ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆภายใต้รัฐบาลของนายอาเบะ
ตัวอย่างที่ชัดเจนและได้รับการวิพากษ์วิจารณ์แบบเผ็ดร้อน คือกรณีที่มีการกล่าวหาว่านายคาเก้ กาคูเอน เพื่อนสนิทของนายอาเบะ ว่าได้อาศัยอำนาจของรัฐบาลนายอาเบ้เร่งรัดกระบวนการการตั้งคณะสัตวแพทย์ขึ้นใหม่ ของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในเขตเอฮิเมะ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอิสระพิเศษ ที่ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลและทำตามเงื่อนไข 4 ประการตามกฎหมายที่ออกมาในปี 2015 จากรัฐบาลของนายอาเบะเอง
อย่างไรก็ดี เพื่อให้นายคาเก้สามารถเปิดคณะดังกล่าวขึ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ตามคำอภิปรายอย่างเผ็ดร้อนของนักการเมืองในสภา Diet เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว รัฐบาลนายอาเบะได้เพิ่มเงื่อนไขว่าพื้นที่ใกล้เคียงกับคณะดังกล่าวต้องไม่มีการเปิดสอนวิชาดังกล่าว ซึ่งทำให้อีกมหาวิทยาลัยที่เป็นคู่แข่งกับนายคาเก้ต้องถอนตัวออกไป เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้เขตโอซาก้าที่มีการเปิดสอนวิชาดังกล่าว ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เพื่อนของตนเอง
ข้อกล่าวหาดังกล่าวถือเป็นวิกฤติความเชื่อมั่นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่งที่ผ่านมาของรัฐบาลของนายอาเบะ
2. ความประมาทและความหลงระเริงกับความนิยมของพรรคตนเอง
ทั้งนายอาเบะ รวมถึงนายโยชิฮิเดะ ซูก้า หัวหน้าคณะรัฐมนตรีและเลขาฯรัฐบาล ที่ไม่ยอมรับคำวิจารณ์ของคนอื่นนอกรัฐบาล ด้วยเหตุผลที่ว่าพรรคของตนเองมีเสียงข้างมากทั้งในสองสภา ความอ่อนแอและไร้เอกภาพของพรรคฝ่ายค้านและการไม่มีปัญหาใหญ่ภายในพรรคของตนเอง
นอกจากนี้ ทัศนคติความรักชาติของนายอาเบะที่จะทำข้อเสนอเพื่อเขียนกฎหมายว่าด้วย war-renouncing หรือ Article 9 ขึ้นมาใหม่ ก็ทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลนายอาเบะตกลงเช่นกัน
3. ความไม่เป็นกลางในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาของคนในรัฐบาล
ที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากคือสุนทรพจน์ของรัฐมนตรีกลาโหม ที่ส่อไปในทางสนับสนุนผู้สมัครของพรรค LDP ในการเลือกตั้งท้องถิ่น
นอกจากนี้ ประเด็นที่ยังข้องใจกันอยู่ในตอนนี้ว่าจริงหรือมั่วนิ่ม คือข่าวที่หลุดลอดมาจากหนังสือพิมพ์บางฉบับในญี่ปุ่น ว่าตัวนายอาเบะเองมีปัญหาสุขภาพแบบจริงจัง แม้จะถือว่าค่อนข้างหนุ่มสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในวัย 63 ปี ถึงขนาดต้องเข้าไปตรวจสุขภาพตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ในคลับราคาแพงที่ประวัติการตรวจของสมาชิกจะถือเป็นความลับส่วนตัว
แม้จะมีความชัดเจนว่าน่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีในเดือนหน้า ทว่าคาดว่าจะเป็นการปรับเพียงบางตำแหน่ง และตำแหน่งเล็ก ๆ เท่านั้น
ผมจึงมองว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่น หากพิจารณาในช่วงสั้นก็ยังถือว่าดูน่าสนใจ ทว่าหากมองไปข้างหน้าในระยะเวลา 1-2 ปี ดูจะลดความน่าสนใจให้เหลือแค่ neutral ด้วยความเสี่ยงของรัฐบาลญี่ปุ่นที่กล่าวไว้ข้างต้นครับ