แสนสิริเปิดตัวคอนโดแพงสุดในประเทศที่ถนนวิทยุราคา 650 ล้านบาท ลือกันว่ามีเจ้าของคิงพาวเวอร์ซื้อไปแล้ว แล้วคนอื่นหล่ะใครจะซื้อคอนโดนี้ได้บ้าง โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อปี 200,000 บาทจะต้องทำงานถึง 10 ปีเพื่อเก็บเงินซื้อที่ดินเพียง 1 ตารางวาบนถนนเพลินจิต และต้องทำงานถึง 3,250 ปีเพื่อซื้อคอนโดนี้ แต่ถ้าเป็นเจ ชนาธิป นักฟุตบอลที่เก่งสุดในไทยได้เงินเดือน 6.5 แสนบาท อาจจะใช้เวลาเก็บเงินเพียง 84 ปี เพื่อซื้อคอนโดนี้ ถ้ารวมรายได้จากค่าโฆษณาหรือสปอนเซอร์ด้วยก็คงใช้เวลาเร็วกว่านี้

แล้วใครบ้างที่สามารถซื้อคอนโดนี้ได้อย่างสบาย?

เมสซี่นักฟุตบอลที่เก่งสุดในโลกได้เงิน 752 ล้านบาทต่อปีมากกว่ารายได้ของเจ ชนาธิป ถึง 100 เท่า ทำให้ซื้อคอนโดได้โดยใช้เวลาเก็บเงินเพียง 10 เดือน แต่รายได้ของเมสซี่ก็ยังน้อยกว่า รายได้ของ Sundar Pichai CEO บริษัท Google อยู่ถึง 5 เท่า คุณ Pichai เก็บเงิน 2 เดือนก็น่าจะซื้อคอนโดนี้ได้

อย่างไรก็ตามทรัพย์สินของเมสซี่ที่สะสมไว้ตอนนี้มีมูลค่ามากถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับทรัพย์สินของ ต๊อบเจ้าของสาหร่ายเถ้าแก่น้อย แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับทรัพย์สินของตระกูลเบียร์ช้างหรือซีพี ที่มีระดับแสนล้านบาท ซึ่งใช้เงิน 0.1% ของทรัพย์สินของพวกเขาก็ซื้อคอนโดนี้ได้

แต่เหนือไปกว่านั้นทรัพย์สินทั้งหมดของ 2 ตระกูลนี้ที่สะสมมาทั้งชีวิต ก็ยังน้อยกว่า Mark Zuckerberg ที่มีอายุเพียง 32 ปี ซึ่งก่อตั้ง Facebook เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ทำไมทรัพย์สินของ Mark Zuckerberg ถึงมากขนาดนั้น? เพราะว่าตอนนี้มูลค่าบริษัท Facebook ใหญ่ใกล้เคียงกับขนาดเศรษฐกิจไทยทั้งประเทศแล้ว และมากกว่ามูลค่าของบริษัทเก่าแก่อย่าง Coke และ Toyota รวมกันเสียอีก

และ Mark Zuckerberg คงจะสามารถซื้อคอนโดแพงสุดในไทยได้โดยใช้เงินเพียง 0.03% ของทรัพย์สินของเขา

เรื่องทั้งหมดนี้อาจจะทำให้คิดได้ว่าโลกนี้ยังมีความเหลื่อมล้ำอยู่มากจริงๆ คนรวยที่สุดเพียงไม่กี่คนอาจจะมีเงินมากกว่าคนธรรมดาทั้งหมดรวมกัน

สรุปตัวเลขของมูลค่าทั้งหมดที่ได้รวบรวมมา (หน่วยเป็นบาท)

รายได้เฉลี่ยต่อปีของคนไทย……………………………..200,000
รายได้เฉลี่ยต่อปีของคนจีน……………………………….220,000
รายได้เฉลี่ยต่อปีของคนอเมริกา……………………….1,700,000
ที่ดิน 1 ตารางวา ถนนเพลินจิต…………………………2,000,000
รายได้ต่อปีของ เจ ชนาธิป……………………………..8,000,000
คอนโดแพงที่สุดในไทย……………………………..650,000,000
รายได้ต่อปีของ Lionel Messi…………………….752,000,000
รายได้เฉลี่ยต่อปีของ CEO Google…………..3,500,000,000
มูลค่าบริษัทขนมหวาน after you……………..8,000,000,000
ทรัพย์สินของ ต๊อบ เถ้าแก่น้อย………………..11,000,000,000
ทรัพย์สินของ Lionel Messi…………………..12,000,000,000
ร้านอาหาร MK……………………………………53,000,000,000
มูลค่าโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ……………..130,000,000,000
ทรัพย์สินตระกูลสิริวัฒนภักดี………………..490,000,000,000
มูลค่าบริษัทธนาคารไทยพาณิชย์…………..520,000,000,000
ทรัพย์สินตระกูลเจียรวนนท์…………………..660,000,000,000
มูลค่าบริษัท ปตท…………………………….1,100,000,000,000
ทรัพย์สินของ Mark Zuckerberg……….2,000,000,000,000
มูลค่าบริษัท Starbucks……………………2,900,000,000,000
มูลค่าบริษัท Nike……………………………3,400,000,000,000
มูลค่าบริษัท Toyota………………………..6,000,000,000,000
ทุนสำรองประเทศไทย……………………..6,300,000,000,000
มูลค่าบริษัท Coke…………………………..6,300,000,000,000
มูลค่าบริษัท Facebook…………………..13,700,000,000,000
ขนาดเศรษฐกิจไทย……………………….14,000,000,000,000
เงินฝากธนาคารของคนไทย……………..16,000,000,000,000
มูลค่าบริษัท Google………………………20,000,000,000,000
มูลค่าบริษัท Apple ……………………….25,000,000,000,000
ทุนสำรองประเทศจีน…………………….109,000,000,000,000
ขนาดเศรษฐกิจญี่ปุ่น……………………..161,000,000,000,000
ทองคำที่ขุดมาแล้วทั้งหมดบนโลก……210,000,000,000,000
ขนาดเศรษฐกิจจีน ……………………….367,000,000,000,000
ขนาดเศรษฐกิจอเมริกา………………….609,000,000,000,000
ขนาดเศรษฐกิจของโลก……………..2,800,000,000,000,000
อสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดบนโลก…….7,600,000,000,000,000