แพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ $1.9 ล้านล้านกำลังมา ไบเดนเดินหน้าผลักดันโปรเจคต่อไป “แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน $2 ล้านล้าน” มิใช่แค่สร้างถนนซ่อมสะพานดังเช่นในอดีต แต่มุ่งแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (climate change) ตั้งเป้าขจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหลือศูนย์ภายในปี 2035 หนุนจ้างงานเพิ่มหลายล้านตำแหน่ง

เตรียมพบกับกองทุนใหม่ KT-CLIMATE ซึ่งจะ IPO ในวันที่ 15-23 มี.ค. 2564 โดยตอนนี้กองทุนได้รับอนุมัติจาก กลต. เรียบร้อยแล้ว

นักการเมืองทั้ง 2 พรรคใหญ่ของสหรัฐเห็นตรงกันว่าควรผลักดัน infrastructure bill แต่กว่าจะคลอดออกมาได้คงต้องต่อรองเพื่อหาทางออกอย่างน้อย 2 เรื่องได้แก่ ขนาดเม็ดเงินลงทุน และ วิธีจัดหาเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการก่อหนี้ออกพันธบัตรเพิ่ม ตลอดจนการขึ้นภาษี

หลังประติดประต่อเรื่องราวและปัจจัยรอบด้าน เราวางสมมติฐานเพื่อใช้เป็น “แผนที่ลงทุน” (ซึ่งยืดหยุ่นอาจปรับเปลี่ยนตามข้อมูลใหม่ได้) ดังนี้

1. เงินเฟ้อสหรัฐจะเร่งตัวขึ้นอีกในระยะสั้นถึงปานกลาง และกำหนดทิศทางการลงทุนต่อไปอีกเป็นเดือน ๆ ตลาดคงยังไม่ “ก้าวข้าม” ปัจจัยเงินเฟ้อไปในเร็ว ๆ นี้
2. ยีลด์พันธบัตรอายุยาวคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไปอีกพักใหญ่ โดยการย่อลงที่ผ่านมาและอาจจะมีอีกเป็นพัก ๆ ในอนาคต น่าจะเป็นเพราะเทรดเดอร์ที่ขายชอร์ตพันธบัตร ทำการซื้อกลับเพื่อปิดสถานะ take profits ยีลด์จึงย่อลงพักฐานแค่ระยะสั้นก่อนขึ้นต่อ
3. เฟดจะทำตามที่สื่อสารไว้ “ไม่ขวางทาง” ปล่อยยีลด์พันธบัตรปรับตัวขึ้น จากระดับปัจจุบันซึ่งยังต่ำกว่าในอดีต เรามองว่าตัว 10 ปีอาจไปไกลถึง 2% แต่มิได้เจาะจงเป้าหมายในใจ แค่อยากย้ำว่า upside ยังมีให้ยีลด์พันธบัตรขึ้นต่อได้อีกเยอะพอควร
4. เฟดจะ “อดทน” กับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในระยะสั้น จนกระทั่งมั่นใจว่า ความคาดหวังเงินเฟ้อระยะยาว เช่น 5-Year, 5-Year Forward Inflation Expectation สามารถทรงตัวเหนือ 2% อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เฟดคงจะ “กล้า” ส่งสัญญาณเตรียมลด QE และ/หรือขึ้นดอกเบี้ย ก็ต่อเมื่อแน่ใจจริง ๆ ว่า ถ้าหากสื่อสารออกไป ความคาดหวังเงินเฟ้อระยะยาวจะไม่ปักหัวทิ่มลงมาเพราะตลาดกลัว policy mistake

สมมติฐาน 4 ประการบ่งชี้ว่า rotation รอบนี้จริงจังและยาวนานกว่าครั้งก่อน ๆ เงินลงทุนน่าจะยังคงหมุนออกจาก “หุ้นราคาแพงลิ่วซึ่งตั้งอยู่บนความฝันถึงกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตไกลมาก” แล้วไปหา “หุ้นที่กำลังฟื้นตัวในปัจจุบันและระยะใกล้”

“แผนที่” ชี้ไปยัง “หุ้นไทย” ลงทุนรับเศรษฐกิจฟื้นและ upgrade กำไรบริษัทจดทะเบียน หลังวัคซีนโควิดเข้าเทียบท่าเมืองท่องเที่ยวระดับท็อปของโลก เงินเฟ้อเร่งขึ้น (ไทยเงินเฟ้อต่ำมากเลยยินดีต้อนรับเงินเฟ้อ) และรับประโยชน์ทางอ้อมจากราคาโภคภัณฑ์ขาขึ้น (เสี่ยงน้อยกว่าลงทุนหุ้นโภคภัณฑ์ตรง ๆ เพียว ๆ )

กองทุนเปิดกรุงไทย สมาร์ท อิควิตี้ ฟันด์ (KTEF) บริหารเชิงรุกเต็มสูบด้วยนโยบายกว้างและยืดหยุ่น เปิดทางผู้จัดการกองทุนหมุนเวียนเปลี่ยนธีม เตรียมทะยานไกลไปกับ “ขาขึ้นจริงจัง” เสริมทัพด้วยเครื่องมือที่คุ้นเคย KT-CLMVT-A ลงทุนเวียดนามราว 70% ณ สิ้น ม.ค. ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นไทยและสภาพคล่อง รับโอกาสโตและสตอรี่ MSCI (เวียดนามมีโอกาสเลื่อนชั้นสู่ emerging markets) จากนี้ไปได้ลุ้นสนุกแน่!

สับเปลี่ยนบางส่วน (20%) ออกจาก KTSTPLUS-A
สับเปลี่ยนเข้า KTEF = 10%
สับเปลี่ยนเข้า KT-CLMVT-A = 10%

หมายเหตุ: หากคำนวณสัดส่วนโดยประมาณ เวียดนาม:ไทย = 70:30 ใน KT-CLMVT-A เมื่อลงทุนกองละ 10% ดังกล่าว จะเท่ากับเติมหุ้นไทย 13% และหุ้นเวียดนาม 7% เข้าพอร์ต

Belief Allocation มั่นใจ กองทุนหุ้นที่มีอยู่เดิม “สมดุล” และ “กระจาย” ดีพอ ถือต่อไปได้ ตามที่อธิบายไว้ในบทความ “Correction แก้ไขให้ถูกต้อง”

KT-ASIAG-A หุ้นเอเชียสไตล์ Growth & Quality ซื้อการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ณ ราคาสมเหตุผล

KT-ASHARES-A “สมดุลด้วยกรอบนโยบาย” sector neutral

KT-CHINA-A “สมดุลด้วยสไตล์ยืดหยุ่น” แสวงโอกาสได้ทั้ง new economy และ old economy

KT-WTAI-A “สมดุลด้วย Universe” #เป็นมากกว่าหุ้นเทค เพราะธีม AI ลงทุนได้หลากหลาย sectors

ส่วนอสังหาฯ & โครงสร้างพื้นฐาน KT-PIF-A “ไม่พูดเยอะ” เห็นกันแล้วว่านี่คือ “บอลถึงเวลา”

Krungthai Asset Management

สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Krungthai Belief Allocation สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >>แอปฯ FINNOMENA
ผ่านคอมพิวเตอร์ >>  เว็บไซต์ FINNOMENA

สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Krungthai Belief Allocation คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน

คำเตือน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน |  ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด มหาชน หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”