Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองเดือนกันยายน 2021: หุ้นโลกยังได้รับแรงหนุน แม้อาจมีปัจจัยรบกวน

มุมมองตลาดปัจจุบัน

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกค่อนข้างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า และความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดมาตรการซื้อสินทรัพย์และขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐ ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง และเฟดส่งสัญญาณว่าการปรับลดมาตรการซื้อสินทรัพย์ไม่มีความเชื่อมโยงกับการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาปรับตัวสูงขึ้น

ในด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ถึงแม้ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลง แต่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด และรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นนมากกว่าที่คาดเช่นกัน สะท้อนว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังคงสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป

ในขณะที่ทางฝั่งยุโรป ภาคการผลิตยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาคอขวดของอุปทาน ส่งผลให้ผู้ผลิตไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ดี ภาคบริการเติบโตอย่างแข็งแกร่งหลังการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ

ส่วนเศรษฐกิจจีน ตัวเลขเศรษฐกิจยังคงเติบโตในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากผลของฐานต่ำหมดไป ในขณะที่ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ และการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น

สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายังคงได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ในขณะที่ภาคการส่งออกยังคงเติบโตสูง อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยกลับปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นหลักทั่วโลก และปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในอาเซียน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ส่งผลให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล๋อคดาวน์และกลับมาเปิดเศรษฐกิจบางส่วน

ทางเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง รวมถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง  โดยคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ แต่อาจมีปัจจัยรบกวนจากแนวโน้มการขึ้นภาษีนิติบุคคลของสหรัฐ และการกลับมาระบาดรอบใหม่ของโควิด-19  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปน่าจะได้แรงหนุนมากขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์  ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนน่าจะได้ประโยชน์จากการเติบโตของการค้าโลก ท่ามกลางความเสี่ยงที่รัฐบาลจีนอาจมีมาตรการควบคุมธุรกิจมากขึ้น

สำหรับตลาดหุ้นไทย หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน และมีการฉีดวัคซีนได้มากขึ้น รวมถึงภาคการส่งออกที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง น่าจะส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น

ในส่วนของตราสารหนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นยังคงให้ผลตอบแทนต่ำมาก

พอร์ตการลงทุน

กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์/ภูมิภาค

กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ

KFAFIX-A:

  • กองทุนกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง – ยาว ยังคงได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่อาจยังคงเผชิญกับความเสี่ยงด้านลบอยู่อีกมาก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในระลอกที่ 3 ที่ยังไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นได้ในเร็ววัน ทำให้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยนายของไทยจะอยู่ในระดับต่ำยาวนาน ถึงแม้ว่าเฟดอาจเริ่มส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปี 2566 ถึง 2 ครั้ง ปัจจัยหลักดังกล่าวยังคงทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่ผันผวนสูงและอาจปรับขึ้นได้ในระยกลางถึงยาว หากแต่ในระยะสั้น US treasury yield 10 ปี ยังคงผันผวนและปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 30% อีกครั้ง สำหรับตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยยังคงได้รับประโยชน์จากการปรับตัวลดลงของส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Corporate spread) ในกลุ่มหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง ทำให้กองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนจะได้รับประโยชน์จากสัดส่วนการลงทุนนี้เพิ่มเติม จึงทำให้คาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนกลุ่มนี้ยังคงมีความน่าสนใจโดยเฉพาะสำหรับเงินลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น อาทิเช่น กองทุน KFAFIX-A ขั้นต่ำ 1 ขึ้นไป โดยปัจจุบันกรอบ Duration เฉลี่ยของกองทุน  KFAFIX-A = 2 – 3 ปี

กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ

KF-SINCOME/ KF-CSINCOM:

  • กองทุนมองว่าเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ปัจจัยชั่วคราว โดยเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับปัจจุบันยาวนานกว่าที่คาด อันเกิดจากภาคธุรกิจที่กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง, สินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับต่ำ, ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน, การกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากภาครัฐ และ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจัยระยะยาวที่น่าจะทำให้เงินเฟ้าอยู่ในระดับต่ำอีกครั้งคือ การทำ automation ที่มากขึ้นในภาคอุตสาหกรรม

กองทุนตราสารทุนในประเทศ

KFENS50-A:

  • กองทุนเน้นการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET 50

กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ Developed market equity

KFGBRAND-A/KFGBRAND-D:

  • กองทุนลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพสูง เติบโตสม่ำเสมอในระยะยาว จึงควรมีไว้ในพอร์ต เพื่อลดความผันผวน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ความผันผวนอาจกลับมาได้ตลอดเวลา

KF-HUSINDX:

  • ตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สนับสนุนด้วยการเปิดประเทศหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid 19 ไปแล้วกว่า 48% อีกทั้ง ตลาดยังคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามความผันผวนในตลาดยังมีอยู่โดยเฉพาะเมื่อเฟดเริ่มมีการส่งสัญญาณถึงการลดการทำ QE

KF-EUROPE/ KF-HEUROPE :

  • ตลาดยุโรปยังคงได้แรงส่งจากการกลับมาเปิดประเทศและการเร่งฉีดวัคซีนที่ทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจยุโรปทยอยฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตามองการระบาดของสายพันธ์ใหม่ที่อาจกดดันประสิทธิภาพของวัคซีน และความผันผวนในตลาดที่อาจเพิ่มขึ้น หากเฟดเริ่มส่งสัญญาณว่าจะลดการทำ QE ทั้งนี้กองทุนหลักเน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมและ IT โดยเน้นหุ้นคุณภาพที่มีอัตราการเติบโตของรายได้และเป็นผู้เล่นขนาดใหญ่ในตลาด

KF-GTECH :

  • ความกลัวเรื่องเงินเฟ้อผ่านจุด Peak ไปแล้ว และแรงกดดันจากการ Rotation เบาบางลง ทำให้ Momentum ของอุตสาหกรรมกลับมา หลังจากที่ตลาดเริ่มมองหาหุ้น Growth อีกครั้ง

KFHHCARE :

  • พื้นฐานที่แข็งแกร่ง เติบโตต่อเนื่อง ราคาถูก ณ ปัจจุบัน Momentum ของอุตสาหกรรมกลับมา หลังจากที่ตลาดเริ่มมองหาหุ้น Growth อีกครั้ง

Emerging market equity

KFACHINA-A:

  • ตลาดจีนยังคงมีความผันผวน โดยความเสี่นงหลักยังคงมาจากแรงกดดันของภาครัฐ ที่เข้ามาควบคุมในกลุ่มเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้นไปที่การคววบคุมการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อีกทั้งเรื่องการแข่งขันที่เท่าเทียม นอกจากกลุ่มเทคโนโลยีแล้วทางการยังออกกฏควบคุมกลุ่มการศึกษาเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ในภาพเศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งการบริโภคในประเทศและภาคการผลิตที่ยังสามารถขยายตัวได้ดี

หมายเหตุ:

  • กองทุน KFGBRAND-A, KFGBRAND-D, KF-EUROPE, KFACHINA-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • กองทุน KF-SINCOME, KF-CSINCOM, KFAINCOM-A, KFAINCOM-R, KF-HUSINDX, และ KF-HEUROPE ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

คำเตือน  ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต  กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้   กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น   กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย  เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757

TSF2024