Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนมีนาคม 2024 : ผลตอบแทนสะท้อนทิศทางดอกเบี้ยขาลง

มุมมองตลาดปัจจุบัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากช่วงปลายเดือนแรกของปีนี้ โดยตัวเลขเงินเฟ้อของหลายประเทศที่ออกมาสูงกว่าที่คาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแรงในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะกลับมาปรับตัวสูงขึ้น โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯที่ออกมาแข็งแกร่ง และตัวเลขเศรษฐกิจของหลายประเทศมีแนวโน้มในเชิงบวก ทั้งนี้ นักลงทุนลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยคาดว่าเฟดอาจประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้  ทางด้านตลาดหุ้นจีนฟื้นตัว หลังทางการจีนทยอยออกมาตรการรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้น

สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน แต่เป็นการปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก  โดยเป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจ หลังจีดีพีไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วโตต่ำกว่าที่คาด และหลายหน่วยงานปรับลดคาดการณ์จีดีพีของไทยในปีนี้ ส่งผลให้มีแนวโน้มที่คาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯจะถูกปรับลง

ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ตามการปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้มีความผันผวนไปตามคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดี แนวโน้มของผลตอบแทนกองทุนยังคงสะท้อนถึงทิศทางดอกเบี้ยขาลง

ทั้งนี้ ตลาดยังคงจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าเฟดจะเริ่มประกาศลดดอกเบี้ยเมื่อใด ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯที่ยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าที่ประเมินไว้  ในขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้นจากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ดังนั้น ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้จึงมีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดี  สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ ท่าทีเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และสถานการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลาง

พอร์ตการลงทุน

Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนมีนาคม 2024

 

 

ที่มา: เอกสารปรับพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่ 1 มีนาคม 2024

Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนมีนาคม 2024

ที่มา: เอกสารปรับพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่ 1 มีนาคม 2024

กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์/ภูมิภาค

กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ

KFAFIX-A:

  • กองทุนกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ด้านมุมมองเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย คาดการณ์ว่าการดำเนิน นโยบายการเงินในระยะถัดไป มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เนื่องด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามคาด ทั้งจากปัญหาเชิงโครงสร้าง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐที่ล่าช้า ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะปรับพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำกำไรส่วนเพิ่มจากความผันผวนของตลาด โดยกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชนในระดับสูง ยังคงสามารถช่วยลดความผันผวนของตลาดลงได้ โดยคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนกลุ่มนี้มีความน่าสนใจสำหรับเงินลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการ สภาพคล่องในระยะสั้น อาทิเช่น กองทุน KFAFIX (ขั้นต่ำ 1 ปี ขึ้นไป) โดยปัจจุบันกรอบ Duration เฉลี่ยของกองทุน KFAFIX = 1.6 – 2.2 ปี

กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ

 KF-CSINCOM:

  • กองทุนลดอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ตลง เพื่อสร้างผลตอบแทนจากสภาวะตลาดในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้อายุประมาณ 10 ปี ของสหรัฐฯ และปิดสถานะชอร์ตของตราสารหนี้ในอังกฤษ รวมถึงลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ High Yield ขณะที่เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อค้ำประกัน (MBS) ของภาคเอกชน

กองทุนตราสารทุนในประเทศ

KFDYNAMIC:

  • กองทุนที่เน้นการเฟ้นหาหุ้นที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละภาวะตลาด (KFDNM-D หรือ KFDYNAMIC) มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีในระยะกลางถึงยาว ตามผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่กองทุนคัดเลือกลงทุน

กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ Developed Market Equity

KFUSINDX:

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มที่มีการเติบโตสูงและหุ้นเทคโนโลยีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ส่งสัญญาณว่าการลดดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมอาจเป็นไปได้ยาก อีกทั้งหากภาพรวมการจ้างงานยังออกมาแข็งแกร่งและเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น อาจทำให้ Fed ตัดสินใจชะลอการลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้

KFHTECH:

  • หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/66 ของกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ออกมาในระดับที่ดีกว่าคาด นอกจากนี้กลุ่มเทคโนโลยียังมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจาก Theme AI และการฟื้นตัวของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมีระดับการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิที่สูงกว่าตลาดโดยรวม รวมถึงแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed

กองทุนที่ลงทุนทั่วโลก

KFGBRAND-A:

  • กองทุนเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูง รวมถึงมีรายได้ และกำไรเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยมีลักษณะเป็นหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ (Defensive Quality) อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่เหมาะกับช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว

กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศตลาดกำลังพัฒนา

KF-INDIA:

  • ตลาดหุ้นอินเดียยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาตลาดอินเดียได้รับแรงส่งจากเงินลงทุนของต่างชาติ และเศรษฐกิจของอินเดียที่เริ่มทยอยฟื้นตัว ประกอบกับแรงกดดันทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่น้อยกว่าจีน ทำให้ตลาดอินเดียปรับตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีอาจต้องระวังเรื่องการประเมินมูลค่าที่ปรับขึ้นไปค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต

KFACHINA-A:

  • ตลาดหุ้นจีนปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากนโยบายกระตุ้นรอบใหม่ โดยตลาดได้แรงส่งจากนโยบายของธนาคารกลางจีนที่มีการลดอัตราส่วน RRR ของธนาคารจีนลง 50 bps อีกทั้งยังมีแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากการเข้าซื้อ ETFs ตลาดหุ้นจีนของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจีนต้องการสนับสนุนการบริโภคให้กลับมาขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในช่วงก่อนตรุษจีน อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของตลาดจีนยังคงมีความผันผวน เนื่องด้วยประเด็นเรื่องการชะลอตัวของภาคอสังหาฯ และความเสี่ยงด้านธนาคาร


ที่มา: เอกสารปรับพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่ 1 มีนาคม 2024

คำเตือน  ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้   กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น   กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย  เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

TSF2024