มุมมองตลาดปัจจุบัน

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกค่อนข้างผันผวน โดยในช่วงต้นเดือนตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งสามารถติดเชื้อได้ง่ายและแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า รวมถึงความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งการลด QE และขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด  อย่างไรก็ดี หลังจากข้อมูลล่าสุดยังคงยืนยันว่าอาการจากการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนไม่รุนแรง ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวล  ในขณะที่เฟดเร่งลด QE พร้อมทั้งส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดการณ์เดิมเป็นสิ่งที่ตลาดไว้อยู่แล้ว จึงไม่ส่งผลลบต่อตลาด อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ส่งผลให้นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น

สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาผันผวนไปตามตลาดโลก แต่ปรับตัวแย่กว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่หลังรัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศเพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ส่งผลให้กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับการเปิดเมืองฉุดตลาดลง

ทางเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นในระยะยาว โดยคาดว่าโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่มาก และคาดว่าเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อและทิศทางการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจหลักเป็นสิ่งที่ตลาดคาดอยู่แล้ว

ในส่วนของตราสารหนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ถึงแม้มีความเสี่ยงจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก็ตาม เนื่องจากตลาดได้ตอบรับการขึ้นดอกเบี้ยไปพอสมควรแล้ว จึงเปิดโอกาสในการที่จะสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นหากตลาดปรับตัวลดลงมากเกินไป ในขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นมีความน่าสนใจมากขึ้นในแง่ของความปลอดภัยและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนในปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำมาก จึงยังไม่เหมาะสมที่จะปรับเพิ่มเข้ามาในพอร์ตในระยะนี้

พอร์ตการลงทุน

ในเดือนนี้มีการปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อรองรับทิศทางเศรษฐกิจในปี 2565 โดยกองทุนหุ้นไทยมีการเปลี่ยนจาก KFENSET50 เป็น KFDYNAMIC เนื่องจากคาดว่าในปี 2565 ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวได้ดีตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่มีโอกาสเติบโตดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้  อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของหุ้นไทยในปี 2565 มีแนวโน้มแตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกลงทุนในกองทุนหุ้นที่มีการคัดเลือกหุ้นรายตัว และสามารถลงทุนได้ในหุ้นที่หลากหลายประเภทโดยไม่มีข้อจำกัดในด้านนโยบายการลงทุนน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดี

ในส่วนของ Satellite Holding มีการปรับเอา KF-GTECH ออก เนื่องจากกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นมามากแล้ว และมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยคัดเลือก KFACHINA-A กลับเข้ามาแทน เนื่องจากรัฐบาลจีนประกาศชัดเจนว่านโยบายเศรษฐกิจในปี 2565 จะผ่อนคลายและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม  ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนในปี 2564 ปรับตัวลงมามาก สวนทางกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีนเพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดี

Krungsri The Masterpiece ปรับพอร์ตประจำเดือนมกราคม 2022: เปลี่ยนหุ้นเทคโนโลยี เพิ่มหุ้นจีน

กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์/ภูมิภาค

กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ

KFAFIX-A:

  • กองทุนกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง – ยาว มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับคามผันผวนต่อไป จากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯมีแนวโน้มเร่งการลดปริมาณการอัดฉีดสภาพคล่องลงอีก และคาดว่าจะสิ้นสุด QE ก่อนกลางปี 2565 อีกทั้ง Jerome Powell ส่งสัญญาณว่าอาจถึงเวลาแล้วที่ต้องเลิกใช้คำว่า “ชั่วคราว” เพื่อบรรยายกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ทำให้ตลาดคาดการ์ณว่า Fed อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในมิ.ย. 65 และปรับขึ้นถึง 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ณ ปัจจุบันสำหรับรุ่นอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงสู่ระดับ 60% – 0.69% เทียบกับอายุ 10 ปี ที่ยังคงมีเสถียรภาพอยู่ในกรอบ 1.40%-1.70% โดยเส้นอัตราผลตอบแทนมีลักษณะแบนราบลง สำหรับสถานนการณ์ Covid-19 ในประเทศไทยที่คลี่คลายลงมาก พร้อมกับการเปิดประเทศ ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้บ้าง อย่างไรก็ตามเรายังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป หากแต่ในระยะสั้น ยังคงจะมีความผันผวนสูงตามปริมาณอุปทานที่ออกเสนอขายในตลาดมากขึ้น สำหรับตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยยังคงได้รับประโยชน์จากการปรับตัวลดลงของส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Corporate spread) ในกลุ่มหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง ทำให้กองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนสามารถลดความผันผวนลงได้บ้างจากสัดส่วนการลงทุนนี้ คาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนกลุ่มนี้ยังมีความน่าสนใจโดยเฉพาะสำหรับเงินลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น อาทิเช่น กองทุน KFAFIX-A ขั้นต่ำ 1 ปีขึ้นไป โดยปัจจุบันกรอบ Duration เฉลี่ยของกองทุน KFAFIX-A = 2-3 ปี

กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ

KF-SINCOME/ KF-CSINCOM:

  • กองทุนลดอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ลงเล็กน้อย โดยเพิ่มสถานะชอร์ตบนตราสารหนี้อังกฤษและตราสารหนี้ป้องกันเงินเฟ้ของอังกฤษ จากความคาดหวังด้านอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และการปิดความเสี่ยงด้านค่าเงินบนตราสารหนี้จีน เนื่องจากเชื่อว่าค่าเงินหยวน อาจมีความผันผวนมากขึ้น

กองทุนตราสารทุนในประเทศ

KFDYNAMIC

  • กองทุนที่เน้นการเฟ้นหาหุ้นที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละภาวะตลาด มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีในระยะกลางถึงยาว ตามผลการดำเนินของบริษัทฯ ที่กองทุนฯคัดเลือกลงทุน

กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ Developed market equity

KFGBRAND-A/KFGBRAND-D:

  • ภาพตลาดโดยรวมยังคงมีความผันผวน จึงยังแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากปกติกองทุนมักจะสร้างผลตอบแทนได้ดีและเป็นที่ต้องการของตลาดในช่วงที่มีความผันผวนสูง เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูง รายได้และการเติบโตสม่ำเสมอ

KF-EUROPE/ KFHEUROP-A:

  • ตลาดยุโรปเจอกับความผันผวนมากขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ Omicron ที่ส่งผลให้หลายประเทศในยุโรปกลับมาดำเนินมาตรการจำกัดการเดินทางและเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดขึ้น โดยตลาดยังรอความชัดเจนเรื่องความรุนแรงของเชื้อสายพันธุ์ใหม่ อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา หุ้นยุโรปได้แรงส่งจากผลประกอบการไตรมาส  3 ที่ออกมาดีกว่าคาดอีกทั้งกองทุนหลักยังได้มีการคัดเลือกหุ้นที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถส่งผ่านประเด็นเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นต่อไปยังผู้บริโภคได้

KFACHINA-A :

  • ตลาดจีนมีทิศทางดีขึ้น โดยทางธนาคารกลางจีนได้มีการปรับลดอัตราส่วนสำรองทางการเงินลงเพื่อช่วยสนับสนุนสภาพคล่องให้กับตลาด ด้านความไม่แน่นอนในการออกกฏหมายควบคุมของทางการจีนมีทิศทางชะลอลง โดยการประเทศแผนพัฒนาประเทศ 5 ปีของจีนยังคงเน้นไปที่การสนับสนุนพลังงานสะอาดและนวัตกรรม ทั้งนี้ตลาดจีนยังคงต้องระวังความผันผวนที่เกิดขึ้นจากโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอสังหาฯของจีนน โดย Valuation ของตลาดจีนกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

KFHHCARE :

  • Healthcare เป็นอุตสาหกรรมที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง การทำกำไรเติบโตได้สม่ำเสมอและต่อเนื่อง ระดับราคาในปัจจุบันมีความน่าสนใจ ดังนั้นจึงแนะนำให้ทยอยเข้าสะสม

Krungsri The Masterpiece ปรับพอร์ตประจำเดือนมกราคม 2022: เปลี่ยนหุ้นเทคโนโลยี เพิ่มหุ้นจีน

หมายเหตุ:

  • กองทุน KFGBRAND-A, KFGBRAND-D, KF-EUROPE, KFACHINA-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • กองทุน KF-SINCOME, KF-CSINCOM, KFAINCOM-A, KFAINCOM-R, KF-HUSINDX, และ KF-HEUROPE ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

คำเตือน  ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต  กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้   กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น   กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย  เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757

TSF2024