-------

สวัสดีปีใหม่ 2559 ครับชาว Finnomena ทุกท่าน เปิดมาต้นปีใหม่ แป๊ปเดียวก็ผ่านเทศกาลวันเด็กกันแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองทั้งหลายก็มักจะพาลูกๆหลานๆไปเที่ยวงานวันเด็กกันใช่ไหมล่ะครับ วันนี้ทางผู้เขียนเองจะพาไปดูหุ้นที่มีธุรกิจที่น่าจะปังมากๆสำหรับงานวันเด็กปีนี้กันเลย ซึ่งธุรกิจที่คิดว่าน่าจะตอบรับกับเทศกาลวันเด็กของปีนี้ก็คือ “สวนสนุกเด็ก” ครับ  น่านนนน… สงสัยกันล่ะสิครับว่าในตลาดหุ้นบ้านเรามีหุ้นที่มีธุรกิจนี้กันด้วยหรอ? ว่าแล้วเรามาดูกันเลยครับว่าคือบริษัทอะไรกัน!?

001ที่มา: Imaginia

Start!

บริษัทที่ว่าก็คือ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO  ซึ่งได้ลงทุนเพิ่มในธุรกิจสวนสนุกเด็กแห่งจินตนาการ  ภายใต้ชื่อ “IMAGINIA” (อิเมจิเนีย) นั่นเอง ซึ่งโครงการนี้ต้องการช่วยปลูกจินตนาการและสร้างการเรียนรู้สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1-15 ปี เป็นพื้นที่เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีพื้นที่กว่า 1,400 ตร.ม มีการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยและเครื่องเล่นที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ตั้งอยู่ชั้น 3 ของศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม โดยเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 ที่ผ่านมานี่เอง

ซึ่งเดิมทีทาง CMO ประกอบธุรกิจทางด้านการจัดอีเว้นท์และสื่อต่างๆเป็นหลัก  โดยมีความต้องการที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติม รวมถึงพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ากับเทรนด์และตอบสนองไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ มากขึ้น ตลอดจนเพิ่มโครงการประเภทที่สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงในระยะยาว โดยบริษัทคาดว่า IMAGINIA จะสามารถสร้างรายได้ให้ปีละ 50 ล้านบาท และนับเป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทในอนาคตได้เช่นกัน นอกเหนือจากธุรกิจรับจัดอีเวนท์ที่มีความผันผวนของรายได้สูง

โดยสำหรับโครงการ IMAGINIA จะมีทั้งหมด 19 โซน ซึ่งแต่ละโซน จะมีความโดดเด่นแตกแต่งกันไป ให้เด็กๆ ได้สนุกกับเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟ รวมถึงโซนที่ให้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และจิตนาการผ่านงานศิลปะ อาทิเช่น โซน Wonder Car ให้เด็กๆ สามารถออกแบบลวดลายบนรถในรูปแบบของตัวเอง ซึ่งลายที่เด็กๆ ออกแบบจะไปโชว์อยู่ที่โมเดลรถตรงหน้าของเขา , โซน Ride to The Sky เด็กๆสามารถขี่จักรยานท่องเที่ยวทั่วดินแดน IMAGINIA รวมไปถึงขี่จักรยานผ่านดินแดนที่ต้องผจญภัยและท้าทาย นอกจากนี้ยังมีอีกโซนที่น่าสนใจ โซน Imaginia Town Hall เป็นห้องนิทานขนาดใหญ่ที่ผสมผสานศาสตร์การเล่านิทานเข้ากับเทคโนโลยีแบบใหม่ เป็นต้น

002

ที่มา: Imaginia

นอกจากนั้นในวันเด็กปีนี้เอง CMO ยังได้ไปรับงานจัดนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์อวกาศ Space Inspirium ภายในพื้นที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ สทอภ. อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อีกด้วย ซึ่งก็น่าจะได้รับความนิยมในวันเด็กปีนี้อีกเช่นกัน

003

ที่มา: CMO Group

ภาพรวมธุรกิจ

ทีนี้เรากลับมาดูธุรกิจหลักของ CMO กันดีกว่าครับว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ซึ่งธุรกิจหลักของ CMO สามารถแบ่งได้ออกเป็น 5 กลุ่ม คือ

  1. ธุรกิจการให้บริการบริหารการจัดงานและการจัดแสดงนิทรรศการ (Event Management & Exhibition)
  2. ธุรกิจการให้บริการอุปกรณ์ด้านแสง สี เสียง และภาพ (Equipment Service)
  3. ธุรกิจการให้บริการผลิตสื่อสำหรับการนำเสนอ (Presentation Media)
  4. ธุรกิจการให้บริการด้านการติดตั้งระบบสาธารณูโภคที่เกี่ยวข้องกับการจัดอีเว้นท์ (Utilities Service)
  5. ธุรกิจการให้บริการบริหารสื่อออนไลน์และสื่อมัลติมีเดีย (Online & Media Management)

004

ที่มา: CMO

ซึ่งจะเห็นได้ว่า CMO มีกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดอีเว้นท์ต่างๆที่ค่อนข้างครบวงจรมากๆ  ตั้งแต่การรับจัดงานและออกแบบอีเว้นท์ต่างๆ เช่น งานเปิดตัวสินค้าต่างๆ การให้บริการด้านอุปกรณ์ในการจัดอีเว้นท์ เช่น จอฉายภาพในแบบต่างๆ การผลิตสื่อ Presentation ต่างๆ รวมถึงการทำสื่อการตลาดออนไลน์ ซึ่งสามารถบูรณาการกันได้เป็นอย่างดี โดยในปีที่ผ่านมาผลงานที่นับว่าโดดเด่นเป็นอย่างมากคือ การจัดทำ EmDistrict 3D Mapping ที่ห้าง Em Quartier และ Emporium ซึ่งเป็นการฉายภาพจากเครื่องฉาย Projection ออกมาที่ตัวอาคารตึกแบบ 3 มิติ ซึ่งนับว่าเป็นผลงานสร้างสรรค์แปลกใหม่ของวงการอีเว้นท์เลยทีเดียว

005

ที่มา: CMO Group

ซึ่งภาพรวมของตลาดการจัดอีเว้นท์ต่างๆ โดยปกติแล้วจะเติบโตไปตามภาวะเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี บริษัทต่างๆก็อาจจะมีการลดการจัดงานต่างๆ ลดลงไป แต่โดยรวมแล้วผู้เขียนมองว่ายังเป็นกลุ่มธุรกิจที่ยังมีแนวโน้มเติบโตที่สามารถเติบโตได้หากเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว และน่าจะเติบโตได้ดีมากในระดับภูมิภาคอาเซียน หรือในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเรา ซึ่งทาง CMO ยังตั้งเป้าที่จะขยายการรับจัดงานอีเว้นท์ต่างๆออกไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV และ อินโดนีเซีย โดยตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากต่างประเทศเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากงานต่างประเทศประมาณ 10%

006ที่มา: CMO Group

แตกไลน์กลุ่มธุรกิจเพิ่มเติม

ในปี 2558 ที่ผ่านมาทางบริษัทได้ขยาย 4 กลุ่มธุรกิจใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ กลุ่มมิวสิคและเอ็นเตอร์เทนเมนต์​ กลุ่มธุรกิจไพรเวท ไลฟ์สไตล์​ เช่น การจัดงานเลี้ยงต่างๆ การจัดงานวันเกิด กลุ่มงานออกแบบระบบแสง สี เสียง ครบวงจร รวมถึงกลุ่มงานธุรกิจสวนสนุก โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น Gen Y เพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทยังได้ร่วมทุนกับ Show Asset Management คนละ 50% เพื่อเปิดศูนย์การค้าหรูควบคู่เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรแห่งแรกของไทยภายใต้ชื่อ “Show DC” ในย่านพระราม 9 เพื่อเป็นกลุ่มธุรกิจที่จะสามารถสร้างรายได้ได้อย่างมั่นคงในอนาคต โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นแหล่งรวมสินค้าจากเกาหลี แหล่งรวม “สินค้าแบรนด์เนมชั้นนำของโลกและของไทย การแสดงพิเศษส่งเสริมวัฒนธรรม “หิมพานต์ อวตาร” ศูนย์การประชุมและการแสดง สปอร์ต อารีนา และ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ พาร์ค โดย ‘YG Entertainment’ ค่ายเพลงชื่อดังจากเกาหลีอีกด้วย โดยตั้งเป้าดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้ 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งก็น่าติดตามต่อไปว่าจะสามารถทำได้สำเร็จสักแค่ไหนกันครับ


 

งบการเงิน

007

008

สำหรับทางฝั่งของงบการเงิน จะเห็นได้ว่าบริษัทมีแนวโน้มของรายได้และกำไรสุทธิที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดนี้เองนักลงทุนก็คงต้องมาพิจารณาให้ละเอียดว่าอาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดจากภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่รายละเอียดของธุรกิจอาจจะมีปัญหาบางอย่างซึ่งทำให้รายได้ผันผวนและยังลดลงต่อเนื่อง ซึ่งก็ต้องมาคิดกันต่อแหละครับว่ากลุ่มธุรกิจใหม่ที่ทางบริษัทเปิดตัวเพิ่มจะสามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากคำนวณจากเป้าหมายคร่าวๆของ IMAGINIA และ Show DC แล้วก็น่าสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 150 ล้านบาท หรือประมาณ 15% ของรายได้รวม ส่วนฐานะการเงินของบริษัทนั้น ไม่ค่อยจะแข็งแกร่งสักเท่าไร มีหนี้ค่อนข้างจะเยอะ เป็นสัดส่วนหนี้ต่อทุนประมาณ 2.5 เท่าเลยทีเดียว

009

010

บทสรุป

จากการดูภาพรวมธุรกิจคร่าวๆธุรกิจการรับจัดอีเว้นท์ต่างๆก็เป็นที่น่าสนใจดี ธุรกิจน่าจะยังเติบโตต่อไปได้ แต่น่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรที่ผันผวน และลดลงในช่วงที่ผ่านมา บริษัทจึงหันมาลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่น่าจะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงเพิ่มขึ้นให้กับบริษัทได้ อย่างสวนสนุกเด็กและศูนย์การค้าสไตล์ Entertainment complex และดูเหมือนจะเป็นการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้นก็คือ กลุ่มเด็ก กลุ่ม Gen Y และกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งท้ายที่สุดนี้เราคงต้องมาติดตามกันยาวๆเลยล่ะครับว่า ก้าวต่อไปของบริษัทจะเป็นอย่างไรจากการเปลี่ยนแปลงของพื้นฐานที่ค่อนข้างจะมีนัยสำคัญ ซึ่งครั้งนี้ท่านผู้อ่านนอกจากจะได้รู้จักหุ้นนอกกระแสเพิ่มเติมไปหนึ่งตัวแล้ว ก็น่าจะได้สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับพาเด็กๆ ลูกๆหลานๆไปเที่ยวในงานวันเด็กนี้ได้อีกด้วยนะครับ สุขสันต์วันเด็ก ปี 2559 นะฮ้าฟฟฟ