หุ้นที่ผลตอบแทนสูงในระดับพลิกชีวิตในตลาดหุ้นมีอยู่สามกลุ่ม คือ หุ้นวงจร หุ้นโตเร็ว และหุ้นพลิกฟื้น (Turnaround) ซึ่งสลับมาเป็นสีสันให้ตลาด หุ้นบางตัวก็วิ่งแล้วกลับมาที่เดิมบางตัวก็ไปได้ไกลและไปต่อได้เรื่อยๆ ปัญหาของหุ้นพลิกฟื้นคือผลประกอบการมักจะไม่พลิกฟื้นจริงๆ ทำให้ผู้ลงทุนบาดเจ็บจากหุ้นกลุ่มนี้มานัดต่อนัด บทความนี้จะบอกถึงวิธีเช็คง่ายๆครับว่าจะลงทุนหุ้นพลิกฟื้นต้องวิเคราะห์จุดไหนบ้างเป็นประเด็นสำคัญ
1. มองปัญหาให้ออก
หัวใจสำคัญของการลงทุนหุ้นพลิกฟื้นเลยคือการมองปัญหาของธุรกิจให้ขาด ปัญหาธุรกิจหลักๆมีสี่ประการคือ อุตสาหกรรมกำลังหดตัวถ้าหุ้นมีปัญหานี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงครับแก้ยาก ปัญหาที่สองคือปัญหาโครงสร้างเงินทุนบริษัทที่ตัดสินใจลงทุนด้วยการสร้างหนี้สินเยอะๆ และไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้จะพลิกฟื้นยากครับเป็นตัวถ่วงผลประกอบการยาวจนกว่าจะแก้ไขปัญหาจบ ปัญหาที่สามคือสินทรัพย์ไม่สร้างรายได้ ถ้าเป็นช่วงเริ่มต้นลงทุนที่สินทรัพย์ยังไม่สร้างรายได้ให้ตามไปเรื่อยๆจนเห็นสัญญาณรายได้โตจึงเริ่มเข้าลงทุน แต่ถ้ามาจากการลงทุนผิดพลาดไปสินทรัพย์อยู่ในธุรกิจที่กำลังเป็นขาลงแนะให้หลีกเลี่ยงครับ และปัญหาสุดท้ายคือการทำกำไรส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาลูกโซ่จาก 3 ปัญหาแรกจนมากระทบรายได้รายจ่ายและทำให้ขาดทุน
2. หาสัญญาณยืนยันในงบการเงิน
นักลงทุนสมัยนี้เก่งขึ้นครับ ถ้าไม่มีสัญญาณยืนยันในงบการเงินตลาดจะไม่เชื่อหุ้นจะไปได้ไม่ไกล สำหรับการจับสัญญาณให้นำคำพูดผู้บริการมาเปรียบเทียบกับงบการเงิน ถ้ามีการลงทุนโครงการใหม่ต้องเห็นสินทรัพย์เพิ่ม มีการทำตลาดที่ดีขึ้นต้องเห็นสัญญาณรายได้เพิ่ม มีควบคุมภายในดีขึ้นจะเห็นอัตรากำไรที่ดีขึ้น ถ้าจบปัญหาหนี้สินได้จะเห็นหนี้สินลดลงและกระแสเงินสดดำเนินงานดีขึ้น และสุดท้ายต้องขาดทุนลดลงตลาดถึงเชื่อครับ
3. ธุรกิจต้องโตต่อ
หุ้นที่ไปได้ไกลเมื่อผลประกอบการพลิกฟื้นจนกลับมามีกำไรได้แล้ว จะต้องมีแผนธุรกิจที่สมารถเติบโตต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกสินค้าใหม่ การรุกเจาะตลาดใหม่ หรือการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น หุ้นพลิกฟื้นหลายตัวมักตกม้าตายตรงนี้ครับคือมีแต่เรื่องราวการเติบโตแต่ไม่สามารถทำได้จริง ลักษณะแบบนี้หุ้นจะไปได้ไม่ไกลครับ
4. การประเมินมูลค่าหุ้น
ในมูลค่าหุ้นจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ ส่วนที่มาจากผลประกอบการจริงๆ คือกำไรที่บริษัททำได้ ส่วนที่ตลาดให้ค่าจากการเติบโตในอนาคต และสุดท้ายคืออารมณ์ของตลาด ส่วนแรกและส่วนที่สองยังพอคาดการณ์ได้ครับ แต่ส่วนที่ยากที่สุดคืออารมณ์ของตลาด หุ้นบางตัวราคาล้ำผลประกอบการไปหลายปีจนบางทียังต้องสงสัยครับว่าจะทำการเติบโตไปทันได้อย่างไร ดังนั้นใครลงทุนหุ้นพลิกฟื้นแล้วขายหมูบ่อยๆไม่ต้องตกใจครับ อารมณ์ตลาดเป็นสิ่งที่เดายาก ขนาดอารมณ์ตัวเองยังรู้ไม่ทันเลยแล้วจะไปรู้อารมณ์ตลาดได้อย่างไร
5. จังหวะการลงทุน
บริษัทดี กับหุ้นดีไม่เหมือนกันครับ บริษัทดีคือผลประกอบการกำลังเติบโตหรือขาดทุนลดลง ส่วนหุ้นดีคือหุ้นที่ขึ้น จังหวะการลงทุนที่ดีคือผลประกอบการกำลังฟื้น มีงบการเงินยืนยัน และราคาเริ่มตั้งฐานยาวๆรอฟื้นตัวแสดงว่าเริ่มมีคนคิดเหมือนกันเข้ามาลงทุนครับ มีเพื่อนร่วมทางไม่เหงา ระหว่างถือต้องคอยติดตามตลอดครับว่าผลประกอบการเป็นไปอย่างที่เราคิดหรือไม่
จะเห็นว่าการลงทุนในหุ้นพลิกฟื้น ถ้าเรามีหลักการคิดที่ชัดเจน และใช้งบการเงินเป็นตัวช่วยไม่มโน จะทำให้สามารถถือหุ้นลงทุนได้ยาว และมีความสุขในการถือลงทุนครับ