ทุกวันนี้ทุกคนคงจะต้องรู้จักหรือเคยได้ยิน Cryptocurrency อย่าง Bitcoin ผ่านหูเข้ามาบ้าง ซึ่งก็มีนักลงทุนชื่อดังหลายคนนำเจ้า Bitcoin มาเปรียบเทียบว่ามันเป็น Digital Gold เพราะมันมีลักษณะหลาย ๆ อย่างที่คล้ายคลึงกัน ทั้งปริมาณที่มีจำกัด เเละต้องมีต้นทุนในการผลิตออกมา ซึ่งเรียกว่าการขุดนั่นเอง
ดังนั้นในวันนี้เรามาเปรียบเทียบประเด็นในเรื่องของ การขุด กันดีกว่า ว่าเจ้า Bitcoin หรือ ทองคำเนี่ย มันมีการขุดที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร..
1.ลักษณะของการขุด
ทองคำ
การขุดทองคำนั้น ก็อย่างที่ทุกคนรู้กันครับว่าก็ต้องมีการสำรวจ ฯลฯ เเล้วก็ลงทุนสร้างเหมืองขุดเจาะในบริเวณนั้น ๆ ไป จากนั้นค่อยนำมาหลอมขึ้นรูปใหม่เป็นทองคำเเท่งหรืออะไรก็ว่าไป
Bitcoin
การขุด Bitcoin นั้นเป็นการขุดโดยใช้กำลังไฟฟ้า ซึ่งที่นิยมใช้มีทั้งการใช้การ์ดจอหรือการใช้เครื่องขุดโดยเฉพาะ ที่เรียกว่า Application-Specific Integrated Circuit หรือ ASIC
2.ต้นทุนการผลิต
ทองคำ
ในโลกเรามีบริษัททำเหมืองทองคำใหญ่ ๆ อยู่ 5 แห่ง
บริษัท | ราคาหน้าเหมือง |
Newmont | 935 เหรียญ/ออนซ์ |
Barrick Gold Crop | 870-980 เหรียญ/ออนซ์ |
Kinross | 995 เหรียญ/ออนซ์ |
AngloGold Ashanti | 1029 เหรียญ/ออนซ์ |
Gold Fields | 965-1169 เหรียญ/ออนซ์ |
เราสามารถสรุปได้ว่าค่าเฉลี่ยจากทั่วโลก ณ ปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 975 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งราคานี้ยังไม่ได้รวมค่าอื่น ๆ อีกประมาณ 7.5% นั่นหมายความว่าราคาหน้าเหมืองที่แท้จริงจะอยู่ที่ประมาณ 1,060 เหรียญ/ออนซ์
Bitcoin
ต้นทุนการขุด Bitcoin หลัก ๆ นั้นมีอยู่ 2 ปัจจัยก็คือตัวของเครื่องขุดว่ามีกำลังการขุดมากขนาดไหน เเละ ค่าไฟในการขุดซึ่งเเต่ละประเทศก็จะต่างกันไป แต่ทั้งนี้เราขอสมมติให้ เครื่องขุด Bitcoin ใช้เวลาขุด 4 ปีเพื่อให้ได้ 1 Bitcoin
ดังนั้น
ที่ 0.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามค่าไฟในประเทศที่เก็บค่าไฟถูก
ต้นทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 27,00 ดอลลาร์สหรัฐ
ที่ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามค่าไฟในประเทศสหรัฐอเมริกา
ต้นทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ 39,000 ดอลลาร์สหรัฐ
โดยเฉลี่ยเเล้วต้นทุนการขุด Bitcoin จะอยู่ที่ประมาณ 33,000$ ต่อ 1 BTC (ณ ปัจจุบัน)
3.ปริมาณที่ขุดได้ต่อปี
ทองคำ
- Newmont ผลิตทองคำได้ประมาณ 3 ตัน
- Barrick Gold Crop ผลิตทองคำได้ประมาณ 9 ตัน
- Kinross ผลิตทองคำได้ประมาณ 6 ตัน
- AngloGold Ashanti ผลิตทองคำได้ประมาณ 79 ตัน
- Gold Fields ผลิตทองคำได้ประมาณ 5 ตัน
แต่ทั้งนี้ ปริมาณทองคำที่ขุดออกมาได้ต่อปีจะยังสามารถปรับเพิ่มขึ้นหรือ ลดลงได้เล็กน้อย ในกรณีที่เหมืองต้องการเพิ่มหรือลดกำลังการขุด
Bitcoin
Bitcoin ถูก Fix ด้วย Code ทำให้ในเเต่ละปีจะมีกำลังการผลิตคงที่ ต่อให้จะมีคนขุดเพิ่มขึ้นอีกกี่คน หรือ เหลือคนขุดเเค่คนเดียว Bitcoin ก็จะมีปริมาณออกมาคงที่อยู่ดี
4. สรุป
จะเห็นได้ว่าทั้งทองคำเเละ Bitcoin ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่าการขุดเหมือนกัน เเต่ทั้งนี้ ในสิ่งที่เรียกว่าการขุดนั้น ก็มีรายละเอียดที่เเตกต่างกันค่อนข้างมาก แต่ด้วยคุณสมบัติที่มีอยู่อย่างจำกัดเเละผลิตออกมาต่อปีได้อย่างจำกัด นั้นก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน อาจจะต่างบ้างตรงที่ทองคำยังสามารถ เพิ่มหรือผ่อนกำลังผลิตได้เล็กน้อย ดังนั้นทั้งทองคำเเละ Bitcoin ก็น่าจะเป็นตัวรักษามูลค่าของเงินเราได้ดีกว่าเงินสดเเน่นอนครับ
เทรดเดอร์ อินเตอร์โกลด์