สำหรับตลาดการลงทุนปี 2021 ที่ผ่านมาทั้งปีต้องบอกว่าส่วนใหญ่เป็นช่วงขาขึ้น ในส่วนของทองคำแท่งเองนั้นถึงแม้จะยังไม่กลับไปยืนที่ 30,000 บาท แต่ก็ค่อย ๆ ทำทรงขึ้นเรื่อยๆ ใครที่ได้ซื้อช่วงที่ทองลงไป 25,000 – 26,000 คงได้ยิ้มกันถ้วนหน้า เรียกได้ว่าปี 2021 ตลาดการเงินค่อนข้างที่จะลงทุนได้ง่าย เพราะปริมาณเงินในระบบมันมีมากจนล้น
สำหรับอินเตอร์โกลมองว่าในปี 2022 นั้นเรียกได้ว่าลำบากกว่าปี 2021 แน่นอน คำถามก็คือแล้วปีหน้า 2022 หน้าตาการลงทุนจะเป็นอย่างไร อะไรที่น่าจับตามองบ้าง วันนี้เรามาดูกันครับ
1. โอมิครอน และการกลายพันธ์ุของโควิด
เรายังไม่แน่ใจว่าโควิดจะสามารถกลายพันธุ์ได้อีกมากแค่ไหน อินเตอร์โกลคาดว่าจะมีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นอีกในปีหน้า แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ ถึงแม้ความรุนแรงจะลดลงเรื่อย ๆ แต่มันก็มีผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างแน่นอน โอกาสที่เฟดจะกลับมาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งอาจจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำในปีหน้า
2. เงินเฟ้อพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ปีหน้าเราพบปัญหาเงินเฟ้ออย่างแน่นอน เพราะมองไปรอบตัวเราตอนนี้ถึงเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีแต่ข้าวของไม่ได้มีทีท่าว่าจะถูกลงเลย การที่เงินเฟ้อพุ่งแรงจนเศรษฐกิจโตตามไม่ทันจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าตัวเองกำลังซื้อของได้น้อยลง หรือจนลงนั่นเองทำให้ไม่อยากใช้จ่าย จนส่งผลต่อเศรษฐกิจถดถอยได้ ในส่วนนี้อินเตอร์โกลมองว่ามีโอกาส 50 / 50 แล้วกันที่เงินเฟ้อจะถูกควบคุมไว้ได้ในกลางปีหน้า เพราะสหรัฐฯ อาจใช้อำนาจบางอย่างในการควบคุมราคาน้ำมันก็ได้ และหากทำสำเร็จเงินเฟ้อก็จะถูกควบคุมได้ไม่ยาก ถ้าควบคุมเงินเฟ้อได้ภายในกลางปีหน้า แบบนี้ส่งผลลบต่อราคาทองคำ อาจทำให้ทองคำเป็นขาลงได้เลย และในกรณีนี้หุ้นทั่วโลกจะได้รับผลบวกเต็ม ๆ
3. เศรษฐกิจจีนหยุดชะงักจากปัญหาวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ การขาดแคลนพลังงาน และการคุมเข้มของรัฐบาลจีน
เราอาจมองว่าจีนกำลังเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอย จากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ แต่อินเตอร์โกลมองว่าจีนยังมีอาวุธทางการเงินอีกเยอะ เช่น อัตราดอกเบี้ยของจีนยังอยู่ที่ระดับ 3% กว่า ยังมีช่องว่างให้กดลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกเยอะ หากเจอสภาวะถดถอยจริง ๆ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทองคำมาก ๆ เพราะในจังหวะที่เศรษฐกิจจีนถดถอย ก้จะทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอยไปด้วย
4. ความวุ่นวายทางการเมืองในยุโรป จากการเลือกตั้ง ปธน.อิตาลี และ ปธน.ฝรั่งเศส ในช่วงต้นปีหน้า
ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจอยู่ในความเครียด มักมาคู่กับการเมืองที่อ่อนแอ การเลือกตั้ง ปธน. ของ 2 ประเทศนี้ อาจมีส่วนทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยได้ แต่อาจไม่กระทบทั่วโลกมากนักเพราะไม่ใช้มหาอำนาจอย่างจีน อินเตอร์โกลมองว่าอาจส่งผลต่อราคาทองในระยะสั้นเท่านั้น
5. ความเลื่อมล้ำทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ทำให้บางประเทศค่าเงินเสื่อมค่าอย่างรุนแรง นำไปสู่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความวุ่นวายทางการเมืองในบราซิล, ประเด็นจีน-ไต้หวัน ในปี 2022 สาเหตุที่สกุลเงินในประเทศที่อ่อนแอจะถูกซ้ำเติม เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่มีบริษัทเทคโนโลยีเยอะ ๆ จะฟื้นตัวได้ไวกว่า ส่วนประเทศที่ไม่มีธุรกิจยุคใหม่เลย จะเจอปัญหาหนี้ที่ทำให้การเติบโตหรือจะกู้เพิ่มขึ้นเป็นเรื่องยาก
ดังนั้นอินเตอร์โกลมองว่าเงินทุนจะไหลเข้าสู่ประเทศที่มีธุรกิจเทคฯ ยุคใหม่มากขึ้น เนื่องจากบริษัทเหล่านี้หนี้น้อย ต่อให้ปีหน้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย 3 steps จริง ๆ ก็ไม่กระทบผลประกอบการบริษัทเทคฯ เท่าไหร่ แต่ในทางกลับกัน ธุรกิจยุคเก่าที่เต็มไปด้วยนี้ จะถูกกดดันอย่างมากจากการที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นหลายเท่า ซึ่งปัญหานี้จะเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก เมื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไม่เท่ากันก็จะส่งผลให้ค่าเงินของประเทศที่ฟื้นช้าเกิดการอ่อนค่า ซึ่งอินเตอร์โกลมองว่าหลายประเทศในโลกก็จะค่าเงินเสือมค่า เพราะส่วนใหญ่เติบโตมาด้วยธุรกิจยุคเก่าเป็นหลัก ทำให้ประชาชนในประเทศเหล่านั้นจะเข้าซื้อทองคำเพื่อหลบออกจากการเสื่อมค่าของสกุลเงินนั้น ๆ ในส่วนนี้จะส่วนผลบวกต่อทองคำมากกว่าผลลบ
ที่มาบทความ: https://www.intergold.co.th/investor_core/5-ปัจจัยที่น่าจับตามองใน/