ตลาดหุ้นย่อตัว ราคาน้ำมันพุ่งแรง แต่ทำไม Bond Yield ปรับลดลง!? FundTalk มองให้ขาดหรือเพราะตลาดกลัว Risk-Off ชาวสวนควรใช้จังหวะนี้ ปรับแทคติก ขายทำกำไรหุ้นอเมริกา-หุ้นยุโรป โยกเข้ากองทุนตราสารหนี้
หลังจากเมื่อคืนวันที่ 4 เมษายน 2024 ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ร่วงแรงสุดในรอบ 1 ปี โดยดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลง -1.23% ส่วนดัชนี NASDAQ ลดลง -1.4%
Source: TradingView as of 05/04/2024
ประเด็นสำคัญเกิดจากความกังวลว่า Fed อาจจะไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้ หลัง Neel Kashkari หนึ่งในคณะกรรมการ FOMC ประธาน Fed สาขา Minneapolis ให้มุมมองว่าหากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง การปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ อาจจะไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นก็ได้
Neel Kashkari หนุนว่าควรใช้เวลามากขึ้นเพื่อรอคอยให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืน ก่อนเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 20% นับตั้งแต่ต้นปี
Source: TradingView as of 05/04/2024
ในขณะที่ตลาดหุ้นสรัฐฯ เริ่มอ่อนกำลังลง จะเห็นว่าในฝั่งราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งแรงทะลุ 90 เหรียญต่อบาร์เรลไปแล้ว หลังตลาดกังวลความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
หุ้นย่อ น้ำมันพุ่ง แต่ทำไม Bond Yield ถึงลด?
Source: TradingView as of 05/04/2024
จะเห็นว่าจุดที่น่าสนใจของจังหวะนี้ คือหุ้นสหรัฐฯ ย่อลง น้ำมันพุ่งสูงขึ้น แต่คำถามก็คือทำไม Bond Yield กลับปรับตัวลดลง
ถือเป็นความสัมพันธ์ที่ย้อนแย้งเหมือนกัน เพราะปกติแล้วราคาน้ำมันดิบกับ Bond Yield จะวิ่งไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่แพงเป็นสัญญาณว่าเงินเฟ้อกำลังมา Fed จะไม่รีบลดดอกเบี้ย
คำตอบของเหตุการณ์นี้ หากมองให้ขาด Ahead of the Game ตลาดอาจกำลังส่งสัญญาณ Risk-Off กลัวความเสี่ยง จึงโยกเงินลงทุนเข้าตราสารหนี้ ซึ่งเป็น Safe Haven เสี่ยงต่ำ
FundTalk Contrarian Style ขึ้นขายลงซื้อ
มุมมองระยะสั้นสำหรับ “ชาวสวน” FundTalk The Contrarian Style แนะนำใช้จังหวะนี้ขายทำกำไรหุ้นในพอร์ต หลังโมเมนตัมตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มอ่อนกำลังลง RSI < 50 และเกิด bearish divergence จึงมีโอกาสปรับฐานในระยะสั้น
พอร์ตการลงทุน FundTalk Contrarian Portfolio “FTCP” จึงแนะนำลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อเก็บกระสุน ดังนี้
- โยกออกกองทุนหุ้นสหรัฐฯ AFMOAT-HA 20% เข้ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ABGFIX-A
- โยกออกกองทุนหุ้นยุโรป ONE-EUROEQ 10% เข้ากองทุนตราสารหนี้โลก KFSINCFX-A
ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนใหม่ของ FundTalk Contrarian Portfolio จะถือตราสารหนี่ที่สัดส่วน 55% และถือหุ้น 45%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องจับมองในระยะข้างหน้า คือแนวโน้มราคาน้ำมัน และมุมมองของ Fed
อย่างไรก็ตาม ย้ำว่านี่คือคำแนะนำระยะสั้นสำหรับ “ชาวสวน” ขึ้นให้ขาย ลงให้ซื้อ หากใครเน้นเป้าหมายการลงทุนระยะยาว แนะนำติดตาม MEVT Call ชี้เป้าการลงทุนเป้าหมายระยะกลาง-ยาว ซึ่งยังคงมีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ อาจใช้โอกาสการปรับฐานครั้งนี้ ทะยอยเข้าสะสมหุ้นเพิ่มเติมได้ หรือจับตารอเพื่อให้สถานการณ์ต่าง ๆ ชัดเจนขึ้นก่อนตัดสินใจ
ดู Fund Fact Sheet กองทุนแนะนำ
สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299