RMF-STRONG

 

ในปีนี้ผมขอแนะนำกองทุน RMF 2 กอง 2 สไตล์ ตัวแรกคือ RMF สำหรับลงทุนระยะยาวเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนให้มากที่สุด เน้นที่ศักยภาพการ “เติบโต” ของราคาเป็นหลัก ซึ่งสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยผมเชื่อว่ามีอยู่สองแนวทางคือ Low Beta หรือ Mid/Small Cap ที่มีโอกาสทำผลตอบแทนดีที่สุด ซึ่งเป็นที่มาของกองทุนแนะนำวันนี้ สำหรับอีกกองทุนที่จะทำการแนะนำในบทความถัดไปเป็นกองที่ลงทุนในตราสารทางเลือก เหมาะกับท่านที่เหลือเวลาน้อยกว่า 10 ปีจะเกษียณ เน้นที่การสร้าง “รายได้” และมีความผันผวนต่ำลงมาหน่อย สำหรับรายละเอียดจะเป็นอย่างไรสำหรับ “กองทุน RMF แนะนำสำหรับโอกาสเติบโตแบบ STRONG !!” ไปดูกันครับ

สไตล์และนโยบายที่่ใช่

เวลาคนส่วนใหญ่เลือกกองทุน LTF RMF ก็มักจะดูผลประกอบการย้อนหลัง 1 ปี 3 ปี 5 ปี หรือ Sharpe Ratio ซึ่งเป็นการวัดผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยง แต่สำหรับผมแล้ว ผมมองว่าปัจจัยเชิง “คุณภาพ” เช่นสไตล์การลงทุนของผู้จัดการกองทุน และปรัชญาการลงทุนของแต่ละ บลจ. เป็นตัวแปรที่สำคัญกว่าสำหรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว นอกจากนี้นโยบายการลงทุนก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งนโยบายการลงทุนของหุ้นไทยที่มีแนวโน้มได้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี SET Index จากการศึกษาของผมนั้นมี 2 แบบคือ Low Beta กับกองทุน Mid/Small Cap ลองเปิดเวบ Morningstar ดูผลตอบแทนระยะยาวของกองทุนสองประเภทนี้ดูก็ได้ครับจะพบว่ามีผลตอบแทนยอดเยี่ยมมาก โดยกองทุนชนิดที่ผมชอบเป็นพิเศษคือ Mid/Small Cap ครับ เพราะผมเชื่อว่า “ราคาหุ้นระยะสั้นตามข่าว ระยะยาวตามการเติบโตของกำไร” และหุ้นขนาดเล็กย่อมมีโอกาสที่กำไรจะเติบโตเป็นอัตราเปอร์เซนต์ที่มากกว่าหุ้นขนาดใหญ่

EQM-1

รูปที่ 1 ผลตอบแทนหุ้น Mid/Small Cap เทียบกับ Big Cap

จากรูปที่ 1 ในสหรัฐฯ พบว่าในระยะยาวผลตอบแทนของหุ้นขนาดกลาง / เล็ก นั้นมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่เป็นเท่าตัว โดยหุ้นกลาง/เล็กให้ผลตอบแทน 475 – 644% ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทน 274% ในรอบประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในประเทศไทยผมเคยทำการศึกษาแบบเดียวกันนี้ก็ให้ผลคล้ายกันครับ

TMSRMF

สำหรับกองทุน RMF ที่ผมเลือกให้เป็น Guru Pick by FundTalk ก็คือ…แต่น แตน แต๊นนน… “กองทุนเปิด ทิสโก้ MID/SMALL อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ” หรือชื่อย่อ “TMSRMF” ครับ กองทุนนี้เพิ่งเปิดกองทุนมาได้ประมาณปีนิด ๆ แต่นโยบายการลงทุนล้อตามตัวที่เป็นกองทุนเปิด คือ TISCO Mid/Small Cap Equity Fund ซึ่งเปิดมาได้เกือบสองปี  สิ่งที่ผมชอบของกองทุนนี้คือลักษณะการลงทุนสไตล์ Bottom Up คือลงเชิงลึกเพื่อเลือกหุ้นแต่ละตัว และจัดพอร์ตแบบ Conviction Portfolio คือกล้าลงตัวหนึ่งในสัดส่วนที่เยอะไปเลย ลองไปดูหน้าตาพอร์ตกันครับ

ScreenHunter_510 Dec. 07 21.54

รูปที่ 2 พอร์ตการลงทุน TMSRMF ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 58 (ที่มา ก.ล.ต.)

ณ กลางปี 2558 กองทุนนี้ลงทุนในหุ้น 15 ตัวนับว่าเป็นกองที่ลงหุ้นจำนวนน้อยตัว และหุ้น 5 อันดับแรกคือ PLANB KTC SCN EPG และ CHG รวมกันคิดเป็นเกือบ 50% ของเงินลงทุนทั้งหมด นี่แหละครับที่เค้าเรียก Conviction Portfolio คือ Fund Manager มีความมั่นใจที่จะลงหุ้นแต่ละตัวในสัดส่วนที่เยอะ แล้วแต่ละตัวนี่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวนะครับ ประกาศงบออกมาส่วนใหญ่เติบโตสูง และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์อีกด้วย ในช่วงเวลาที่บริษัทจดทะเบียนโดยรวมผลประกอบการไม่ค่อยจะดี

ScreenHunter_511 Dec. 08 02.08

รูปที่ 3 พอร์ตการลงทุนราย Sector ของ TMSRMF ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 58 (ที่มา tiscoasset)

มาดูที่พอร์ตการลงทุนราย Sector กันบ้่าง อย่างที่ทราบกันว่าตลาดหุ้นไทยมี 3 Sector หลักคื่อ ธนาคาร พลังงาน และสื่อสาร แต่กองทุนนี้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าไม่ได้ลงทุนตามดัชนี หุั้นกลุ่มธนาคาร และสื่อสารไม่ติดใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมแรกเลยด้วยซ้ำ ก็แน่ล่ะครับเพราะนโยบายการลงทุนเขียนไว้ว่าจะลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยมากกว่า 80% ของมูลค่ากองทุน

ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม

ไปดูผลการดำเนินงานกันบ้างนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน TISCO Mid/Small Cap Equity RMF (TMSRMF) ในเดือนกันยายนปี 57 จนถึงกลางปีที่ผ่านมากองทุนมีผลตอบแทน 3.23% ชนะ SET ไปถึงประมาณ 7% ภายในระยะเวลา 9 เดือน

ดูจาก Fund Fact Sheet ยังไม่ update ถึงใจ  เอาจนถึงเมื่อวานนี้ 8 ธ.ค. 58 ไปเลย กอง TMSRMF ให้ผลตอบแทนที่ 7.92%  ขณะที่ SET Index ติดลบไปเกือบ 13% เรียกได้ว่า STRONG !! ครับใช้เวลาเกือบ ๆ ปีชนะ SET Index ไปราว 20% ของดีจึงบอกต่อออออ

ScreenHunter_520 Dec. 09 10.43

รูปที่ 4 ผลการดำเนินงานกอง TMSRMF ณ 26 มิ.ย. 58 (ที่มา Tisco Asset)

เนื่องจากผลการดำเนินงานกองทุน TMSRMF เพิ่ง run มาได้ปีกว่า ๆ ผมลองไปดูกองทุนของ TISCO เจอทีเด็ดเข้าอีกกองคือ TISCO Mid/Small Cap Equity Fund หรือ TISCOMS ดูไส้ในแล้วหน้าตาพอร์ตคล้ายกันกับกอง TMSRMF เลย ชื่อผู้จัดการกองทุนก็เป็นคนเดียวกันด้วยโดยกองทุนตั้งมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 56 นับจนถึง มิ.ย. 58 ก็เกือบ 2 ปี ซึ่งกองทุนให้ผลตอบแทนสูงถึง 40.94% ชนะดัชนี SET ไปเกือบ 40% ในเวลาเกือบ 2 ปี ซึ่งจัดว่าสุดติ่งกระดิ่งแมวเปอร์เซียไปเลย (ดูรูปที่ 6 ประกอบ ^^) เรียกได้ว่าศึกษา RMF วันนี้ผมว่าผมได้กองทุนเปิดหุ้นไทย mid/small cap ที่เป็น top pick ในดวงใจเพิ่มอีกตัวไปด้วยเลยครับ

ScreenHunter_521 Dec. 09 10.45

รูปที่ 5 ผลการดำเนินงานกองทุนเปิด TISCOMF ณ 26 มิ.ย. 58 (ที่มา Tisco Asset)

4b4b54fa19c165efaa05b6328f4e98a9

รูปที่ 6 กระดิ่งแมวเปอร์เซีย

ทั้งหมดก็เป็น กองทุน RMF แนะนำสำหรับโอกาสการเติบโตแบบ STRONG !! ที่นำมาแนะนำในวันนี้ ผมเชื่อว่าการเลือกหุ้นที่ใช่ ! ในกลุ่ม Mid/Small Cap ที่มีโอกาสการเติบโตของกำไรมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ จะนำมาซึ่่งผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวมีโอกาสเพิ่มเงินลงทุนหลายเท่าตัวเมื่อคุณถึงวันเกษียณ อย่างไรก็ตามหุ้นแบบ Mid/Small Cap ก็นับว่าเสี่ยงสูงมากด้วยนะครับ เพราะแน่นอนบริษัทเล็ก ๆ ย่อมมั่นคงแข็งแรง สายป่านไม่ยาวเท่าบริษัทใหญ่ ๆ กองนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนวัยเริ่มทำงาน หรือวัยกลางคนที่มีระยะเวลาการลงทุนยาว ๆ ไม่ค่อยเหมาะกับท่านที่ใกล้เกษียณใกล้ถึงเวลาใช้เงินแล้ว

สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าการเลือกกองทุน RMF ที่ใช่มีผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ หากดูผลตอบแทนสะสมย้อนหลัง 1 ทศวรรษ กองทุนที่ได้อันดับ 1 ได้ผลตอบแทน 328% ขณะที่อันดับสุดท้ายให้ผลตอบแทน 211% ต่างกันเป็น 100% เลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจกับการเลือกกองทุนที่ใช่และเหมาะกับตัวเรานะครับ