เป็นอีกครั้งที่ได้มีโอกาสฟังคุณสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร INTUCH พูดในวันนี้ทำให้ผมมีมุมมองต่อธุรกิจของ Telco ในบ้านเราเปลี่ยนไปพอสมควรทีเดียวจากเดิมที่คิดว่าธุรกิจ Telephone Operator น่าจะเข้าสู่ช่วงเวลาของการ “โตช้า” เพราะจำนวน Sim ได้มากกว่าจำนวนประชากรไปแล้ว แต่ไม่ใช่อย่างนั้นครับ
ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) คะแนน: 4/5
คุณสมประสงค์มีวิสัยทัศน์ว่า
“ระบบโทรคมนาคมจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิต ทั้งชีวิตองค์กร และชีวิตส่วนตัวอย่างแยกไม่ได้ อุปมาอุปมัยเหมือนกระแสไฟฟ้าถ้าคนใช้และจะไม่เลิกใช้”
จากเดิมที่ Content ของธุรกิจอยู่ที่ “เสียง” เพียงอย่างเดียวเพราะสมัยก่อนมีแต่การโทรศัพท์คุยกัน ซึ่งรายได้ของธุรกิจขึ้นอยู่กับปริมาณ (Quantitative) แต่ในปัจจุบัน Content ของธุรกิจเปลี่ยนมาเป็น Data ซึ่งรายได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณอย่างเดียวแต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพด้วย (Qualitative) ยกตัวอย่างเช่น หมอดูโนเนมอาจคิดค่าดูดวงชั่วโมงละ 200 บาท แต่หมอดูชื่อดังอาจคิด 15 นาทีหลาย ๆ พันบาทก็เป็นได้
สิ่งที่ INTUCH พยายามจะทำคือนอกจากการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรอันได้แก่ 1.ทางสาย 2.ทางอากาศ 3.จากบนฟ้า INTUCH มีวิสัยทัศน์ที่จะมีส่วนร่วมในสังคมประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคถัดไปอันได้แก่
- โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นการ Convergence กันระหว่างทางสายและทางอากาศ หมายถึง Internet Broadband/Fibre Opticควบคู่กับการใช้งาน 3G/4G
- Digital Content หมายถึงการเป็นผู้ให้บริการ Content ที่มีคุณภาพผ่านระบบอินเตอร์เนท
- Big Data คือการนำข้อมูลของคนจำนวนมากมาวิเคราะห์หา Physchological attritbute และใช้คณิตศาสตร์ขั้นสูงในการจัด Segmentation อธิบายพฤติกรรมของแต่ละ Segment และนำไปสร้างเป็น Application ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับคนอีกทีหนึ่ง
- Cloud Computing อันนี้ INTUCH ดำเนินการผ่าน CS Loxinfo คือการสร้างระบบคลาวด์สำหรับรองรับการเก็บข้อมูลทั้งสำหรับภาคองค์กร และภาคผู้บริโภครายย่อย
ทั้ง 4 อย่างนี้คือสิ่งที่ INTUCH ต้องการเข้าไปเป็นผู้นำ ซึ่งหมายถึง Digital Transaction จำนวนมหาศาล
จากเดิมที่ผมมองว่าธุรกิจค่ายโทรศัพท์มือถือจะเข้าสู่ยุคของการ “โตช้า” ผมว่าคงไม่ใช่สำหรับกลุ่ม INTUCH / Advance แล้วล่ะครับ
Note: ผมคงจะไม่ลงในรายละเอียดธุรกิจทีละตัวของ INTUCH ทั้ง AIS THCOM CSLoxinfo INVENT นะครับ น่าจะหาอ่านจากบทวิเคราะห์อื่นได้
มูลค่ายุติธรรม (Valuation) คะแนน: 3/5
ที่ระดับ P/E ของปี 2015 ที่ 15 เท่า กับการเติบโตระยะยาวประมาณ 10 – 15% ต่อปี ผมมองว่า Valuation จัดอยู่ในระดับปานกลาง คือไม่แพง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับถูกมาก อัตราเงินปันผลที่ 6.5% ถือว่าสูงใช้ได้ทีเดียวครับ อีกประเด็นที่สำคัญที่อยากจะชี้ให้เห็นคือ หุ้นอย่าง AIS หรือ INTUCH ที่สามารถจ่ายปันผลได้ 100% ของกำไรมาตลอด และผู้บริหารก็ให้คำมั่นว่าจะจ่ายอย่างนี้ต่อไปในอนาคต ทุก ๆ ปีเมื่อจ่ายปันผลออกไปแล้วจะทำให้ค่า P/E ถูกลง 1 เท่าเสมอ ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้ครับ
INTUCH ปัจจุบันราคา 76 บาท กำไรต่อหุ้น 5 บาท คิดเป็น P/E = 76 / 5 = 15.2 เท่า
เมื่อ INTUCH จ่ายปันผลออกไป 5 บาทหลัง XD ราคาควรจะตกไปที่ 71 บาท ซึ่งทำให้ P/E ลดลงเหลือ 71 / 5 = 14.2 เท่า
นี่เป็นอีกเสน่ห์ของหุ้นที่จ่ายปันผล 100% ของกำไรคือค่า P/E ของหุ้นจะถูกลงอัตโนมัติทุก ๆ ปีครับ
ความคาดหวัง (Expectation) คะแนน: 2/5
ผมจัด INTUCH อยู่ในหุ้นที่มีความคาดหวังสูง ดูจากการที่เหล่า Broker ใน Settrade.com ล้วนออกมาให้คำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีเป้าหมายเฉลี่ยสูงถึงประมาณ 100 บาทสูงกว่าราคาปัจจุบันค่อนข้างเยอะ เท่ากับว่าโอกาสที่เหล่า Broker จะปรับเพิ่มประมาณการน่าจะไม่มีให้เห็นเร็ว ๆ นี้
ภาพทางเทคนิค (Technical Analysis) คะแนน: 3/5
ออกตัวก่อนว่าผมดู Technical ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ แต่ก็อยากจะนำมาประกอบการวิเคราะห์ในครั้งนี้ด้วย โดยในภาพระยะยาวเป็นสิบปี INTUCH ยังจัดว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ภาพระยะสั้นล่าสุดหลุดเส้นแนวรับระยะสั้นลงมาจากข่าวกดดันในประเด็นเรื่องคดีความที่ค้างมาแต่นาน จึงให้คะแนนออกมากลาง ๆ ครับ
สรุป ผมให้คะแนน INTUCH ประมาณ 3.5/5 ถือว่าเป็นหุ้นดี ที่ราคาไม่แพงมาก แต่ความคาดหวังสูงไปหน่อย โดยการประมูล 4G ครั้งที่จะมาถึงผมเชื่อว่า AIS น่าจะทุ่มเต็มที่และชนะทั้งคลื่น 1800 และคลื่น 900 หุ้น INTUCH สำหรับผมมองเป็นหุ้นคุณภาพอีกตัวหนึ่ง ที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปตาม Mega Trend เรื่อง Internet of Things มีการจ่ายปันผลที่ดี และน่าจะดีต่อไป แม้จะต้องมีการลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานอีกจำนวนมหาศาลในอนาคต ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของ INTUCH หุ้น Mega Trend ที่ P/E มีกลไกปรับลดลงอัตโนมัติ ที่นำมาฝากกันในวันนี้ครับ
เจษฎา สุขทิศ, CFA
17 กันยายน 2558
หมายเหตุ
การวิเคราะห์ Bottom up แต่ละบริษัทในเวบไซต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อแชร์วิธีการวิเคราะห์ เพื่อแนะนำให้ท่านที่สนใจได้นำไปประยุกต์ใช้งานในการวิเคราะห์การลงทุนในหุ้น โดยในแต่ละช่วงเวลา ผู้เขียนอาจมีถือครอง หรือไม่มีถือครองหุ้นที่ทำการวิเคราะห์ก็ได้ ดังนั้นท่านที่ได้อ่านการวิเคราะห์โปรดศึกษาและตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเอง ข้อมูลตัวเลขใด ๆ ที่นำมาเสนอเกิดจากการประมาณการของผู้เขียน และอาจมีความผิดพลาดได้