ล่าสุดผมได้อ่านรายงานของ World Gold Council ฉบับล่าสุดสดๆ ร้อนๆ ได้ข้อมูลที่น่าสนใจมา ดังนี้
- ความต้องการทองคำโดยรวม ในไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 1,034 ตัน ต่ำกว่าปีที่แล้วถึง 18% #ความเห็น ดูเหมือนน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วมาจากไตรมาส 1 ปีที่แล้วที่ฐานสูงมาก ซึ่งตอนนั้นหลัก ๆ มาจาก ETF ที่มีเงินไหลเข้ามากในรอบหลายปี
. - ETF ทองคำมีแรงซื้อเพิ่มขึ้น 109 ตันในไตรมาส 1/60 ลดลงเมื่อเทียบกับ net buy 342 ตันในไตรมาส 1/59 #ความเห็น เป็น net buy ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แม้จะ net buy ไม่เท่าปีก่อนหน้า แต่ก็ยังดีกว่าเป็น net sell
- เหรียญทองและทองคำแท่งโต 9% คิดเป็น 290 ตัน หลัก ๆ มาจากคนจีน ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมาเก็บทองแท่งเพิ่มถึง 106 ตัน
- ธนาคารกลางโดยรวมซื้อทองเพิ่มขึ้น 76 ตัน #ความเห็น ซื้อน้อยกว่าหลายไตรมาสที่ผ่านมา แต่ถือว่าพอใช้ได้เพราะยังเป็น net buy
- ดูแนวโน้มปริมาณการผลิตทองระยะยาวทาง World Gold Council วิเคราะห์ว่าเมื่อดูจากปริมาณการลงทุนของเหมืองทองที่ลดลงถึง 65% ในปี 2012 ถึง 2016 จะส่งผลให้ผลผลิตทองคำจากเหมืองลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2018 – 2022
#สรุป
- เมื่อดูจากอุปสงค์ อุปทาน สรุปได้ว่าปัจจัยพื้นฐานยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้ดูตัวเลขจะน่ากลัว demand ลดลง 18% แต่ดูเนื้อใน ทั้ง ETF ทองแท่ง และ ธนาคารกลาง ยังเป็น net buy ทั้งสิ้น แต่ที่ตัวเลขลดลงเป็นเพราะว่าปีก่อนหน้ามีแรง net buy ETF ที่มากผิดปกติ ในส่วนของ Supply ก็เห็นได้ชัดว่ากำลังจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป
- ปัจจัยระยะสั้นที่รบกวนในช่วงนี้ มาจากการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ประกาศออกมาดี ทำให้ตลาดเชื่อว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่เริ่มชะลอตัวลง ทำให้ sentiment ไม่ดีในช่วงนี้
- ส่วนภาพ Technical ในภาพสุดท้าย แนวโน้มทองคำระยะยาว 1 – 2 ปียังดูเป็นขาขึ้นนับตั้งแต่ทะลุแนวต้านหลักในต้นปี 2016 ที่ผ่านมา (เส้นสีเขียว) โดยปัจจุบันถือเป็นขาขึ้น wave 3 แต่ในระยะสั้นทองคำลดทะลุแนวรับที่ 1250 ไปแล้ว (เส้นสีแดง) ถือว่าเป็นการปรับฐานที่โหดทีเดียว โดยเมื่อมองควบคู่กับปัจจัยพื้นฐานแล้วผมมองว่าทองคำไม่น่าจะหลุดแนวรับหลักต่อไปที่ 1200 $ (เส้นประสีขาว)
.
ก็ขอเอาใจช่วยคนติดดอยทองระยะสั้น (รวมผมด้วย ^^) ให้ผ่านพ้นความหฤโหดในช่วงนี้ไปด้วยกันครับ
FundTalk รายงาน
ที่มาภาพประกอบ World Gold Council, Bisnews
แท็ก: