กลยุทธ์การลงทุนแบบ Total Return Approach เป็นแนวทางที่ถูกค้นคิดโดย Bill Gross ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Fund Manager ตราสารหนี้เบอร์ 1 ของโลก (อ่าน http://bit.ly/BillGross ) โดย Bill Gross เป็นผู้ก่อตั้งกองทุน PIMCO ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Bill Gross ได้ระบุในหนังสือ “Bill Gross on Investing” ว่านักลงทุนตราสารหนี้ทั่วไปมักจะมอง “Yield” หรืออัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้เป็นหลักในการเลือกลงทุน แต่แนวทางแบบ Total Return Approach จะมีเป้าหมายในการทำให้ผลตอบแทนรวมจากราคาตลาดทั้งที่มาจาก Yield, กำไร/ขาดทุนของตราสารหนี้ให้ดีที่สุด และมีระดับความผันผวนที่เหมาะสม
กระบวนการลงทุนของ PIMCO ในปัจจุบันเป็นกระบวนการลงทุนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วถึงผลตอบแทนที่สม่ำเสมอตลอดเกือบ 40 ปีที่จัดตั้งกองทุนมา โดยทีมงานจะเริ่มจากการประชุม “Secular Outlook” ซึ่งเป็นการกำหนดมุมมองเศรษฐกิจระยะยาว 3 – 5 ปี ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าวจะมีการเชิญ Guru ด้านเศรษฐกิจของโลกเช่น อดีตผู้ว่าธนาคารกลาง, นักลงทุนระดับโลก เข้าร่วมลงทุน เพื่อกำหนดมุมมองเศรษฐกิจ ล่าสุดมุมมองระยะยาวของ PIMCO คือภาวะ “New Normal” ซึ่งหมายถึงแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกใน 3 – 5 ปีข้างหน้าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ต่ำกว่าทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงกระแสการค้าเสรีที่จะลดน้อยลง และการกลับมาควบคุมของทางการที่มากขึ้น ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ในช่วงปี 2008 ที่ผ่านมา
เมื่อมั่นใจต่อมุมมองระยะยาวทางเศรษฐกิจโลก ทีมผู้จัดการกองทุนจะร่วมกันกำหนดกลยุทธ์การลงทุน ว่าหลักทรัพย์ในกลุ่มใดเป็นหลักทรัพย์ที่จะมีแนวโน้มในการให้ผลตอบแทนที่ดี ทีมผู้จัดการกองทุนจะทำการทำการปรับเปลี่ยนการถือครองสินทรัพย์หลัก [Core Asset] ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงของวัฏจักรเศรษฐกิจ (Sector Rotation) ในแต่ละกลุ่มสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับมุมมองที่ได้มาจาก Secular Outlook ทั้งนี้ สินทรัพย์หลักที่จะนำมาวิเคราะห์แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้ (อ่านบทความเรื่อง “Sector Rotation” ได้ที่ http://bit.ly/SectorRotation )
1. Treasuries หมายถึง พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
2. Investment Grade Corporates หมายถึง ตราสารหนี้ภาคเอกชนระดับ BBB- ขึ้นไป
3. Emerging Market Debt หมายถึง ตราสารหนี้ที่ออกโดยประเทศกลุ่ม Emerging Market เช่น บราซิล, จีน
4. High Yield Bonds หมายถึงตราสารหนี้เอกชนระดับต่ำกว่า BBB- [Junk Bond]
5. Convertible Bonds หมายถึง หุ้นกู้แปลงสภาพ [ตราสารหนี้ที่มีสิทธิ์แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ]
6. Equities หมายถึง ตราสารทุน
ที่ผ่านมา กลยุทธ์การลงทุนแบบ Total Return Approach ได้สร้างผลตอบแทนที่ดีใหกับพอร์ตการลงทุนของ PIMCO อย่างเป็นที่ประจักษ์ในหลายเหตุการณ์ ยกตัวอย่างเช่น
– ปี 1990: PIMCO มองเห็นการสิ้นสุดของสงครามเย็นซึ่งเป็นบวกต่อตราสารหนี้ PIMCO จึงได้ปรับพอร์ตเพื่อรับประโยชน์จากตลาดขาขึ้นในช่วงปี 1990
– ปี 1997: เมื่อโลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ PIMCO แสดงความกังวลถึงปัญหาหนี้ระยะสั้นของภาคเอกชนจึงได้ลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนลงก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง
– ปี 2005: PIMCO มีมุมมองที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Credit Crisis ทั่วโลกและได้ลงทุนเน้นตราสารหนี้คุณภาพสูงเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ
– ปี 2008: ก่อนเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 PIMCO ได้มองเห็นถึงปัญหาในภาคสถาบันการเงิน ขณะเดียวกันได้ปรับเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้ที่ค้ำประกันโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายหลังราคาปรับลงอย่างรุนแรง ก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาถือครอง Fannie & Freddie และราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ความสำเร็จในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอของ PIMCO ทำให้กองทุน PIMCO Total Return Bond Fund มีขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นกองทุนรวมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 8.68% ต่อปีนับแต่จัดตั้งกองทุนในปี 1987 และมีความผันผวนที่ต่ำกว่ากองทุนตราสารหนี้ทั่วโลกทั่ว ๆ ไป ส่งผลให้ได้รับการไว้วางใจจากนักลงทุนนับล้านคนและมีนักลงทุนจำนวนมากทีใช้กองทุนนี้เป็นสินทรัพย์หลัก (Core Asset) สำหรับพอร์ตการลงทุน
ติดตามความรู้เรื่องการลงทุน และการวิเคราะห์เศรษฐกิจโดยเหล่า Investment Guru ได้ที่ http://FundManagerTalk.com , http://Facebook.com/FundManagerTalk , http://Twitter.com/FundTalk สำหรับวันนี้… สวัสดีครับ