Dynamic Contrarian Model Portfolio (หรือในชื่อเดิม FundTalk Contrarian Portfolio) เตรียมเปิดให้ลงทุนอย่างเป็นทางการผ่านแผนการลงทุน Model Port ของ Finnomena Funds ในวันที่ 25 ธันวาคม 2024
DCM (Dynamic Contrarian Model Portfolio) เป็นพอร์ตลงทุนสไตล์ Contrarian (สายสวน) ‘ย่อซื้อ ขึ้นขาย’ เน้นลงทุนในหุ้นรายประเทศ หรือ Sector ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ราคาปรับตัวลดลง หรือขึ้นน้อย รวมถึงใช้หลักการเดียวกันในการเข้าลงทุนสินทรัพย์ Multi Assets
โอกาสการลงทุนใน ARK
หลังจากที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา และกำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม 2025 ที่จะถึงนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และบล็อกเชนที่ต่างปรับตัวขึ้น ตอบสนองต่อนโยบายที่ทรัมป์ได้หาเสียงเอาไว้ก่อนหน้านี้ สวนทางกับช่วงก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวทำผลตอบแทนได้ไม่ค่อยดีนัก นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มบล็อกเชนยังได้อานิสงส์จากนโยบายด้านคริปโตเคอร์เรนซีที่ทรัมป์ได้หาเสียงเอาไว้ โดยประกาศสนับสนุนการจัดตั้ง Bitcoin Strategic Reserve ซึ่งเป็นทุนสำรองสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ และประกาศสนับสนุนการขุดคริปโตเคอร์เรนซีภายในประเทศ
กราฟราคา ARK Next Generation Internet ETF (เส้นสีน้ำเงิน) เทียบกับ S&P 500 (เส้นสีแดง)
ก่อนและหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ (เส้นประสีเหลือง)
Source: Finnomena Funds, TradingView as of 17/12/2024
FundTalk มีมุมมองว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเหล่านี้จะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อภายใต้รัฐบาลทรัมป์ จึงมีคำแนะนำเข้าซื้อกองทุน SCBNEXT(A) ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก ARK Next Generation Internet ETF ลงทุนในหุ้น Tesla, หุ้นเทคโนโลยีขนาดเล็ก เช่น Roku, Roblox, Shopify และผสมกับหุ้นกลุ่มบล็อกเชนที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายด้านคริปโตเคอร์เรนซีของทรัมป์ เช่น Coinbase และ Robinhood
ลดสัดส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นเกาหลีใต้ พร้อมเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นอินเดีย
FundTalk ยังคงมีมุมมองที่ดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานสหรัฐฯ โดยนโยบายของทรัมป์ที่จะเน้นการผลิตน้ำมันภายในประเทศสหรัฐฯ ถึงแม้การเพิ่มกำลังการผลิต จะเป็นการเพิ่มอุปทานน้ำมัน แต่นโยบายดังกล่าวน่าจะช่วยให้บริษัทกลุ่มพลังงานในสหรัฐฯ สามารถผลิตน้ำมันในปริมาณที่มากขึ้น และส่งผลต่อปริมาณน้ำมันที่ขายได้ อย่างไรก็ดี จากปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนทั้งจากทรัมป์และกลุ่ม OPEC ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ทำให้ตัดสินใจ ลดสัดส่วนกองทุน KT-ENERGY เพื่อนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่คาดหวังการเติบโตได้สูงกว่า
EV Snapshot ดัชนี KOSPI
Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 16/12/2024
ในส่วนของหุ้นเกาหลีใต้ หลังจากที่มีประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ ล่าสุด ประธานาธิบดี Yoon Suk Yeol ได้ถูกลงมติถอดถอน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองขึ้น ประกอบกับมุมมองที่ไม่ดีนักของหุ้น Samsung Electronics ซึ่งเป็นหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ โดยในปัจจุบันราคาปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา FundTalk จึงมีคำแนะนำขายกองทุน DAOL-KOREAEQ ออกทั้งหมด โดยสับเปลี่ยนเงินลงทุนไปยังหุ้นอินเดีย ผ่านกองทุน TISCOINA-A ซึ่งลงทุนในกองทุนหลักทั้งหมด 3 กองทุน คือ Goldman Sachs India Equity Portfolio, FSSA Indian Subcontinent Fund และ Nomura Funds Ireland – India Equity Fund ซึ่งทั้งสามกองทุนลงทุนในหุ้นอินเดีย และเป็นกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้ดีเมื่อเทียบกับกองทุนในหมวดเดียวกัน โดยกองทุนนี้ไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเสียต้นทุนป้องกันความเสี่ยงในส่วนนี้
ปรับสัดส่วนการลงทุนใน AI Value Chain
AI Value Chain
Source: Finnomena Funds, Nasdaq as of 18/12/2023
ในส่วนของการลงทุนในหุ้นกลุ่ม AI FundTalk มีมุมมองว่าหุ้น AI ในกลุ่มต้นน้ำ ได้แก่ หุ้นกลุ่ม Semiconductor และผู้ผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง อาจมี upside เริ่มจำกัด จากปัจจัยเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ที่อาจส่งผลต่อรายได้ของบริษัทในกลุ่มนี้ ในขณะที่บริษัทในกลุ่มกลางน้ำ ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มและโมเดล AI อย่าง Microsoft, Amazon, และ Alphabet คาดว่าจะสามารถทำผลตอบแทนได้ดีต่อเนื่อง และหุ้นกลุ่มปลายน้ำที่เป็นผู้ใช้งานโมเดล AI หรือสร้างแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง น่าจะเริ่มสร้างกำไรจากการใช้งาน AI ที่หลากหลายขึ้น
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกบริษัทปลายน้ำจะสามารถสร้างกำไรได้จากปัจจัยดังกล่าว จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด FundTalk จึงมีคำแนะนำขายกองทุน MEGA10AI-A ซึ่งลงทุนในหุ้นกลุ่มต้นน้ำและกลางน้ำเป็นหลัก และสับเปลี่ยนเงินลงทุนไปยังกองทุน TISCOAI-A ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก Xtrackers Artificial Intelligence and Big Data UCITS ETF กองทุนนี้ลงทุนกระจายในทุกส่วนของ AI Value Chain ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยน้ำหนักของหุ้นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ปลายน้ำเป็นหลัก และมีการคัดเลือกหุ้นผ่านการจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับ AI ถือเป็นวิธีการคัดเลือกหุ้นที่สามารถค้นหาหุ้นที่น่าจะทำกำไรได้จากการใช้งาน AI ที่มีประสิทธิภาพ
สรุปคำแนะนำปรับพอร์ต Dynamic Contrarian Model Portfolio วันที่ 17 ธันวาคม 2024
- หุ้นสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ 10% MEGA10-A
- หุ้นเวียดนาม 15% PRINCIPAL VNEQ-A
- หุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็ก 15% ASP-USSMALL-A
- หุ้น AI และ Big Data 10% TISCOAI
- หุ้นพลังงานทั่วโลก 10% KT-ENERGY
- หุ้นอินเดีย 10% TISCOINA-A
- หุ้นเทคโนโลยี 10% SCBNEXT(A)
- ตราสารหนี้โลก 20% MUBONDUH-A
จัดทำโดยบลป.เดฟินิท (Definit) สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
สามารถเข้าถึงรายละเอียดกองทุนต่าง ๆ และ Fund Fact Sheet ได้จาก Link บนชื่อกองทุน
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299