กลับมาพบกับ Bottom-Up SPACE กันอีกครั้งโดยวันนี้ผมจะขอแนะนำภาคต่อเกี่ยวกับการเลือกหุ้นด้วยแนวคิด 3 ล้อถูกหวย หรือ iO3 โดยตอนนี้เป็นตอบจบ (อ่านตอนแรก “คลิ๊ก”) และสำหรับท่านที่สนใจร่วมโครงการ SPACE สามารถร่วมกันฝึกฝนการลงทุนในหุ้น กองทุน ดัชนี ได้ง่าย ๆ เพียงค้นหาคำว่า “SPACE by FINNOMENA” ในเฟสบุ๊ค เรากำลังจะเปิดรับ SPACER รุ่นต่อไปเร็ว ๆ นี้ครับ
ไปดูล้อที่สองและสามของแนวคิด iO3 กันครับ ซึ่งได้แก่ LOW HOPE และ REASONABLE PRICE มันคืออะไรกันแน่
LOW HOPE
คือหุ้นที่ตลาดมีความคาดหวังต่ำ ปัจจัยนี้หลายคนมักจะนำไปปะปนกับเรื่อง Valuation ถ้าหุ้นขึ้นเยอะ หรือ Valuation แพง ก็มักจะเรียกว่าหุ้น High Hope
จริง ๆ แล้วสำหรับแนวคิด IO3 หุ้น Low Hope ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่อง Valuation เป็นหลัก แต่ดูได้จาก 2 ปัจจัยต่อไปนี้
Undiscover หุ้นที่นักวิเคราะห์ ยังไม่ cover ส่วนมากเป็นหุ้นขนาดกลาง/เล็กที่ตลาดยังไม่รู้จัก (Undiscover) หรืออาจเป็นหุ้นที่ขาดสภาพคล่อง กลุ่มนี้ผมเรียกว่าเพชรในตมที่ยังไม่ถูกค้นพบ และเมื่อกำไรบริษัทโตมาก ๆ นักข่าวเริ่มสนใจ เริ่มมีนักวิเคราะห์เข้ามาดู หนังสือพิมพ์เริ่มลง หุ้น LOW HOPE ก็จะมีแรงซื้อเข้ามาจากนักลงทุนครับ
Hold/Sell หุ้นที่นักวิเคราะห์และหนังสือพิมพ์แนะนำ ขาย (SELL/Underweight) หรือแนะนำถือ (HOLD/Neutral) โดยธรรมชาตินักลงทุนมักจะมองหาหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” แต่แท้จริงแล้วหุ้นที่นักวิเคราะห์ออกบทวิเคราะห์แนะนำซื้อมาก ๆ มันคือหุ้น HIGH HOPE ที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของนักลงทุนที่อ่านและซื้อหุ้นไปก่อนหน้านี้ ถ้าหากผลประกอบการไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง หุ้น HIGH HOPE จะลงได้แรงทีเดียวครับ
กลับกันหากเป็นหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำขาย หรือตามหน้าหนังสือพิมพ์มีข่าวร้ายมาก ๆ ราคาหุ้นมักจะถูกเทขายออกมาพอสมควร ซึ่งผมเรียกว่าหุ้น LOW HOPE ถ้าหากผลประกอบการหุ้นตัวนั้นออกมาดี จะถือเป็นเรื่อง Surprise ในทางบวก และทำให้หุ้นดีดได้แรงครับ
สรุป คือหุ้น LOW HOPE คือหุ้นที่ยังไม่ค่อยมีหนังสือพิมพ์พูดถึง หรือนักวิเคราะห์ยังไม่ cover และหุ้นที่ตามหน้าหนังสือพิมพ์มีแต่ข่าวร้าย หรือนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำขาย/ถือ ครับ
REASONABLE PRICE
ล้อที่ 3 ล้อสุดท้ายของแนวคิดเลือกหุ้นแบบ 3 ล้อถูกหวยคือเรื่อง Valuation ซึ่งยากมากครับทุกวันนี้ที่จะหาหุ้น ที่ Valuation ถูก + HIGH GROWTH อย่างเช่นตัวอย่างต่อไปนี้
หุ้น QWER ปัจจุบันกำไรต่อหุ้น 1 บาท ซื้อขายที่ P/E 15 เท่า ราคาหุ้น 15 บาท
1 – 3 ปีถัดมาหุ้น QWER กำไรโตแรงประมาณ 30% ต่อปี และดูเหมือนจะโตในระดับนี้ไปได้อีกระยะ ตลาดจึงปรับค่า P/E ให้เป็น 30 เท่า
หุ้น QWER ใน 3 ปีข้างหน้ามีกำไร 2 บาทต่อหุ้น เทรดที่ P/E 30 เท่า คิดเป็นราคาหุ้น 60 บาท
หุ้น QWER มีราคาเพิ่มขึ้น 4 เด้งมาจาก 2 X 2 คือราคาขึ้น 2 เด้งจากการที่กำไรโตขึ้น 2 เท่า คูณอีก 2 เป็น 4 เด้งจาก P/E Multiple ที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว
ไม่ง่ายครับที่จะเจอหุ้นถูกและดีทุกวันนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี โอกาสมีเสมอสำหรับคนที่ทำงานหนักครับ สำหรับเรื่อง Valuation หรือ REASONABLE PRICE นี้ผมมักดู P/E เป็นหลัก ขอให้ P/E ไม่แพงกว่า GROWTH RATE เป็นใช้ได้ ยิ่งถ้าได้หุ้นที่ P/E ต่ำกว่า Growth ถือว่าเป็นกำไรชีวิต
ความสมน้ำสมเนื้อของการดูมูลค่ากิจการด้วย Market Cap…สุดท้ายคือศิลปะเรื่อง Valuation โดยการเปรียบเทียบ Market Cap ของแต่ละกิจการเพื่อดูความสมน้ำสมเนื้อ และสมเหตุสมผล
เช่น TRUE มี Market Cap ประมาณ 400,000 ล้าน ขณะที่ DTAC ประมาณ 86,000 ล้านดูแล้วไม่สมน้ำสมเนื้อ DTAC ถูกไป หรือไม่ก็ TRUE แพงไป
SAWAD 42,000 ขณะที่ TISCO 36,000 ดูแล้วฝืนความรู้สึก เป็นต้น
การจำ Market Cap ของหุ้นแต่ละตัวนั้นมีประโยชน์มากกว่าการมานั่งจำราคาหุ้นเยอะครับ เพราะทำให้เราสามารถดูความสมน้ำสมเนื้อ ของมูลค่ากิจการแต่ละบริษัทเปรียบเทียบกันได้ ดูไปมาก ๆ เข้า เปรียบเทียบไปจนถึงกับบริษัทต่างประเทศสุดท้ายแล้วจะช่วยให้มุมมองของเราเฉียบขาดขึ้นเยอะครับ
ทั้งหมดก็เป็นแนวคิดการเลือกหุ้นแบบ IO3 ที่นำมาเสนอในวันนี้ ผมจัดให้เต็ม ๆ ไม่มีเม้มเพื่อหวังให้ท่านที่ได้อ่านจะนำไปใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์หุ้นให้ได้ด้วยตัวเอง สามารถสร้างพื้นที่การลงทุนของตัวเอง และตัดสินใจซื้อขายได้ด้วยตัวเองในที่สุดสุดท้ายก็ขอให้พลัง และแรงบันดาลใจในการขุดหุ้นจนสถิตย์อยู่กับท่าน และขอให้ทุกท่านที่ตั้งใจจริงจงประสบความสำเร็จในการลงทุนด้วยเทอญ สวัสดีครับ
ที่มาบทความ : http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/638410