หลังหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงมาอย่างรุนแรง คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดหุ้นอเมริกายังคงเป็นตลาดที่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและโดดเด่นหลังวิกฤติ รวมถึงเป็นผู้นำในการสร้างผลตอบแทนที่มองข้ามไม่ได้ ในระยะยาวพิสูจน์ผ่านช่วงหลายปีที่ผ่านมา
คำถามถัดมาที่ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยก็คือหลังช่วงวิกฤติที่ผ่านมามีกองทุนที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ กองไหนบ้างที่โดดเด่นวันนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสอันดี ที่ผมจะมาทำกันรีวิวกองทุนหุ้นสหรัฐ ฯ ที่ดีดตัวจากวิกฤติที่ผ่านมาได้อย่างโดดเด่น
เปิดบัญชีกองทุน FINNOMENA วันนี้ รับฟรี! กองทุนมูลค่า 100 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://finno.me/oa1190
1) K-USA-A (A) หรือ K-USA-A (D)
กองทุนแรกที่ทำผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นหลังวิกฤติคงหนีไม่พ้นกองทุนอย่าง K-USA-A (A) ผู้ชนะในกองทุนกลุ่มหุ้นอเมริกาที่สร้างผลตอบแทนไปได้ถึง 50.99%! (นับจาก 3 เดือนย้อนหลังในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2020 โดยหุ้นเริ่มฟื้นตัวจากจุดตํ่าที่สุดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2020) เฉลี่ยเทียบกับกองทุนในกลุ่มเดียวกันที่ 32.13% ซึ่งเรียกได้ว่าถึงแม้จะนับผลตอบแทนย้อนหลังมา 5 วันก็ยังฟื้นตัวกลับมาได้อย่างน่าทึ่งและเหลือเชื่อ
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน K-USA-A (A) ที่มา: www.finnomena.com
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน K-USA-A (D) ที่มา: www.finnomena.com
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อแตกต่างระหว่าง K-USA-A (A) กับ K-USA-A (D)
ข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวระหว่างสองกองทุนนี้ก็คือ K-USA-A (D) นั้นมีการจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนระหว่างที่ถือครองอยู่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับกระแสเงินสดระหว่างการลงทุนออกมาบ้าง
ในขณะที่ K-USA-A (A) นั้นไม่มีการจ่ายปันผลออกมา เหมาะสำหรับสายสะสมเงินทุนเติบโตแบบเน้น ๆ
ส่วนอันไหนดีกว่าอีกอันยังไง ก็คงต้องบอกว่าดีคนละแบบครับ อยู่ที่ความต้องการของแต่ละ คนว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน แต่ก็ต้องบอกก่อนว่า K-USA-A (D) อาจมีผลตอบแทนที่ต่างกันเล็กน้อยจากการที่แบ่งส่วนมาจ่ายปันผล
ภาพแสดงประวัติการปันผลย้อนหลังกองทุน K-USA-A (D) ที่มา: www.finnomena.com
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ปันผลมาเรื่อย ๆ สร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องหรือจะเรียกเป็นภาษาสุดคูลว่า “Passive Income!!”
K-USA-A (A) / K-USA-A (D) ลงทุนในอะไร?
ลงทุนใน Morgan Stanley US Advantage Fund ซึ่งเน้นไปที่การลงทุนในหุ้นอเมริกา ที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว
โดยมีปรัชญาหลักในการลงทุนอย่างการเฟ้นหาหุ้นหรือบริษัทที่มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในหมวดหมู่ธุรกิจเดียวกัน มีแบรนด์ที่แข็งเเกร่ง มีกระแสเงินสดหมุนเวียนอย่างเข้มแข็ง แสดงถึงศักยภาพในการขยับขยายธุรกิจเพิ่มเติมรวมถึงสภาพคล่องที่ต่อเนื่อง และมีผลตอบแทนอยู่ในหมวดหมู่หุ้นกลุ่มผู้นำ
ผลตอบแทนในระยะยาว
ผลตอบแทนย้อนหลังของ Morgan Stanley US Advantage Fund เทียบเคียงดัชนี S&P 500
ที่มา: เอกสารสรุปข้อมูลกองทุน www.morganstanley.com
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ตัวกองทุนเน้นการเทียบเคียง (Benchmark) กับดัชนี S&P 500 เป็นหลัก ซึ่งช่วงล่าสุดเองก็เน้นหนักการลงทุนไปหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่สอดคล้องล้อไปกับปรัชญาการเลือกหุ้นของกองในการเลือกหุ้นที่โดดเด่นและแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั้นได้รับผลกระทบในช่วงขาลงที่ค่อนข้างน้อย และสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือหากเทรนด์ธุรกิจในอนาคตมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไป (อาจไม่ใช่กลุ่มเทคโนโลยี) ทางกองทุนเองก็ไม่จำเป็นต้องยึดติดและรุกหนักในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเดียว และพร้อมที่จะโยกย้ายไปลงทุนในกลุ่มธุรกิจกระแสใหม่ในอนาคตที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหนือชั้น
ซึ่งหากจะเปรียบเทียบง่าย ๆ การลงทุนใน K-USA-A ก็คงจะเหมือน…
“การที่ผู้จัดการกองทุนเป็นนักชิมที่เลือกและสรรหาการทานอาหารรสเลิศ วัตถุดิบคุณภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการในร้านอาหารดี ๆ แต่ก็ยังมีการเปิดโอกาสให้ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่อาจเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นร้านอาหารชั้นยอดได้ในอนาคต” (ความเห็นส่วนตัวผู้เขียน)
สัดส่วนหมวดธุรกิจหลักที่ลงทุนในปัจจุบัน ที่มา: เอกสารสรุปข้อมูลกองทุน www.morganstanley.com
“เน้นหนักกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นกลุ่มผู้นำที่แท้จริง”
2) SCBBLN หรือ SCBBLNP
มาถึงกองทุนที่สองที่กลับตัวมาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ซึ่งกองทุนนั้นก็คือ… SCBBLN หรือ SCBBLNP นั่นเอง ซึ่งที่ผ่านมาก็พลิกโผกลับมาได้ด้วยการสร้างผลตอบแทนแบบไม่ธรรมดาเช่นกัน และสร้างผลงานไว้ที่ 48.03% สำหรับ SCBBLNP ตามมาด้วย SCBBLN ที่สร้างผลตอบแทนได้ 47.59% เทียบเคียงกับกองทุนในกลุ่มเดียวกันที่ทำผลตอบแทนได้อยู่ที่ 30.28%
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน SCBBLN ที่มา: www.finnomena.com
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน SCBBLNP ที่มา: www.finnomena.com
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อแตกต่างระหว่าง SCBBLN กับ SCBBLNP
ความจริงหนึ่งเดียวของข้อแตกต่างระหว่างสองกองทุนนี้ก็คือ SCBBLNP เป็นกองทุนที่ขายให้กับ Provident fund หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งหากเรา ๆ เป็นนักลงทุนรายย่อยจะไม่สามารถซื้อขายได้ เพราะฉะนั้น คำตอบเดียวของเราก็คือ SCBBLN ซึ่งไส้ในกองก็เหมือนกัน เป๊ะ ๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงวางใจได้
SCBBLN/SCBBLNP ลงทุนในอะไร?
SCBBLN เป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นหนักไปที่การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ เช่นกัน แต่ SCBBLN มีจุดพิเศษอย่างการกระจายการลงทุนไปในหลาย ๆ Sector และที่สังเกตุได้ก็คือ Sector หลักของกองทุนตามข้อมูลล่าสุดล้วนเป็นกลุ่มผู้นำทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Healthcare หรือจะเป็นกลุ่ม Software & Services ที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งคงไม่เป็นที่น่ากังขาสำหรับผลตอบแทนที่สามารถกลับมาได้อย่างโดดเด่น
SCBBLN หรือ SCBBLNP จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่มีการกระจายการลงทุนในหลาย ๆ ภาคส่วนอย่างทั่วถึงเพื่อกระจายความเสี่ยงรวมถึงผลตอบแทน โดยเลือกตัวชูโรงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง
ภาพแสดงสัดส่วนการลงทุนหลักของ SCBBLN ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2563
ที่มา: เอกสารข้อมูลสรุปของกองทุน เว็บไซต์ scbam.com
ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง
เนื่องด้วยการลงทุนแบบยั่งยืนที่แท้จริง อาจจะเป็นการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นในส่วนนี้จะขอย้อนผลตอบแทนกลับไปตั้งแต่จัดตั้งกันเลย
แต่จะเรียกว่าผลตอบแทนระยะยาว ก็คงจะไม่ใช่ เพราะ ทางกองทุนเองจัดตั้งมาได้ราว ๆ 3 ปีกับอีกนิดหน่อย ดังนั้นใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจกันด้วยนะครับ
ภาพแสดงผลการดำเนินงานกองทุน SCBBLN ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2563
ที่มา: เอกสารข้อมูลสรุปของกองทุน เว็บไซต์ scbam.com
*เกณฑ์มาตรฐานอิงจากดัชนี Solactive US Top Billionare Investors Index (ดัชนีรวมหุ้น 30 ตัวจากพอร์ตโฟลิโอ ของผู้มีเงินทุนระดับหมื่นล้านขึ้นมาได้จากการลงทุนหรือการจัดการสินทรัพย์)
ต่อไปก็มาถึงกองทุนอันดับ 3 ที่ใคร ๆ หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้คิดว่าหุ้นในกลุ่มนี้จะมีการพลิกโผติดอันดับของเราขึ้นมาได้
กองทุนนั้นก็คือ! SCBUSSM หรือ SCBUSSMP กองทุนหุ้นกลุ่ม Small cap หรือหุ้นที่มีขนาดเล็กนั่นเอง
3) SCBUSSM หรือ SCBUSSMP
ในช่วงที่ผ่านมาทางกองทุนหุ้นจิ๋วแต่แจ๋ว ก็สร้างผลตอบแทนกลับมาได้ไม่แพ้สองกองทุนข้างต้น และติดโผเป็นอันดับที่ 3
โดยทั้ง SCBUSSM/SCBUSSMP ทำผลตอบแทนไว้ที่ 43.25% เทียบกับกองทุนในกลุ่มเดียวกันที่ 25.80% นับจากรอบขาลงเมื่อเดือนมีนาคม
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน SCBUSSM ที่มา: www.finnomena.com
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อแตกต่างระหว่าง SCBUSSM กับ SCBUSSMP
เป็นข้อแตกต่างเช่นเดียวกับกองทุน SCBBLN โดยการเติม P เข้าไปสื่อถึงว่า สำหรับกองทุน Provident fund ซึ่งถ้าหากเราเป็นนักลงทุนรายย่อย ก็จะลงทุนใน SCBUSSM แทน
เจาะลึก SCBUSSM/SCBUSSMP ลงทุนในอะไร?
ในส่วนนี้อาจจะค่อนข้างพิเศษกว่ากองทุนต่าง ๆ ข้างต้นด้วยความที่กองทุนลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก และถ้าถามว่าความพิเศษของหุ้นขนาดเล็กคืออะไร? คำตอบก็คือในบางช่วงเวลาหุ้นขนาดเล็กอาจเป็นหุ้นที่ทุกคนมองข้าม ซึ่งก็หมายความว่าหากถึงช่วงเวลาที่มูลค่าของมันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น หุ้นขนาดเล็กจะกลับมาซิ่งเพื่อคืนมูลค่าเดิมของมันนั่นเอง!
มาเจาะกันต่อในส่วนของไส้กองทุนที่มีการบริหาร / ลงทุนใน Dimensional funds plc – us small companies fund ซึ่งเป็นกองทุนที่คัดหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็ก แต่คุณภาพคับแก้ว โดยเน้นการเติบโตในระยะยาว
ผลตอบแทนในระยะยาว
ในส่วนของผลตอบแทนในระยะยาวหากย้อนหลังนับไปตั้งแต่จัดตั้งราว ๆ 10 ปี ก็อาจจะดูไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ทางกองทุนเองก็ยังจัดการให้ผลตอบแทนยืนหยัดอยู่เหนือ Benchmark (ดัชนี Russell 2000 ได้) โดยทำผลตอบแทนไว้ที่ 9.23% นับตั้งแต่จัดตั้งเทียบกับเกณฑ์ที่ 8.46%
ภาพแสดงผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน Dimensional funds plc – us small companies นับตั้งแต่จัดตั้ง ที่มา: www.us.dimensional.com
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
หากถามความเห็นส่วนตัวผู้เขียนกองทุนกลุ่มนี้เล่นรอบน่าจะดีกว่า ลงทุนแบบระยะยาวนะครับ…
ก็จบกันไปนะครับ สำหรับรีวิว 3 กองทุนที่ลงทุนในสหรัฐฯ เป็นหลักและปรับตัวได้โดดเด่น ยังไงก็ลองนำไปปรับใช้ประกอบการตัดสินใจกันดูได้ครับ
เปิดบัญชีกองทุน FINNOMENA วันนี้ รับฟรี! กองทุนมูลค่า 100 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://finno.me/oa1190
Jessada Sookdhis
Investment Analyst (IA)
ตรวจทานบทความ
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้
References
https://www.scbam.com/medias/fund-doc/fund-summary-aimc/SCBBLN_FUNDSUM.pdf
https://solactive.com/downloads/Solactive_US_Top_Billionaire_Investors_Index_Guideline.pdf
https://us.dimensional.com/funds/us-small-cap