ทำความรู้จัก TSMC

Highlight ของบทความนี้ (คลิกอ่านส่วนที่สนใจได้เลย)


ที่ผ่านมา ถ้าใครได้ติดตามข่าวน่าจะเคยได้ยินชื่อนวัตกรรมเหล่านี้กันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ชิป Blackwell ของ Nvidia ชิป Apple M4 หรือระบบ Full-Self Driving ของ Tesla

และคนที่อยู่เบื้องหลังของเทคโนโลยีทำเงินเหล่านี้ ก็คือ TSMC ที่คอยผลิตชิปป้อนให้บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้นั่นเอง

วันนี้เราเลยจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ ยักษ์ใหญ่จากไต้หวัน ที่กินตลาดการผลิตชิปมากกว่าครึ่งนึงของโลก ลองมาดูว่า TSMC มีความเป็นมาอย่างไร? มีรายได้จากไหน? และมีความสำคัญอย่างไรต่อภูมิรัฐศาสตร์โลก

ความเป็นมาของ TSMC

TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company เป็นบริษัทผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 โดย Morris Chang (มอริส จาง)

Morris Chang เกิดในจีน อพยพไปอเมริกา จบการศึกษาจาก MIT และ Stanford ได้ทำงานในฐานะวิศวกรของ Texas Instruments และ Memorex จนคร่ำหวอดในวงการเซมิคอนดักเตอร์ 

ถ้า Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia คือคนที่มีอิทธิพลสูงยิ่งในอุตสาหกรรมชิป … Morris Chang ก็ถือว่าเป็นอีกคนที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

Morris Chang เล็งเห็นโอกาสในการสร้างบริษัทรับผลิตชิป เขาจึงได้ก่อตั้ง TSMC เป็นบริษัทผู้ผลิตชิปแบบ foundry (หรือรับผลิต) รายแรกของโลก โดยเน้นการผลิตชิปให้กับบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการออกแบบชิป แต่ไม่มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง 

ประสบการณ์ของ Morris Chang ในการทำงานให้กับ Texas Instruments มีส่วนช่วยให้ TSMC ตั้งไข่และเติบโตอย่างมาก เพราะเดิมที Texas Instruments เป็นบริษัทชิปชั้นนำระดับโลก และ Morris Chang เองก็ได้นำทั้งประสบการณ์ ตัวบุคลากร รวมถึงกับสายสัมพันธ์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐฯ เข้ามาผลักดัน TSMC

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ TSMC ประสบความสำเร็จในช่วงแรกของการก่อตั้ง คือการสนับสนุนจากรัฐบาลไต้หวันด้วยการให้ทุนเริ่มต้น 48% และการสนับสนุนในด้านอื่น ๆ ในฐานะอุตสาหกรรมแห่งชาติ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษาด้านวิศวกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมชิปของไต้หวันถึงปัจจุบัน

TSMC ในตอนนี้ ครองตลาดรับผลิตชิปเกินครึ่งโลก มีความสามารถในการผลิตชิปที่มีขนาดเล็กลงไปถึง 3 นาโนเมตร ซึ่งถือว่าล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน ทำให้ชิปมีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน และมีขนาดเล็กลง โดย TSMC ผลิตชิปตัวนี้ได้ในระดับ Mass Production ได้ตั้งแต่ปี 2022 

ส่วนแบ่งรายได้ Semiconductor Foundry Industry | Source: Counterpoint Research 

แม้ตอนนี้หลาย ๆ ที่จะผลิตชิป 3 นาโนเมตรแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำออกมาได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ TSMC

เรื่องนี้ยืนยันได้จากการที่ บริษัทดัง ๆ ทั้ง Apple, Nvidia, AMD และ Qualcomm ต่อแถวซื้อชิป 3 นาโนเมตรจาก TSMC แบบเต็มอัตราจนคิวยาวไปถึงปี 2026 แล้ว

TSMC ในปัจจุบัน

ตอนนี้ TSMC รับผลิตชิปกว่า 10,000 รายการให้กับลูกค้ามากกว่า 500 ราย โดยมีโรงงานทั้งในไต้หวัน จีน และสหรัฐฯ และยังมีแผนขยายไปยังเยอรมนีและญี่ปุ่นในอนาคต

สัดส่วนรายได้ของ TSMC Q1/24 ตามอุตสาหกรรม | Source: investor.tsmc.com (Page 6)

โดยรายได้ของ TSMC มาจากลูกค้าใน 6 อุตสาหกรรม ดังนี้:

1. การประมวลผลระดับสูง คิดเป็นรายได้ 46%

  • เช่น ชิปสำหรับ AI, 5G, และ VR
  • ตัวอย่างลูกค้าคือ Nvidia ที่จ้างผลิตชิป Blackwell B200 ชิป AI ตัวท็อปของแบรนด์ 

 

2. สมาร์ตโฟน คิดเป็นรายได้ 38%

  • ตัวอย่างลูกค้าคือ Apple ที่จ้างผลิตชิป M4

 

3. ยานยนต์ คิดเป็นรายได้ 6%

  • ตัวอย่างลูกค้าคือ Tesla ที่จ้างผลิตชิปสำหรับ EV 

 

ส่วนอีก 3 อุตสาหกรรม คือ IoT คิดเป็นรายได้ 6% เครื่องใช้ไฟฟ้า 2% และอื่น ๆ อีก 2%

นอกจากนี้ รายได้ของ TSMC ยังแบ่งได้ตามระดับเทคโนโลยีที่ผลิต ดังนี้:

  1. ชิป 3 นาโนเมตร คิดเป็นรายได้ 9%
  2. ชิป 5 นาโนเมตร คิดเป็นรายได้ 37%
  3. ชิป 7 นาโนเมตร คิดเป็นรายได้ 19%

 

ชิป 3 ขนาดนี้ จัดอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีระดับสูงของ TSMC เป็นรายได้รวม ๆ กันราว 65% (หรือ 2 ใน 3)

สัดส่วนรายได้ของ TSMC Q1/24 ตามระดับเทคโนโลยี | Source: investor.tsmc.com (Page 5)

ส่วนอีก 1 ใน 3 มาจากชิปที่มีขนาด 16 นาโนเมตรขึ้นไป ที่ใช้เทคโนโลยีรองลงมา

สรุปแล้ว …

  • ถ้ามองจากสัดส่วนรายได้ เราจะเห็นว่ารายได้หลัก ๆ มาจากชิปสำหรับการประมวลผลระดับสูงที่เป็นเบื้องหลังเทคโนโลยีระดับ Talk of the Town ในปัจจุบัน เช่น ชิป M4 ของ Apple
  • หรือถ้ามองเรื่องความทันสมัยของชิปที่ผลิต รายได้หลักถึง 2 ใน 3 ก็มาจากชิปขนาดเล็กกว่า 7 นาโนเมตร ซึ่งถือว่าล้ำที่สุดในอุตสาหกรรม
  • ถึงตรงนี้เราก็จะเห็นภาพว่า … ถ้าจะผลิตชิปที่ดีที่สุด ใคร ๆ ต่างก็เชื่อใจ TSMC

ผลประกอบการของ TSMC

ต่อมาเราแวะมาดูผลประกอบการล่าสุดของ TSMC กันบ้าง ไตรมาส 1 ปี 2024 

  • มีรายได้ 5.92 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (เพิ่มขึ้น 16.5% จากปีก่อน) 
  • เหลือเป็นกำไรสุทธิ 2.25 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (เพิ่มขึ้น 8.9 จากปีก่อน)

งบกำไรขาดทุน TSMC Q1/24 | Source: https://www.appeconomyinsights.com/p/nvidia-industrial-revolution 

โดย TSMC มี Net Profit Margin อยูู่ที่ 38% พูดง่าย ๆ คือ ถ้าขายของได้ 100 บาท จะเหลือเป็นกำไรประมาณ 38 บาท 

แล้ว Margin เท่านี้ ถือว่าเยอะหรือน้อย? เราลองมาเทียบกับตลาดกันดู

  • S&P 500 เฉลี่ยทั้งตลาดมี Net Profit Margin ที่ 12% 
  • Tesla อยู่ที่ 5% 
  • Apple อยู่ที่ 26% 
  • Google อยู่ที่ 29% 
  • และ Microsoft อยู่ที่ 36%

ดังนั้นแล้ว จะพูดว่า TSMC มีอัตรากำไรสูง ก็คงไม่แปลกนัก

TSMC และสงครามชิป 

ด้วยความสำคัญและความยิ่งใหญ่ของ TSMC ในฐานะผู้รับผลิตชิป ซึ่งถือว่าเป็น ‘สมอง’ ของเทคโนโลยีในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน รถยนต์ไร้คนขับ Data Center หรือแม้แต่เทคโนโลยีทางการทหาร เช่น เรดาร์ และ จรวดนำวิถี

TSMC และไต้หวัน จึงกลายเป็นพื้นที่ความไม่ลงรอยทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ 

  • ทางด้านจีน ย้ำชัดตลอดมาถึงนโยบายจีนเดียว และน้ำเสียงยิ่งแข็งขันเป็นพิเศษเมื่อเป็นเรื่องของไต้หวัน
  • ส่วนสหรัฐฯ เองก็เป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกับไต้หวัน โดยมีกฎหมาย Taiwan Relations Act กำหนดให้สหรัฐฯ ช่วยไต้หวันในการป้องกันตนเองตั้งแต่ปี 1979

 

นอกจากนี้ สหรัฐฯ เพิ่งจะออกเงินอุดหนุน TSMC ให้มาตั้งโรงงานในแอริโซน่า ผ่านกฎหมาย CHIPS and Science Act เพื่อเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ของฝั่งตะวันตก

การเดินทางไปเยือนไต้หวันแบบหักหน้าจีนของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาฯ ของสหรัฐฯ ในปี 2022 สะท้อนชัดว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับไต้หวันแค่ไหน

ส่วนท่าทีโต้ตอบของจีนก็ชัดเจนไม่แพ้กัน เพราะออกมาประนามสหรัฐฯ พร้อมทั้งแบนสินค้าไต้หวันหลายรายการ แต่ข้อสำคัญเลย คือ ชิป ไม่ใช่หนึ่งในสินค้าที่ถูกแบน

สรุป

TSMC คืออีกธุรกิจที่มองข้ามไม่ได้ ถ้าพูดถึงอุตสาหกรรม AI เพราะไม่ว่าใครจะออกแบบชิปสำหรับ AI ได้ล้ำแค่ไหน สุดท้ายแล้วคนที่ผลิตให้ได้ก็มีอยู่ไม่กี่คน และคนที่อยู่ในแถวหน้าเลยก็คือ TSMC

โอกาสของ TSMC จึงวิ่งตามไปกับพัฒนาการด้าน AI ที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนมีลูกค้าระดับบิ๊กเข้ามาต่อแถวรอ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Nvidia, Intel, Google หรือ Microsoft

นี่คือเหตุผลว่าทำไม TSMC ถึงเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกติด Top 10 สบาย ๆ โดยเป็นบริษัทจากเอเชียตะวันออกเจ้าเดียว ท่ามกลางวงล้อมของบริษัทจากสหรัฐฯ


อ้างอิง